สวัสดีค่ะ
เป็นสมาชิกพันทิปมานานมากแล้ว ไม่เคยตั้งกระทู้เองเลย แต่คราวนี้เห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว backpacker เป็นอย่างยิ่ง ก็เลยอยากจะมาเล่าวิธีการเดินทางในพม่าให้ฟังกันค่ะ
อันที่จริงก็แบคแพคไปหลายประเทศมาก แต่ไม่มีที่ไหนลำบากและลุ้นระทึกเท่าประเทศนี้ สิ่งที่ช่วยชีวิตเราไว้ได้คือน้ำใจของคนพม่า ช่วยเหลือและเป็นมิตรมาก มาเริ่มกันเลยนะคะ
ปอลอ รูปที่ถ่ายมาไม่สวยนะคะ ต้องขออภัย
ก่อนเดินทาง
- จองตั๋วเครื่องบินนกแอร์ ไปกลับ ดอนเมือง-พม่าแค่ 2,020 บาทต่อคน วันที่ 29 มีนาคม - 1 เมษายน 2557 ก็จองไปกับแฟน 2 คน ตอนจองก็โทรไปถามเพื่อนว่าไปกี่วันดีวะ เพื่อบอก 4 วันก็พอแล้วป้ะ ซึ่งก็มารู้ทีหลังว่าไม่พอ แหะๆ
- แลกเงินไว้ 900 USD (ซึ่งใช้ไปไม่ถึงครึ่ง แค่ 368 USD) ที่สำคัญคือแบ๊งค์ห้ามมีรอยยับเด็ดขาด นิดเดียวก็ไม่ได้ (เพื่อนขู่มา) เลยพับกระดาษแข็งใส่เป็นซองอย่างดี
- วีซ่าพม่า คิดสะระตะแล้ว ค่าทำ 800 กว่าบาท ถ้าไปทำเองต้องเดินทางเข้าไปในเมือง แถมยังต้องลางานไปทำและไปรับวีซ่าอีก เลยจ้างเค้าทำไปซะเลย คนละ 1,200 บาท ใช้แค่วีซ่ากับรูป 2 นิ้ว 2 ใบ สะดวกมากค่ะ
- ปลั้กไฟใช้เหมือนบ้านเราค่ะ ไม่ต้องเตรียมแบบหลายๆหัวไป
กำหนดเป้าหมาย
กำหนดเป้าหมายไว้คร่าวๆ ที่ 5 บูชาสถานที่เค้าต้องไปกันได้แก่ ชเวดากอง ชเวสิกอง พุกาม พระมหามัยมุนี และอินทร์แขวน และต้องไปทุ่งเจดีย์พุกาม แต่ถ้าเดินทางไม่ไหว หรือเวลาไม่พอก็ไม่ไป ประมาณนี้
เดินทางวันที่ 1
ก็ไปขึ้นเครื่องนกแอร์ที่ดอนเมืองตามปกติ เวลาที่พม่าช้ากว่าบ้านเราครึ่งชั่วโมง ถือว่า gain time ใช้เวลาบินแค่ชั่วโมงเศษ ไปถึงสนามบินพม่ายังเช้าอยู่มาก เดินไปเข้าแถวที่ ตม. เป็นคนแรกเลยทีเดียว
แล้วก็ออกมาแลกเงินจ๊าต (Kyats ย่อเป็น Ks) ไว้ 500 USD ได้มาปึกเบ้อเร่อ 480500 จ๊าด เท่ากับเงินไทย 1 บาทต่อ 30 จ๊าต เค้ามีตั้งแต่แบ๊ง 10 50 100 200 1000 5000 ค่ะ
ก่อนมาถามเพื่อนไว้ เพื่อนบอกว่าที่ซื้อตั๋วรถทัวร์อยู่ในเมือง ใกล้ๆ ชเวดากอง ค่ารถประมาณ 7000 จ๊าต พอเดินออกมาก็จะมีแทกซี่มารุมๆๆ พอเราบอก bus station เค้าก็บอกว่า 7000 เราต่อเหลือ 6000 นึกดีใจว่าถูกกกว่าเพื่ออีก ฮี่ๆ แล้วเราก็ไป bus station
คือสภาพมันจะเป็นดิน หิน ทราย บริษัทรถก็เป็นตึกแถวเรียงต่อๆๆๆ กัน ไม่มีการจัดด้วยว่ากลุ่มนี้จะไปไหนยังไง ต้องให้แทกซี่ที่พามา (ซึ่งก็อุตส่าห์อยู่ช่วยต่อ) เขียนคำว่า Bagan (เมืองพุกาม) เป็นภาษาพม่าให้ แล้วเดินหารถทัวร์กันเอง จะมีรถ Scania อย่างดี แต่ต้องเดินหาเอง ใชเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้รถที่ถูกใจ ราคาคนละ 18000 จ๊าต รถออก 2 ทุ่ม
ได้รถเสร็จแล้วก็จะเข้าเมืองละ ถามเค้า ปรากฎว่า อี bus station เนี่ย มันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับชเวดากองนะ (Wat!) แต่มันอยู่เลยสนามบินไปอีก (Wat!) ก็เลยนั่งรถเมล์เข้าเมือง
เลย คนพม่าบอกให้เดินไปข้างหน้าโน่น ก็เดินไป ไหนวะรถเมล์
สุดท้ายมีสาวพม่า 2 คน เดินนำไปขึ้นรถเมล์ ซึ่งขอบอกว่าไกลมากๆๆๆๆ เค้ามีน้ำใจเดินไปส่งถึงที่เลย
ไปถึงปุ๊บ มีรถเมล์พอดี ขึ้นรถเมล์เจอกระเป๋ารถเมล์รูปหล่อน่ารักทีเดียว เวลาคนขึ้นก็ดูแลอย่างดี คอยหาที่นั่งให้ ประคองคนท้องไปนั่ง บริการสุดยอดจริงๆ
ระหว่างอยู่บนรถเมล์ ก็เจอพี่ผู้หญิงจีนคนนึง เค้าเคยมาอยู่เมืองไทย พูดไทยพอได้ นำทางเราไปตลาดสก๊อต แต่พอเดินเข้าไปเค้าก็บอกว่าของแพงมาก ไม่ต้องซื้อหรอก 5555 ก็เลยไปหาที่นั่งเย็นๆก่อน ก็เดินมาเจอร้านโดนัท พักกินขนมและน้ำเย็นๆ รองท้อง
ตอนนั้นเพิ่งสิบโมงกว่า วางแผนจะไปชเวดากองตอนเย็นๆ ก็เลยมาดูว่าจะไปไหนได้บ้าง ตกลงกันว่าจะไป national museum ซึ่งดูในแผนที่อยู่ไม่ไกล แต่จริงๆ คือไกลโพด
เดินไปหาข้าวกินกันก่อน เจอร้านนี้คนเดินเข้าไม่หยุดเลย คนแน่นร้าน
เป็นอาหารอินเดีย เคยกินที่ศรีลังกามาแล้วเลยสบาย แต่รสชาติอาหารที่ศรีลังกาเข้มข้นและอร่อยกว่าค่ะ มื้อนี้หมดไปประมาณ 7000 จ๊าตเท่านั้น
กินเสร็จก็ออกเดินต่ออันนี้เดินผ่านโรงพยาบาล general hosiptal สังเกตว่าไม่มีแอร์ มุ้งแขวนเต็มไปหมด
คนพม่าอ่านแผนที่ไม่ออกเลย เวลาถามก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ เดินมั่วไป หลงไปหลงมา แล้วร้อนมาก กระเป๋าก็หนัก แทบตาย ห้างเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตไว้เกือบทุกวัน เพราะมันมีแอร์ แวะห้าง นั่งกินน้ำ แล้วเดินต่อ ในที่สุดก็ถึง national museum จนได้ เสียดายเค้าไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ แนะนำให้ไป จะได้เห็นของเก่าจากสมัยพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษ ถ้าอ่านประวัติศาสตร์มาจะอินมาก ค่าเข้า museum คนละ 45000 จ๊าตค่ะ
ดูมิเซียมเสร็จประมาณ 4 ดมงเย็น จะไปชเวดากองซึ่งอยู่ไม่ไกลกันละ เหงื่อเต็มตัวและร้อนมาก ต้องไปหาที่อาบน้ำให้ได้ ก็ไปถามโรงแรม เค้าให้อาบไม่ได้ นึกว่าจะต้องร้อนตายซะแล้ว เผอิญเดินผ่านสปา เค้าใจดีให้อาบน้ำ เราอาบน้ำสระผม เค้ายังใจดีไดร์ผมให้อีกด้วย ให้ตังก็วิ่งหนีไม่เอา ซาบซึ้งมาก
อาบน้ำเสร็จแบกกระเป๋าต่อมา ถึงชเวดากองซะที เจอคนไทยเยอะมาก รูปนี้พี่คนไทยถ่ายให้
พระปีนลงจากเจดีย์
ออกจากชเวดากองตอนหกโมงครึ่ง ดีว่าเจอร้านขายซาลาเปา เลยได้ซาลาเปาเป็นข้าวเย็น ลูกละ 500 จ๊าต ซื้อมาคนละ 2 ลูก ลูกใหญ่กินอิ่มเลย หาแทกซี่ไปขึ้นรถทัวร์ 8000 จ๊าต ต้องเผื่อเวลาเยอะๆ เพราะถนนแคบและไม่ดี รถจะขับช้าและติดกันเยอะแบบไม่มีเหตุผลนะคะ
รถทัวร์ดีค่ะ หลับสบาย ไม่รู้เพราะว่าเหนื่อยรึเปล่า เค้าจะแวะพักให้กินข้าวและเข้าห้องน้ำระหว่างทางด้วย
จบวันแรกละค่ะ
[CR] ทัวร์ถากๆ พม่า 4 เมือง ใน 4 วัน กับนักท่องเที่ยวที่รุงรังที่สุดในประเทศพม่า
เป็นสมาชิกพันทิปมานานมากแล้ว ไม่เคยตั้งกระทู้เองเลย แต่คราวนี้เห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยว backpacker เป็นอย่างยิ่ง ก็เลยอยากจะมาเล่าวิธีการเดินทางในพม่าให้ฟังกันค่ะ
อันที่จริงก็แบคแพคไปหลายประเทศมาก แต่ไม่มีที่ไหนลำบากและลุ้นระทึกเท่าประเทศนี้ สิ่งที่ช่วยชีวิตเราไว้ได้คือน้ำใจของคนพม่า ช่วยเหลือและเป็นมิตรมาก มาเริ่มกันเลยนะคะ
ปอลอ รูปที่ถ่ายมาไม่สวยนะคะ ต้องขออภัย
ก่อนเดินทาง
- จองตั๋วเครื่องบินนกแอร์ ไปกลับ ดอนเมือง-พม่าแค่ 2,020 บาทต่อคน วันที่ 29 มีนาคม - 1 เมษายน 2557 ก็จองไปกับแฟน 2 คน ตอนจองก็โทรไปถามเพื่อนว่าไปกี่วันดีวะ เพื่อบอก 4 วันก็พอแล้วป้ะ ซึ่งก็มารู้ทีหลังว่าไม่พอ แหะๆ
- แลกเงินไว้ 900 USD (ซึ่งใช้ไปไม่ถึงครึ่ง แค่ 368 USD) ที่สำคัญคือแบ๊งค์ห้ามมีรอยยับเด็ดขาด นิดเดียวก็ไม่ได้ (เพื่อนขู่มา) เลยพับกระดาษแข็งใส่เป็นซองอย่างดี
- วีซ่าพม่า คิดสะระตะแล้ว ค่าทำ 800 กว่าบาท ถ้าไปทำเองต้องเดินทางเข้าไปในเมือง แถมยังต้องลางานไปทำและไปรับวีซ่าอีก เลยจ้างเค้าทำไปซะเลย คนละ 1,200 บาท ใช้แค่วีซ่ากับรูป 2 นิ้ว 2 ใบ สะดวกมากค่ะ
- ปลั้กไฟใช้เหมือนบ้านเราค่ะ ไม่ต้องเตรียมแบบหลายๆหัวไป
กำหนดเป้าหมาย
กำหนดเป้าหมายไว้คร่าวๆ ที่ 5 บูชาสถานที่เค้าต้องไปกันได้แก่ ชเวดากอง ชเวสิกอง พุกาม พระมหามัยมุนี และอินทร์แขวน และต้องไปทุ่งเจดีย์พุกาม แต่ถ้าเดินทางไม่ไหว หรือเวลาไม่พอก็ไม่ไป ประมาณนี้
เดินทางวันที่ 1
ก็ไปขึ้นเครื่องนกแอร์ที่ดอนเมืองตามปกติ เวลาที่พม่าช้ากว่าบ้านเราครึ่งชั่วโมง ถือว่า gain time ใช้เวลาบินแค่ชั่วโมงเศษ ไปถึงสนามบินพม่ายังเช้าอยู่มาก เดินไปเข้าแถวที่ ตม. เป็นคนแรกเลยทีเดียว
แล้วก็ออกมาแลกเงินจ๊าต (Kyats ย่อเป็น Ks) ไว้ 500 USD ได้มาปึกเบ้อเร่อ 480500 จ๊าด เท่ากับเงินไทย 1 บาทต่อ 30 จ๊าต เค้ามีตั้งแต่แบ๊ง 10 50 100 200 1000 5000 ค่ะ
ก่อนมาถามเพื่อนไว้ เพื่อนบอกว่าที่ซื้อตั๋วรถทัวร์อยู่ในเมือง ใกล้ๆ ชเวดากอง ค่ารถประมาณ 7000 จ๊าต พอเดินออกมาก็จะมีแทกซี่มารุมๆๆ พอเราบอก bus station เค้าก็บอกว่า 7000 เราต่อเหลือ 6000 นึกดีใจว่าถูกกกว่าเพื่ออีก ฮี่ๆ แล้วเราก็ไป bus station
คือสภาพมันจะเป็นดิน หิน ทราย บริษัทรถก็เป็นตึกแถวเรียงต่อๆๆๆ กัน ไม่มีการจัดด้วยว่ากลุ่มนี้จะไปไหนยังไง ต้องให้แทกซี่ที่พามา (ซึ่งก็อุตส่าห์อยู่ช่วยต่อ) เขียนคำว่า Bagan (เมืองพุกาม) เป็นภาษาพม่าให้ แล้วเดินหารถทัวร์กันเอง จะมีรถ Scania อย่างดี แต่ต้องเดินหาเอง ใชเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้รถที่ถูกใจ ราคาคนละ 18000 จ๊าต รถออก 2 ทุ่ม
ได้รถเสร็จแล้วก็จะเข้าเมืองละ ถามเค้า ปรากฎว่า อี bus station เนี่ย มันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับชเวดากองนะ (Wat!) แต่มันอยู่เลยสนามบินไปอีก (Wat!) ก็เลยนั่งรถเมล์เข้าเมืองเลย คนพม่าบอกให้เดินไปข้างหน้าโน่น ก็เดินไป ไหนวะรถเมล์
สุดท้ายมีสาวพม่า 2 คน เดินนำไปขึ้นรถเมล์ ซึ่งขอบอกว่าไกลมากๆๆๆๆ เค้ามีน้ำใจเดินไปส่งถึงที่เลย
ไปถึงปุ๊บ มีรถเมล์พอดี ขึ้นรถเมล์เจอกระเป๋ารถเมล์รูปหล่อน่ารักทีเดียว เวลาคนขึ้นก็ดูแลอย่างดี คอยหาที่นั่งให้ ประคองคนท้องไปนั่ง บริการสุดยอดจริงๆ
ระหว่างอยู่บนรถเมล์ ก็เจอพี่ผู้หญิงจีนคนนึง เค้าเคยมาอยู่เมืองไทย พูดไทยพอได้ นำทางเราไปตลาดสก๊อต แต่พอเดินเข้าไปเค้าก็บอกว่าของแพงมาก ไม่ต้องซื้อหรอก 5555 ก็เลยไปหาที่นั่งเย็นๆก่อน ก็เดินมาเจอร้านโดนัท พักกินขนมและน้ำเย็นๆ รองท้อง
ตอนนั้นเพิ่งสิบโมงกว่า วางแผนจะไปชเวดากองตอนเย็นๆ ก็เลยมาดูว่าจะไปไหนได้บ้าง ตกลงกันว่าจะไป national museum ซึ่งดูในแผนที่อยู่ไม่ไกล แต่จริงๆ คือไกลโพด
เดินไปหาข้าวกินกันก่อน เจอร้านนี้คนเดินเข้าไม่หยุดเลย คนแน่นร้าน
เป็นอาหารอินเดีย เคยกินที่ศรีลังกามาแล้วเลยสบาย แต่รสชาติอาหารที่ศรีลังกาเข้มข้นและอร่อยกว่าค่ะ มื้อนี้หมดไปประมาณ 7000 จ๊าตเท่านั้น
กินเสร็จก็ออกเดินต่ออันนี้เดินผ่านโรงพยาบาล general hosiptal สังเกตว่าไม่มีแอร์ มุ้งแขวนเต็มไปหมด
คนพม่าอ่านแผนที่ไม่ออกเลย เวลาถามก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ เดินมั่วไป หลงไปหลงมา แล้วร้อนมาก กระเป๋าก็หนัก แทบตาย ห้างเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตไว้เกือบทุกวัน เพราะมันมีแอร์ แวะห้าง นั่งกินน้ำ แล้วเดินต่อ ในที่สุดก็ถึง national museum จนได้ เสียดายเค้าไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ แนะนำให้ไป จะได้เห็นของเก่าจากสมัยพม่าตกเป็นอาณานิคมอังกฤษ ถ้าอ่านประวัติศาสตร์มาจะอินมาก ค่าเข้า museum คนละ 45000 จ๊าตค่ะ
ดูมิเซียมเสร็จประมาณ 4 ดมงเย็น จะไปชเวดากองซึ่งอยู่ไม่ไกลกันละ เหงื่อเต็มตัวและร้อนมาก ต้องไปหาที่อาบน้ำให้ได้ ก็ไปถามโรงแรม เค้าให้อาบไม่ได้ นึกว่าจะต้องร้อนตายซะแล้ว เผอิญเดินผ่านสปา เค้าใจดีให้อาบน้ำ เราอาบน้ำสระผม เค้ายังใจดีไดร์ผมให้อีกด้วย ให้ตังก็วิ่งหนีไม่เอา ซาบซึ้งมาก
อาบน้ำเสร็จแบกกระเป๋าต่อมา ถึงชเวดากองซะที เจอคนไทยเยอะมาก รูปนี้พี่คนไทยถ่ายให้
พระปีนลงจากเจดีย์
ออกจากชเวดากองตอนหกโมงครึ่ง ดีว่าเจอร้านขายซาลาเปา เลยได้ซาลาเปาเป็นข้าวเย็น ลูกละ 500 จ๊าต ซื้อมาคนละ 2 ลูก ลูกใหญ่กินอิ่มเลย หาแทกซี่ไปขึ้นรถทัวร์ 8000 จ๊าต ต้องเผื่อเวลาเยอะๆ เพราะถนนแคบและไม่ดี รถจะขับช้าและติดกันเยอะแบบไม่มีเหตุผลนะคะ
รถทัวร์ดีค่ะ หลับสบาย ไม่รู้เพราะว่าเหนื่อยรึเปล่า เค้าจะแวะพักให้กินข้าวและเข้าห้องน้ำระหว่างทางด้วย
จบวันแรกละค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น