รูปธาตุ คือ คุณสมบัติพื้นฐานที่ปรุงแต่ง (ทำ) ให้เกิดวัตถุและพลังงานทั้งหลายขึ้นมา ซึ่งมี ๔ อย่าง คือ
๑. ธาตุดิน คือ คุณสมบัติที่แข็ง
๒. ธาตุน้ำ คือ คุณสมบัติที่เหลว, เกาะกุมตัว, ไหลได้
๓. ธาตุไฟ คือ คุณสมบัติที่ร้อน, เผาผลาญ, ทำลาย
๔. ธาตุลม คือ คุณสมบัติที่ละเอียด, บางเบา, แผ่กระจาย, ลอยได้
รูปธาตุทั้ง ๔ นี้เองที่ปรุงแต่งให้เกิดแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ และพลังงานทั้งหลายขึ้นมา เช่น หิน, ดิน, น้ำ, เหล็ก, อลูมิเนียม, ทองแดง, ซิลิกอน, แก้ว, ไม้, พลาสติก, ยาง, น้ำมัน เป็นต้น ซึ่งแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุและพลังงานทั้งหลายนี้เองที่มนุษย์ได้นำมาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ทั้งหลายขึ้นมาในโลก ซึ่งรูปธาตุทั้ง ๔ นี้ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากอะตอมจำนวนมากมามหาศาลมาประกอบกันขึ้น ซึ่งอะตอมก็เป็นสิ่งที่ประกอบด้วยโปรตอน, นิวตรอน, และอีเล็กตอน เป็นหลัก โดยโปรตอน, นิวตรอน, และอีเล็กตอนก็เป็นแค่เพียงพลังงานที่แตกต่างกันเท่านั้น
จุดสำคัญก็คือ ส่วนประกอบของอะตอมอันได้แก่โปรตอน นิวตรอน และอีเล็กตอนที่เป็นพลังงานนี้ มันมีสภาวะที่ไม่เสถียร (คือไม่อยู่นิ่ง หรือไม่มั่นคงแน่นอน จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน) ซึ่งพุทธศาสนาเรียกว่าไม่เที่ยง คือมันมีการเปลี่ยนเปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อองค์ประกอบเหล่านี้มาประกอบกันเป็นอะตอมขึ้นมาแล้ว จึงทำให้อะตอมมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย และเมื่ออะตอมมารวมตัวกันเกิดเป็นแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานทั้งหลายขึ้นมา จึงทำให้แร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานทั้งหลายพลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย
เมื่อมนุษย์ได้นำเอาแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานที่ไม่เที่ยง มาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, โทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, รถยนต์, เครื่องบิน, ยานอวกาศ, บ้าน, สะพาน, เป็นต้น จึงทำให้สิ่งเหล่านี้พลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย สุดท้ายสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ และสภาพของสังคมมนุษย์ที่มีสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่เที่ยง จึงพลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย ซึ่งความไม่เที่ยงของวัตถุสิ่งของทั้งหลายนี้เอง ที่แสดงถึงว่า วัตถุและสิ่งของทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งปรุงแต่ง ที่มีความเป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตัวตนจริงๆของสิ่งนั้นเลย เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่ถูกปรุงแต่งหรือสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นตัวตนเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนร่างกายของเราก็ต้องอาศัยอาหาร, น้ำ, ความร้อนที่พอเหมาะ, และอากาศบริสุทธิ์มาปรุงแต่ง ร่างกายจึงเกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้ ถ้าขาดอาหาร หรือน้ำ หรืออากาศบริสุทธิ์ หรือความร้อนที่พอเหมาะ ร่ากายก็จะแตกสลายหรือตาย ซึ่งนี่ก็แสดงถึงว่า ร่างกายเป็นสิ่งปรุงแต่ง ที่มีความไม่เที่ยง มีสภาวะที่ต้องทน และไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง
ความเป็นอนัตตาของวัตถุและร่างกาย
๑. ธาตุดิน คือ คุณสมบัติที่แข็ง
๒. ธาตุน้ำ คือ คุณสมบัติที่เหลว, เกาะกุมตัว, ไหลได้
๓. ธาตุไฟ คือ คุณสมบัติที่ร้อน, เผาผลาญ, ทำลาย
๔. ธาตุลม คือ คุณสมบัติที่ละเอียด, บางเบา, แผ่กระจาย, ลอยได้
รูปธาตุทั้ง ๔ นี้เองที่ปรุงแต่งให้เกิดแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ และพลังงานทั้งหลายขึ้นมา เช่น หิน, ดิน, น้ำ, เหล็ก, อลูมิเนียม, ทองแดง, ซิลิกอน, แก้ว, ไม้, พลาสติก, ยาง, น้ำมัน เป็นต้น ซึ่งแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุและพลังงานทั้งหลายนี้เองที่มนุษย์ได้นำมาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ทั้งหลายขึ้นมาในโลก ซึ่งรูปธาตุทั้ง ๔ นี้ทางวิทยาศาสตร์บอกว่า มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากอะตอมจำนวนมากมามหาศาลมาประกอบกันขึ้น ซึ่งอะตอมก็เป็นสิ่งที่ประกอบด้วยโปรตอน, นิวตรอน, และอีเล็กตอน เป็นหลัก โดยโปรตอน, นิวตรอน, และอีเล็กตอนก็เป็นแค่เพียงพลังงานที่แตกต่างกันเท่านั้น
จุดสำคัญก็คือ ส่วนประกอบของอะตอมอันได้แก่โปรตอน นิวตรอน และอีเล็กตอนที่เป็นพลังงานนี้ มันมีสภาวะที่ไม่เสถียร (คือไม่อยู่นิ่ง หรือไม่มั่นคงแน่นอน จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างแน่นอน) ซึ่งพุทธศาสนาเรียกว่าไม่เที่ยง คือมันมีการเปลี่ยนเปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อองค์ประกอบเหล่านี้มาประกอบกันเป็นอะตอมขึ้นมาแล้ว จึงทำให้อะตอมมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย และเมื่ออะตอมมารวมตัวกันเกิดเป็นแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานทั้งหลายขึ้นมา จึงทำให้แร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานทั้งหลายพลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย
เมื่อมนุษย์ได้นำเอาแร่ธาตุ, สสาร, วัตถุ, และพลังงานที่ไม่เที่ยง มาสร้างเป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, โทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, รถยนต์, เครื่องบิน, ยานอวกาศ, บ้าน, สะพาน, เป็นต้น จึงทำให้สิ่งเหล่านี้พลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย สุดท้ายสภาพแวดล้อมของธรรมชาติ และสภาพของสังคมมนุษย์ที่มีสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่เที่ยง จึงพลอยมีความไม่เที่ยงตามไปด้วย ซึ่งความไม่เที่ยงของวัตถุสิ่งของทั้งหลายนี้เอง ที่แสดงถึงว่า วัตถุและสิ่งของทั้งหลายนั้นเป็นสิ่งปรุงแต่ง ที่มีความเป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตัวตนจริงๆของสิ่งนั้นเลย เพราะมันเป็นเพียงสิ่งที่ถูกปรุงแต่งหรือสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นตัวตนเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนร่างกายของเราก็ต้องอาศัยอาหาร, น้ำ, ความร้อนที่พอเหมาะ, และอากาศบริสุทธิ์มาปรุงแต่ง ร่างกายจึงเกิดขึ้นและตั้งอยู่ได้ ถ้าขาดอาหาร หรือน้ำ หรืออากาศบริสุทธิ์ หรือความร้อนที่พอเหมาะ ร่ากายก็จะแตกสลายหรือตาย ซึ่งนี่ก็แสดงถึงว่า ร่างกายเป็นสิ่งปรุงแต่ง ที่มีความไม่เที่ยง มีสภาวะที่ต้องทน และไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง