พึ่งดูโฆษณาไทยประกันชีวิต แล้วทำนึกถึงเด็กคนนึงที่เคยเจอมา
เป็นน้องผู้ชายอ้วนๆคนนึงมายืนดีดกีต้า ร้องเพลงเปิดหมวกอยู่ที่ตลาดนัดแถวบ้าน น้องเขียนข้อความไว้ว่า จะนำเงินไปเป็นค่าเทอมเรียนต่อมหาลัย
ตอนนั้นน้องเค้าใส่ชุดนักเรียนมาร้อง ส่วนเสียงร้องกับการดีดกีต้าของน้องไม่ใช่มืออาชีพ เพราะตอนที่เราให้เงินเรายืนฟังเค้าร้อง และยืนมองดูน้องเค้า
ในใจรู้สึกว่าเออจะมาหลอกรึเปล่าว่าจะไปเป็นค่าเทอม แต่เราก็ยินดีจะให้เค้าทุกครั้งที่เจอน่ะ จนมีช่วงนึงเค้าหายไป
แล้วเรามาเจอน้องเค้าอีกที ตอนน้องเค้าใส่ชุดนักศึกษา มายืนดีดกีต้าเหมือนเดิม แต่ข้อความที่น้องเค้าเขียนคือ
ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยบริจาคเงินที่ทำให้เค้าได้เรียนต่อมหาลัย บอกตรงๆตอนนั้นน้ำตามันจะไหล รู้สึกภูมิใจที่น้องเค้าได้เรียนต่อ
ถึงแม้เงินที่มีคนบริจาคอาจจะไม่มาก แต่ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องได้เรียนต่อ และที่เราปลื้มใจคือน้องเค้ากลับมาขอบคุณ
คนที่บริจาคเงินช่วยเค้าด้วย
โฆษณาไทยประกันชีวิต กับ ชีวิตจริง
เป็นน้องผู้ชายอ้วนๆคนนึงมายืนดีดกีต้า ร้องเพลงเปิดหมวกอยู่ที่ตลาดนัดแถวบ้าน น้องเขียนข้อความไว้ว่า จะนำเงินไปเป็นค่าเทอมเรียนต่อมหาลัย
ตอนนั้นน้องเค้าใส่ชุดนักเรียนมาร้อง ส่วนเสียงร้องกับการดีดกีต้าของน้องไม่ใช่มืออาชีพ เพราะตอนที่เราให้เงินเรายืนฟังเค้าร้อง และยืนมองดูน้องเค้า
ในใจรู้สึกว่าเออจะมาหลอกรึเปล่าว่าจะไปเป็นค่าเทอม แต่เราก็ยินดีจะให้เค้าทุกครั้งที่เจอน่ะ จนมีช่วงนึงเค้าหายไป
แล้วเรามาเจอน้องเค้าอีกที ตอนน้องเค้าใส่ชุดนักศึกษา มายืนดีดกีต้าเหมือนเดิม แต่ข้อความที่น้องเค้าเขียนคือ
ขอบคุณทุกๆท่านที่ช่วยบริจาคเงินที่ทำให้เค้าได้เรียนต่อมหาลัย บอกตรงๆตอนนั้นน้ำตามันจะไหล รู้สึกภูมิใจที่น้องเค้าได้เรียนต่อ
ถึงแม้เงินที่มีคนบริจาคอาจจะไม่มาก แต่ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้องได้เรียนต่อ และที่เราปลื้มใจคือน้องเค้ากลับมาขอบคุณ
คนที่บริจาคเงินช่วยเค้าด้วย