FAQ การเกณฑ์ทหารของ ณเดชน์ มัดรวมมาให้เป็นกระทู้เดียวครับ

ตามหัวข้อนี้มาตั้งแต่เริ่มจนถึงเวลานี้ เห็นว่าประเด็นต่างๆเริ่มตกผลึกและวนๆเวียนๆแล้วก็เลยรวบรวมมาเผื่อคนที่ต้องการทราบข้อมูลครับ ผิดพลาดบกพร่องประการใด หรือ ต้องการแก้ไขหรือมีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติม รบกวนเพิ่มที่กระทู้นี้ได้เลยครับ  

1. ตามกฏแล้วคนที่เป็นโรคหอบหืดไม่ต้องเกณฑ์ทหารจริงหรือ ?
ตามกฎของกระทรวงกลาโหม ฉบับที่ 76 พ.ศ. 2555 ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจเลือกทหารกองเกินเพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการในข้อ 5 ได้ระบุเรื่องของโรคระบบหายใจ ซึ่งถือว่าเป็นโรคประจำตัวและเป็นโรคยกเว้นที่ไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ซึ่ง โรคหอบหืด (Asthma)เป็นหนึ่งในนั้น

2. ณเดชน์เป็นหอบหืด จริงหรือ ?

ณเดชน์มีชื่อในรายชื่อ ผู้ขอรับกาตรวจโรคชายไทยก่อนเกณฑ์ทหารของโรงพยาบาลพระมงกุฏ และ แพทย์ผู้ตรวจได้ยืนยันว่าณเดชน์เป็นโรคหอบหืด (Asthma)จริง


เมื่อ ณเดชน์เอาใบรับรองไปยืนยัน ณ วันตรวจคัดเลือก แพทย์ทหารที่หน่วยตรวจเลือกทหารเซ็นทรัลขอนแก่นทำการตรวจและไม่ได้ให้ความเห็นแย้งเป็นอย่างอื่นกับแพทย์ผู้ออกใบรับรอง
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

3.  แล้วทำไมตัวผม เพื่อนผม พี่ผม ลูกพี่ลูกน้องผม คนข้างบ้านของข้างบ้านผม เป็นหอบหืดถึงต้องเกณฑ์ทหาร ?

จากข้อ 2 จะเห็นว่าการใช้ใบรับรองจากแพทย์เพื่อขอละเว้นการเข้ารับการตรวจเลือกทหาร ต้องผ่าน 2 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1.ขอใบรับรองแพทย์ว่าตนเองเป็นโรคที่อาจเข้าข่ายได้รับการยกเว้น ซึ่งต้องขอจากโรงพยาบาลทหาร 19 แห่งตามที่กองทัพบกกำหนด
ขั้นตอนที่ 2.นำใบรับรองแพทย์ที่ได้จากข้อ 1 ไปยื่น ณ หน่วยตรวจเลือกทหาร ในวันที่เข้ารับการคัดเลือก หากแพทย์ที่หน่วยตรวจเลือกทหารไม่มีความเห็นแย้ง ก็จะได้รับการละเว้นการตรวจเลือก

ฉะนั้น หากบุคคลที่เป็นหอบหืด แต่ไม่ได้รับการยกเว้น ก็อาจเป็นเพราะ มีความผิดพลาดตั้งแต่การขอใบรับรองแพทย์ หรือแพทย์ที่หน่วยเห็นแย้งกับแพทย์ผู้ออกใบรับรอง  หรือแม้กระทั่งไม่ได้ยืนยันสิทธิของตนอย่างแข็งขันพอ จนมีคำกล่าวที่ว่าถ้าคุณมีโรคที่ได้รับการยกเว้นหรือมีใบรับรองแพทย์จาก รพ.ที่กำหนดว่าได้รับการยกเว้นทหาร หากในวันตรวจคัดเลือกเจ้าหน้าที่บอกให้คุณจับฉลาก อย่าจับเด็ดขาดให้ยืนยันสิทธิของตนเองจนถึงที่สุด

4.ถ้ารู้อยู่แล้วว่าจะได้รับการยกเว้น ไปสมัครทำไม เอาหน้า สร้างภาพ หรืออย่างไร ?
ณเดชไม่ได้ไปสมัครทหาร แต่ไปเข้ารับการตรวจเลือกทหารตามขั้นตอนปกติ เป็นสื่อมวลชนบางสำนักที่ลงข่าวคลาดเคลื่อน



5. ทำไมสองปีที่แล้วถึงใช้วิธีผ่อนผันมาตลอด ในเมื่อรู้มาตั้งนานแล้วว่าตนเองเป็นโรคที่ได้รับการยกเว้นมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือเปล่า ?

คำตอบของคำถามนี้ต้องกลับไปดูข้อ 3 เกี่ยวกับการยื่นใบรับรองทางการแพทย์เพื่อขอละเว้นการเกรฑ์ทหาร
ขั้นตอนที่ 1.ขอใบรับรองแพทย์ว่าตนเองเป็นโรคที่อาจเข้าข่ายได้รับการยกเว้น ซึ่งต้องขอจากโรงพยาบาลทหาร 19 แห่งตามที่กองทัพบกกำหนด
ขั้นตอนที่ 2.นำใบรับรองแพทย์ที่ได้จากข้อ 1 ไปยื่น ณ หน่วยตรวจเลือกทหาร ในวันที่เข้ารับการคัดเลือก หากแพทย์ที่หน่วยตรวจเลือกทหารไม่มีความเห็นแย้ง ก็จะได้รับการละเว้นการตรวจเลือก

จาก 2 ขั้นตอนดังกล่าวจะเห็นว่า แม้แต่คนที่ขอรับการตรวจโรคเพื่อละเว้นการเกณฑ์ทหาร และ ได้รับหนังสือรับรองจากแพทย์อยู่ในมือแล้วแต่เมื่อไปเข้ารับการตรวจคัดเลือกตามขั้นตอนที่หน่วย จะมีขั้นตอนที่แพทย์ที่หน่วยตรวจร่างกายอีกครั้งหนึ่ง ถ้ามีการเห็นแย้งเกิดขึ้น อาจต้องถูกจับใบดำใบแดงทันที พูดง่ายๆว่าถึงรู้ว่าตัวเองเป็นโรคที่ได้รับการยกเว้น ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าถ้าเข้าสู่กระบวนการรับการตรวจคัดเลือกแล้ว จะได้รับการยกเว้นจริงนั่นเอง  2 ปีที่แล้ว ณเดชน์กำลังศึกษาอยู่ จึงต้องการตัดความไม่แน่นอนตรงนี้ไปโดยการยื่นขอผ่อนผัน แต่ปี 2557 นี้เป็นปีที่ ณเดชน์ กำลังจะจบการศึกษาแล้ว เข้าใจว่าพอจะรับผลจากความไม่แน่นอนตรงนี้ได้ จึงเข้ารับการตรวจคัดเลือกตามขั้นตอนในปีนี้

6. ทำไม ณเดชน์ เพิ่งมาเป็นโรคหอบหืดเอาอิตอนจะเข้ารับการเลือกทหาร ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเคยได้ยินข่าว แกล้งทำหรือไม่?
ณเดชน์เป็นหอบหืดจริง ยืนยันโดยผลตรวจแพทย์ในข้อ 1 และ มีการยืนยันจากผู้ใกล้ชิด เช่น แม่ ผู้จัดการสวนตัว ผู้ร่วมงาน ตลอดจนปรากฎข้อเท็จจริงตามสื่อสาธารณะหลายครั้ง ว่าณเดชน์เป็นหอบหืดมาก่อนหน้าเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารนานแล้ว อาทิ เช่น

ภาพจากคลิปวีดิโอ ณเดชน์ ใช้ยาพ่น ขณะลงแข่งฟุตบอลประเพณีช่อง 3 เมื่อเดือน เมษายน 2555 และข้อความยืนยันจากผู้พบเห็นณเดชน์ตั้งแต่เข้าวงการครั้งแรก


ข้อความจาก หนังสือ "ณเดชน์ในดวงใจ" ที่แม่ณเดชน์เขียนรวมเล่มและวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อ มีนาคม 2555  ในนั้นมีข้อความเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจของณเดชน์ที่เป็นมาตั้งแต่เรียนประถม


คลิปเบื้องหลังการถ่ายทำละคร รอยฝันตะวันเดือด ในปัจจุบัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอาการเกี่ยวกับโรคทางเดินหายใจในชีวิตประจำวัน ซึ่งยืนยันได้ว่าณเดชน์ไม่ได้แกล้งทำเพื่อได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

7. ณเดชน์เล่นกีฬาและหล่อล่ำกล้ามโตเกินกว่าจะเป็นคนอ่อนแอ หรือ หอบหืดหนักจนเกณฑ์ทหารไม่ได้  ?

ณเดชน์เล่นเวคบอร์ด ดูแข็งแรงดี แข็งแรงขนาดนี้น่าจะไปเป็นทหารเกณฑ์ได้ ?

ณเดชน์แข็งแรงขนาดเตะบอลได้ เล่นคอนเสิร์ตได้  แถมดูเป็นคนไฮเปอร์แรงดีไม่มีตก ?


คนเป็นโรคหอบหืด ไม่ได้แปลว่าจะเล่นกีฬาไม่ได้ หรือเป็นคนร่างกายอ่อนแอนะครับ คนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้สว่นหนึ่ง มีอาการดีขึ้นเมื่อใส่ใจสุขภาพ เช่น นอนให้พอ นอนไม่ดึกเกิน ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ และมีสภาพร่างกายที่ฟิตกว่าคนปกติได้ นักกีฬาโอลิมปิคหลายๆคนก็เป็นหอบหืด แต่ก็ยังเล่นกีฬาได้  เช่น ( ข้อมูลจาก Internet )

ภาพที่ 3: มาร์ค สปิตซ์ (Mark Spitz) แชมป์ว่ายน้ำ 9 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดงโอลิมปิค เป็นโรคหอบหืด > Thank [ Wikipedia ], [ BBC ]

พูดให้เข้าใจง่ายก็คือร่างกายณเดชน์ ไม่ได้อ่อนแอ หรือ ขี้โรค ผอมกระหร่องก๋องแก๋งจนเป็นทหารเกณฑ์ไม่ได้หรอกครับ เป็นได้ สมรรถภาพร่างกายอำนวย แต่เลือกที่จะไม่เป็นโดยใช้ข้อยกเว้นที่ถูกต้องตามกฎระเบียบทุกประการ เหมือนคนอื่นๆที่เรียน ร.ด. จับใบดำใบแดง เป็นคุณหมอ อาชีพที่ได้รับการยกเว้น ต่างๆเหล่านี้เขาไม่ได้เป็นทหารเกณฑ์ ไม่ใช่เพราะเขาไม่แข็งแรงพอจะเป็น แต่ขอรับการยกเว้นตามกฎเกณฑ์เท่านั้นเอง  

8.สำออยหรือเปล่า แค่โรคหอบหืดร้ายแรงเป็นอันตรายถึงชีวิตจริงหรือ ?

ขออนุญาตเอาข้อมูลมาลงนะครับ เมื่อปี 2549 วงการบันเทิงไทยเคยสูญเสียนักแสดงที่หล่อล่ำ กล้ามโต ร่างกายดูแข็งแรงสมบูรณ์ทุกประการไปด้วยโรคนี้ไปอย่างกะทันหันมาแล้วครับ

คุณอภิชาติ พัวพิมล



9.ทำไมณเดชน์ไม่สมัครเป็นทหาร หรือ จับใบดำใบแดงไปเลย จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน ?


การเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนทั้งชายและหญิงเป็นได้หลายวิธี และ หลายด้านครับ ผู้ที่ติดตามผลงานณเดชน์มาตลอดจะเห็นว่า ด้านที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนของณเดชน์ คือ ความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ความขยันหมั่นเพียรรับผิดชอบหน้าที่การงานและการเรียน การเป็นพุทธมามกะที่ดีในการบำรุงพระพุทธศาสนา การเป็นพลเมืองดี และ เอื้อเฟื้อเผือแผ่ต่อผู้ด้อยโอกาสเป็นต้น เด็กและเยาวชนสามารถเอาพี่ณเดชน์เป็นแบบอย่างในเรื่องเหล่านี้ได้ครับ ส่วนด้านการเกณฑ์ทหารถ้าเด็กและเยาวชนคนไหนต้องการเอาอย่างพี่ณเดชน์คงต้องเริ่มจากการเป็นโรคหอบหืดก่อน ซึ่งคงไม่ใช่สิ่งที่ปรารถนาของพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือ แม้กระทั่งตัวพี่ณเดชน์เองที่อยากให้น้องเป็นตามอย่างหรอกครับ

10. หากอ่านถึงบรรทัดนี้แล้วยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสอบถามได้ครับ หรือหากยังไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลยก็ ตัวใครตัวมันแล้วครับ แฮ่ๆ


เครดิต : อ่านหนังสือเกิน 8 บรรทัด แล้วรวบๆมา ต้องขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลทุกท่านครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม 1:
มีหลายท่านตั้งข้อสังเกตว่าทำไมในการให้สัมภาษณ์ของณเดชน์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ณเดชน์ใช้คำว่า "สมัคร" แทนคำว่า "เข้ารับการคัดเลือก" ได้ชี้แจงไปในคำตอบข้างล่างแล้วครับว่าเป็นการใช้คำคลาดเคลื่อนของตัวคนให้สัมภาษณ์เองระหว่างการขอผ่อนผัน กับ ไปเข้ารับการคัดเลือก นำไปสู่ข้อสงสัยว่าถ้ารู้อยู่แล้วว่าตัวเองป่วยจะไปสมัครทำไมแถมพกใบรับรองแพทย์ไปด้วย

จริงๆแล้วทหารเค้าไฮเทคแล้วนะครับ ทันทีที่ณเดชน์เข้ารับการตรวจโรคและได้ใบรับรองแพทย์ซึ่งต้องมีแพทย์ทหารเซ็นรับรองถึง 3 ท่าน ชื่อนายณเดชน์ คูกิมิยะ เด้งผลึงไปอยู่ในมือแพทย์ประจำหน่วยตั้งแต่ณเดชน์ยังไม่ออกจากบ้านแล้วล่ะครับไม่ต้องคิดจะมาสมัครเลย  และแพทย์จะตรวจสอบรายชื่อผู้มายื่นใบรับรองแพทย์ว่าตรงกับรายชื่อที่อยู่ในระบบหรือไม่  ดังนั้นการรู้ตัวว่าป่วยแล้วยังไปสมัครเอาหน้าจึงเกิดขึ้นไม่ได้ในทางปฎิบัติแน่นอนครับ นอกจากเป็นการตรวจตามขั้นตอนเพื่อแยกประเภทเท่านั้นซึ่งในคลิป ณเดชน์ก็บอกชัดเจนว่าถูกจัดอยู่ในประเภทดี 1 ประเภท 4 ครับ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม 2 :
ข้อความจากบุคลากรในโรงพยาบาลพระมงกุฎค่ะ ( nomangmao )


จากข้อความดังกล่าวจะเห็นว่ามีการกล่าวถึงการทดสอบสมรรถภาพปอด และ ประวัติการรักษาอย่างต่อเนื่องจากโรงพยาบาลบ้านเกิด จ.ขอนแก่น อยู่ด้วย

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนแก้ไขเพิ่มเติม 3:
ในแง่ของข้อเท็จจริง คงเป็นที่เข้าใจตรงกันแล้ว แต่ในแง่ของอารมณ์ความรู้สึก ที่อาจเกิดจากการสะท้อนภาพความหลายมาตรฐานของสังคม ขออนุญาต ยกตัวอย่างความคิดเห็นนี้มานะครับ

ความคิดเห็นที่ 147
ชอบ ณเดชน์ในหลายๆอย่าง แต่ก็รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมในสังคมอยู่ดี
ใช้สิทธิด้วยเหตุผลอย่างถูกต้องก็ใช่ ก็ถูก
ชอบแบรี่น้อยลง เพราะเสียความรู้สึก เข้าข้างไม่ลงจิงๆ
คุณตาเราเป็นทหารผ่านศึกสงคราม เป็นหอบหืดขั้นแรง (นั่นมันสมัยไหนฟร๊ะะ)


หลายๆคนเข้าใจทุกอย่างดีแล้วว่าณเดชน์ปฎิบัติถูกต้องตามกฎเกณฑ์ทุกอย่าง แต่อาจเคยเสียสิทธิมาก่อน หรือ มีญาติพี่น้องที่ไม่ได้ใช้สิทธิตามกฎเกณฑ์ตรงนี้มาก่อน เมื่อนำมาเทียบเคียงกันจึงรู้สึกว่าอยุติธรรม ซึ่งก็น่าเห็นใจครับ แต่อยากให้คิดว่าณเดชน์เองก็ไม่ใช่คนแรกที่ได้รับสิทธิตรงนี้ คนอื่นๆที่รู้ก็ใช้สิทธิตามปกติเพียงแต่เขาไม่ใช่ดาราจึงไม่เป็นข่าว อีกทั้งในสังคมเองนอกจากเรื่องเกณฑ์ทหารแล้ว ก็ยังมีหลายเรื่องที่ประชาชนเสียสิทธิที่พึงมีอันเนื่องจากความไม่รู้กฎเกณฑ์ เช่น สิทธิประกันสังคม การชดเชยการว่างงาน การเลิกจ้าง บำเหน็จบำนาญหลังเกษียร เป็นต้น ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อกรณีของณเดชน์เป็นข่าวเป็นที่สนใจขึ้นมาแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อ ลูกๆหลานๆใครต่อใครอีกหลายคนที่กำลังจะเกณฑ์ทหารและมีปัญหาในกรณีเดียวกันนี้ต่อไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่