ขอบบอกก่อนนะครับ ว่าผมมีปัญหาเกี่ยวกับหู มาสิบกว่าปีแล้ว เริ่มจากสมัยเด็ก เป็นภูมิแพ้ครับ แล้วจามจนแก้วหูทะลุ รู้ตัวอีกทีประมาณ ป.5 - ป.6 ที่บ้านพอไปหาหมอ แล้วปรากฏว่า แก้วหูทะลุ ทั้งสองข้างครับ ไปหาหมออาทิตย์ละครั้ง ค่าเดินทางค่ารักษาก็ไม่ใช่ถูกๆ (ตอนเด็ก ไม่รู้เรื่องครับ) ซึ่งอาการก็เป็นๆ หายๆ ตลอด หายไป 2 - 3 อาทิตย์ ก็กลับมาเป็นอีก บางทีถึงขั้นเป็นหูน้ำหนวก (มีน้ำหนองไหลออกมาเลย) ตื่นเช้ามาก็แห้งติดใบหู ต้องเอาผ้าเช็ดเบาๆ กลัวน้ำเข้าหู
พอโตมาประมาณ ม.3 (ตอนนั้นอยู่โรงเรียนประจำครับ ลำบากมากตอนไปหาหมอ เพราะต้องอยู่หอ ขอออกนอกโรงเรียนก็ยุ่งยาก นานๆ ทีถึงจะได้ไป) คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดปะแก้วหูซ้ายครับ ซึ่งตอนนั้นแก้วหูข้างขวาติดกันแล้ว ผมนานโรงพยาบาลแค่ 2-3 วันครับ (จำไม่ได้แล้ว ก็ 10 ปีมาละ) วันแรก เตรียมตัว งดอาหาร อีกวันก็ผ่าตัดพักฟื้นอีกวัน แล้วก็กลับเลย (น่าจะแบบนี้นะ) แต่ต้องดูแลแผลให้ดีครับ เช็ดล้างทุกวัน แล้วก็กลับไปอยู่โรงเรียนประจำจนถึง ม. 6 ช่วงเวลานี้ไม่ค่อยมีอาการเรื่องหูครับ
พอขึ้นมาอยู่ มหาวิทยาลัยครับ เริ่มกลับมาเป็นบ่อยขึ้น เพราะอยู่ในเมือง (อากาศค่อนข้างแย่ครับ จามบ่อย พอเป็นไข้แล้วอาการกำเริบ) หาหมอก็เจอแต่หมอเลี้ยงไข้ ไม่ยอมดูดหนอง หรือขี้หูที่มันแห้งติดข้างในออกเลย ปล่อยให้ผมหูอื้ออีกเป็นอาทิตย์ บางทีเป็นเดือน ทรมานครับ จนไปเจอหมอที่ดีมากคนนึง ผมเลยมีที่ฝากผีฝากไข้ได้อีกคนนึง (รอดตัวไป)
มาถึงปัจจุบันครับ จบมาได้ 2-3 เดือนก็หางานทำครับ ตอนนี้ก็ย้ายมาทำงานแถวๆ เมืองทอง ซัก 2 อาทิยย์ก็เริ่มมีอาการแล้วครับ เลยไปที่โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก ก็ดีครับ เค้าดูดหนองแล้วก็ขี้หูข้างในออกให้ แล้วก็กินยาครับ ก็หายไปพักนึง เริ่มรู้สึกหูอื้ออีกแล้วครับ แต่ช่วงนี้งานเข้าครับ ไปปิ่นเกล้าไม่ได้ ก็อาศัยหาแถวๆ นี้ครับ (ไม่บอกชื่อนะครับ) ก็ไปตั้งแต่วันที่เริ่มรู้ตัว คือวันเสาร์ที่ 5 เมษา 14 เสียไป 1,200 บาท ไม่ได้เอาขี้หูข้างในออก ห้องหมอก็มีแต่หนังสือ กับชั้นวางของ ขนาดโต๊ะยังมีแต่อะไรไม่รู้ของเต็มไปหมด หน้าคลีนิคก็ดูดีแท้ๆ คิดในใจผมไม่น่าไปเลย เสียเงินฟรีอีก แต่ผมก็กินยาที่เค้าให้มานะครับ เสียดาย (T^T) พออีกวัน (วันอาทิตย์) ไปหาเพื่อนที่ มหาลัย ก็อาการกำเริบอีกครับ ทีนี้ ร้านหมอประจำไม่เปิด แล้วประจวบเหมาะกับต้องกลับมาแก้งานอีก (ที่บอกว่างานเข้าน่ะครับ) เลยต้องเข้าโรงพยาบาลแถวนั้นครับ สรุปก็ดูดออกให้ครับ แต่ยังอื้อๆ อยู่ ทั้ง 2 ข้างเลย (เค้าดูดเหมือน ดูดพอเป็นพิธีน่ะครับ ข้างละ นิดๆ หน่อยๆ หูผมยังไม่หายอื้อเลย ก็ให้ผมกลับบ้านแล้ว) เสียไปอีก 1,500 บาท เสียดายครับ (T^T) 2วันติดเสียไปเกือบ 3,000 บาทละ อาการหนักขึ้นอีกต่างหากครับ เพราะเช้าวันนี้ (วันจันทร์ ที่ 7 เมษา 14) น้ำหนองแห้งติดใบหูข้างขวาแต่เช้าเลย ผมตื่นมาตกใจมาก เอามือแคะๆ ดู มันมีน้ำเหลืองแห้งติดนิ้วมาเลย (ผมเพิ่งสมัครครับยังลงรูปไม่ได้ จริงๆ มีรูปเพราะมองไม่เห็นเลยถ่ายเอาไว้)
สรุป อาการหนักครับ ขนาดเมื่อวานซัดยาพาราตอนไปทำงาน เป็น 10 เม็ด ก่อนนอนอีก 2 เม็ด ตื่นมายังปวดตุบๆ เลยบอกที่ทำงานว่าลางานครับ จะไปหาหมอที่ปิ่นเกล้า ก็ โดนหมอด่าครับ ว่าเอาอะไรไปแคะ แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ แกให้ผมลองบีบจมูก แล้วพ่นลมออกมา ถ้าลมออกหูแสดงว่าแก้วหูทะลุ!!! ซึ่งสองวันที่ผ่านมาผมไปหาหมอมา 2 เจ้า ไม่มีใครบอกเลยว่าแก้วหูผมทะลุ แต่หมอคนนี้ยังไม่ทันส่องดูเลย ก็สงสัยแล้วว่าแก้วหูผมมีปัญหา
บอกก่อนนะครับ ว่าผมเป็นคนที่เป่าลมออกหูได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว (เฉพาะข้างขวานะครับ) ไม่ต้องสงสัยเลยครับ ว่าพอหมอถาม ผมก็ต้องเป่าลมออกหูได้อยู่แล้ว แกเลยฟันธงมาว่า แก้วหูผมต้องทะลุแน่นอน!!!!!! พอแกส่อง แกก็ทำท่าบอกว่า อืมๆๆ เห็นร่องรอยอยู่นะ ไปเล่นจนมันพังเลยสิท่า (-*-) ก็แกเห็นรอยอยู่ (ก็ไม่น่าแปลก เพราะ เมื่อวาน หมออีกที่เค้าทำท่าดูดๆ ออกไป แสดงว่ามันไม่เอาออกให้หมด เลยเห็นรอยว่า ผมเอาอะไรมาแคะ เลวมากกกกก!!!!!!!!) อ้อ รอยที่พูดถึง ไม่แน่ใจว่ามันรวมกับที่ทะลุรึเปล่านะครับ เพราะแกพูดเหมือน แกมองไม่เห็นรอยทะลุ แต่ พอผมเป่าได้แล้ว แกก็บอกว่า เห็นละๆ สงสัยจะเล็กมาก แต่แกก็บอกให้ผมเป่าลมออกบ่อยๆ จะได้เอาน้ำข้างในออกมาด้วย (-*-) สรุปมันมีน้ำข้างในด้วยรึนี่
เรื่องตั้งยาว จะถามแค่ว่า ถ้าผมเป่าลมออกหูได้ นี่แสดงว่า แก้วหูผมทะลุหรอครับ เพราะจากท่าทางแก ผมไม่มั่นใจหน่อยๆ ก็ตอนแรกแก พูดเหมือนมองไม่เห็นจุดที่ทะลุ แต่พอผมพูดว่า พอเป่าแล้วลมออกหูนะ แกเลยฟันธงอย่างงั้นเลย แล้วก็ส่องใหม่ แลเวก็บอกว่า เห็นๆ แต่การรักษาดีมากนะครับ ดูด ออกหมด แล้วก็ทายาให้ด้วย แล้วก็มียาให้กินอีก (-*- ดีมั้ยเนี่ย) ไม่แพงเท่า 2 เจ้าแรกครับ 900 นิดๆ ทีเดียวอยู่ เบ็ดเสร็จ หาหมอครั้งนี้ รวม 3 วัน เกือบๆ 4,000 บาท เลยทีเดียว สรุป คราวหน้าไปเจ้านี้แหละ ไม่อยากสุ่มเอาที่อื่นละ โดนหมอเลี้ยงไข้ จนเจ็บมาเยอะแล้ว ทรมานตอนหูอื้อ ปวดหูอีก ไม่คุ้มครับ
ปล. ปกติผมก็ปั่นหู วันละครั้ง สองครั้ง โดยส่วนตัวคิดว่าไม่เยอะเท่าไหร่ แต่แฟนผมบอกว่า บ่อยมากกกกกกก มันเลยเป็นหนัก
อีกคำถามครับ ใครเคยใช้เจ้าเครื่องดูดขี้หูนี่มั้ยครับ เห็นเป็นเครื่องเล็กๆ ใช้แทนไม้ปั่นหู ผมอยากรู้ว่า เอามาใช้เคสแบบผมได้มั้ย มันจะทำให้เกิดอะไรไม่ดีกับหูผมอีกรึเปล่าครับ
ตามลิ้งเลยครับ
http://www.tongkarn.com/48-off-automatic-vacuum-ear-cleaner-suitable-for-adults-children.html
อยากได้คำแนะนำครับ ขอบคุณครับ
สงสัยครับ คุณหมอบอกว่าแก้วหูผมทะลุ......????
พอโตมาประมาณ ม.3 (ตอนนั้นอยู่โรงเรียนประจำครับ ลำบากมากตอนไปหาหมอ เพราะต้องอยู่หอ ขอออกนอกโรงเรียนก็ยุ่งยาก นานๆ ทีถึงจะได้ไป) คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดปะแก้วหูซ้ายครับ ซึ่งตอนนั้นแก้วหูข้างขวาติดกันแล้ว ผมนานโรงพยาบาลแค่ 2-3 วันครับ (จำไม่ได้แล้ว ก็ 10 ปีมาละ) วันแรก เตรียมตัว งดอาหาร อีกวันก็ผ่าตัดพักฟื้นอีกวัน แล้วก็กลับเลย (น่าจะแบบนี้นะ) แต่ต้องดูแลแผลให้ดีครับ เช็ดล้างทุกวัน แล้วก็กลับไปอยู่โรงเรียนประจำจนถึง ม. 6 ช่วงเวลานี้ไม่ค่อยมีอาการเรื่องหูครับ
พอขึ้นมาอยู่ มหาวิทยาลัยครับ เริ่มกลับมาเป็นบ่อยขึ้น เพราะอยู่ในเมือง (อากาศค่อนข้างแย่ครับ จามบ่อย พอเป็นไข้แล้วอาการกำเริบ) หาหมอก็เจอแต่หมอเลี้ยงไข้ ไม่ยอมดูดหนอง หรือขี้หูที่มันแห้งติดข้างในออกเลย ปล่อยให้ผมหูอื้ออีกเป็นอาทิตย์ บางทีเป็นเดือน ทรมานครับ จนไปเจอหมอที่ดีมากคนนึง ผมเลยมีที่ฝากผีฝากไข้ได้อีกคนนึง (รอดตัวไป)
มาถึงปัจจุบันครับ จบมาได้ 2-3 เดือนก็หางานทำครับ ตอนนี้ก็ย้ายมาทำงานแถวๆ เมืองทอง ซัก 2 อาทิยย์ก็เริ่มมีอาการแล้วครับ เลยไปที่โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก ก็ดีครับ เค้าดูดหนองแล้วก็ขี้หูข้างในออกให้ แล้วก็กินยาครับ ก็หายไปพักนึง เริ่มรู้สึกหูอื้ออีกแล้วครับ แต่ช่วงนี้งานเข้าครับ ไปปิ่นเกล้าไม่ได้ ก็อาศัยหาแถวๆ นี้ครับ (ไม่บอกชื่อนะครับ) ก็ไปตั้งแต่วันที่เริ่มรู้ตัว คือวันเสาร์ที่ 5 เมษา 14 เสียไป 1,200 บาท ไม่ได้เอาขี้หูข้างในออก ห้องหมอก็มีแต่หนังสือ กับชั้นวางของ ขนาดโต๊ะยังมีแต่อะไรไม่รู้ของเต็มไปหมด หน้าคลีนิคก็ดูดีแท้ๆ คิดในใจผมไม่น่าไปเลย เสียเงินฟรีอีก แต่ผมก็กินยาที่เค้าให้มานะครับ เสียดาย (T^T) พออีกวัน (วันอาทิตย์) ไปหาเพื่อนที่ มหาลัย ก็อาการกำเริบอีกครับ ทีนี้ ร้านหมอประจำไม่เปิด แล้วประจวบเหมาะกับต้องกลับมาแก้งานอีก (ที่บอกว่างานเข้าน่ะครับ) เลยต้องเข้าโรงพยาบาลแถวนั้นครับ สรุปก็ดูดออกให้ครับ แต่ยังอื้อๆ อยู่ ทั้ง 2 ข้างเลย (เค้าดูดเหมือน ดูดพอเป็นพิธีน่ะครับ ข้างละ นิดๆ หน่อยๆ หูผมยังไม่หายอื้อเลย ก็ให้ผมกลับบ้านแล้ว) เสียไปอีก 1,500 บาท เสียดายครับ (T^T) 2วันติดเสียไปเกือบ 3,000 บาทละ อาการหนักขึ้นอีกต่างหากครับ เพราะเช้าวันนี้ (วันจันทร์ ที่ 7 เมษา 14) น้ำหนองแห้งติดใบหูข้างขวาแต่เช้าเลย ผมตื่นมาตกใจมาก เอามือแคะๆ ดู มันมีน้ำเหลืองแห้งติดนิ้วมาเลย (ผมเพิ่งสมัครครับยังลงรูปไม่ได้ จริงๆ มีรูปเพราะมองไม่เห็นเลยถ่ายเอาไว้)
สรุป อาการหนักครับ ขนาดเมื่อวานซัดยาพาราตอนไปทำงาน เป็น 10 เม็ด ก่อนนอนอีก 2 เม็ด ตื่นมายังปวดตุบๆ เลยบอกที่ทำงานว่าลางานครับ จะไปหาหมอที่ปิ่นเกล้า ก็ โดนหมอด่าครับ ว่าเอาอะไรไปแคะ แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ครับ แกให้ผมลองบีบจมูก แล้วพ่นลมออกมา ถ้าลมออกหูแสดงว่าแก้วหูทะลุ!!! ซึ่งสองวันที่ผ่านมาผมไปหาหมอมา 2 เจ้า ไม่มีใครบอกเลยว่าแก้วหูผมทะลุ แต่หมอคนนี้ยังไม่ทันส่องดูเลย ก็สงสัยแล้วว่าแก้วหูผมมีปัญหา
บอกก่อนนะครับ ว่าผมเป็นคนที่เป่าลมออกหูได้ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว (เฉพาะข้างขวานะครับ) ไม่ต้องสงสัยเลยครับ ว่าพอหมอถาม ผมก็ต้องเป่าลมออกหูได้อยู่แล้ว แกเลยฟันธงมาว่า แก้วหูผมต้องทะลุแน่นอน!!!!!! พอแกส่อง แกก็ทำท่าบอกว่า อืมๆๆ เห็นร่องรอยอยู่นะ ไปเล่นจนมันพังเลยสิท่า (-*-) ก็แกเห็นรอยอยู่ (ก็ไม่น่าแปลก เพราะ เมื่อวาน หมออีกที่เค้าทำท่าดูดๆ ออกไป แสดงว่ามันไม่เอาออกให้หมด เลยเห็นรอยว่า ผมเอาอะไรมาแคะ เลวมากกกกก!!!!!!!!) อ้อ รอยที่พูดถึง ไม่แน่ใจว่ามันรวมกับที่ทะลุรึเปล่านะครับ เพราะแกพูดเหมือน แกมองไม่เห็นรอยทะลุ แต่ พอผมเป่าได้แล้ว แกก็บอกว่า เห็นละๆ สงสัยจะเล็กมาก แต่แกก็บอกให้ผมเป่าลมออกบ่อยๆ จะได้เอาน้ำข้างในออกมาด้วย (-*-) สรุปมันมีน้ำข้างในด้วยรึนี่
เรื่องตั้งยาว จะถามแค่ว่า ถ้าผมเป่าลมออกหูได้ นี่แสดงว่า แก้วหูผมทะลุหรอครับ เพราะจากท่าทางแก ผมไม่มั่นใจหน่อยๆ ก็ตอนแรกแก พูดเหมือนมองไม่เห็นจุดที่ทะลุ แต่พอผมพูดว่า พอเป่าแล้วลมออกหูนะ แกเลยฟันธงอย่างงั้นเลย แล้วก็ส่องใหม่ แลเวก็บอกว่า เห็นๆ แต่การรักษาดีมากนะครับ ดูด ออกหมด แล้วก็ทายาให้ด้วย แล้วก็มียาให้กินอีก (-*- ดีมั้ยเนี่ย) ไม่แพงเท่า 2 เจ้าแรกครับ 900 นิดๆ ทีเดียวอยู่ เบ็ดเสร็จ หาหมอครั้งนี้ รวม 3 วัน เกือบๆ 4,000 บาท เลยทีเดียว สรุป คราวหน้าไปเจ้านี้แหละ ไม่อยากสุ่มเอาที่อื่นละ โดนหมอเลี้ยงไข้ จนเจ็บมาเยอะแล้ว ทรมานตอนหูอื้อ ปวดหูอีก ไม่คุ้มครับ
ปล. ปกติผมก็ปั่นหู วันละครั้ง สองครั้ง โดยส่วนตัวคิดว่าไม่เยอะเท่าไหร่ แต่แฟนผมบอกว่า บ่อยมากกกกกกก มันเลยเป็นหนัก
อีกคำถามครับ ใครเคยใช้เจ้าเครื่องดูดขี้หูนี่มั้ยครับ เห็นเป็นเครื่องเล็กๆ ใช้แทนไม้ปั่นหู ผมอยากรู้ว่า เอามาใช้เคสแบบผมได้มั้ย มันจะทำให้เกิดอะไรไม่ดีกับหูผมอีกรึเปล่าครับ
ตามลิ้งเลยครับ
http://www.tongkarn.com/48-off-automatic-vacuum-ear-cleaner-suitable-for-adults-children.html
อยากได้คำแนะนำครับ ขอบคุณครับ