หลังจากเปิดตัววูบวาบตอนต้นฤดูกาลที่แล้ว
พอกองหลังจับทางได้ ก็ลากเลื้อยติดขัด เริ่มไปไม่เป็นขบวน

มาต้นฤดูกาลนี้ฟอร์มก็ยังไม่สม่ำเสมอ ยึดตำแหน่งตัวจริงในใจ BR ไม่ได้
โดยเฉพาะแมตซ์แพ้ฮัลล์ ชิตี้ฯ เจอข้อหาเป็นแพะรับไปเต็ม ๆ

แต่ฟอร์มหลังปีใหม่ของสเตอริ่ง ก็ร้อนแรงพอ ๆ กับฟอร์มของทีมต้นสังกัดเลย
ไม่รู้ไปฝึกวิชากระบวนท่าจากคัมภีร์ไหนมา
ความมั่นใจก็พกมาเต็มกระเป๋าเวลาได้ลงเล่น

จากแต่ก่อนมีมิติเดียวเป็นแว๊นซ์ริมเส้น
คืออาศัยสปีดกระชากลูกบอลหนีกองหลัง
แล้วตบเข้ากลางให้คนอื่นเข้าทำต่อ

แต่พอมาเล่นกลางตัวรุกตอนนี้อัพสกิลกล้าครองบอลมากขึ้น
ล็อคไปล็อคมา มีลูกม้วนหาง พอเจอช่องก็ตบเกียร์ลากเต็มสปีด
วิ่งห้อหนีตัวประกบแดนกลาง เข้าจี้เล่นงานกองหลังที่โซนสุดท้ายต่อทันที

แล้วแต่ก่อนโดนชนทีไรปลิวทุกที
เจ้าหนูตอนนี้เริ่มมีส่วนสูงเพิ่มขึ้น และกล้ามเนื้อก็หนาขึ้นตาม
เวลาฝั่งตรงข้ามเข้าบี้ เจ้าหนูก็มีเก๋าเล่นหันเอาบั้นท้าย (ส่วนหนาสุดของเจ้าหนูมัน)
เข้าเบียดปะทะสู้แทน และได้ผลซะด้วย ตอนนี้ถ้าสเตอริ่งได้ครองบอล
บอลเสียโดนแย่งจากเท้าสเตอริ่งโดยตรงยากมาก ... ยกเว้นไปจ่ายเสียเอง

อีกเทคนิคที่พัฒนาอย่างน่าชมเชย
ก็คือจ่ายบอลได้เสียทะลุตรงแผงหลัง เริ่มบ่อยขึ้นเรื่อย
พร้อมถึงการวิ่งสอดมาทำประตู ที่เริ่มคลิ๊กกับรุ่นพี่ในทีมอย่างซัวเรส

พักนี้จะเห็น BR ไม่ยอมดร็อปสเตอริ่งออกจากเกมส์หล่ะ
ต้องได้ลงมาเป็นอาวุธให้ทีมตลอด แต่ลงต้นเกมส์หรือครึ่งหลัง ก็แล้วแต่แผนที่วางไว้อีกที
ทดแทนคูตี้ที่ปีนี้ฟอร์มดร๊อปได้พอดี (คูตี้โดนจับทางได้แล้ว...ต้องพัฒนาไปอีกขั้นให้ได้ เอาใจช่วยอยู่)

ตอนนี้ผมว่าเค้าพัฒนา จนถ้านับเฉพาะแผงตัวรุกของลิเวอร์พูล  
คู่แข่งต้องคอยระวังเจ้าหนูสเตอริ่งให้ดี เป็นงานรองจากการจับซัวเรส และสเตอริจเลยทีเดียว