เท่าที่ตามข่าวจากสื่อหลายแขนง เข้าใจว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับวงโยฯ ก็ยังคิดว่าประเด็นของเรื่อง เป็นเพียงแค่การขอยืมเงินจากคุณตัน แต่ไม่ได้คิดถึงความโปร่งใสของการได้มาของเงิน และการใช้เงินที่ได้มาอย่างคุ้มค่า
ประเด็นที่ ผอ. รอง ผอ. และผู้ควบคุมวงต้องตอบสังคม ไม่ใช่เรื่องที่เด็กไปขอยืมเงินคุณตัน แต่ต้องตอบเรื่อง
1. ความเหมาะสมของการเป็นผู้บริหารโรงเรียน ต่อกรณีคลิปฉาวที่ปรากฏออกมา
2. Max. เป็นวงโยฯ ของ สว.2 หรือไม่ ถ้าเป็น ทำไมถึงมีเด็กใน รร. แค่ไม่กี่คนแล้วที่เหลือเป็นคนนอก และถ้าไม่ได้เป็น ทำไมถึงเบิกงบของรัฐมาเป็นค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน
3. คณะผู้ติดตาม ใช้เงินส่วนตัวหรือเงินงบฯ ถ้าใช้เงินงบฯ ทำไมถึงปรากฏภาพตามสถานที่อื่นได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ทางผ่านของวง
4. ความโปร่งใสของการไปโชว์ที่เนเธอร์แลนด์ ถ้าไม่มีเงินจริง ทำไปถึงต้องไปยุโรป ทำไมไม่มุ่งเป้าไปที่อเมริกาเลยที่เดียว และหากต้องการไปแสดงที่ต่างประเทศจริง ทำไมไม่ทำตามขั้นตอนทีละขั้น ขั้นแรกคือต้องเอาแชมป์ประเทศไทยให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดไปแข่งขันในระดับโลก
ตอนนี้เรื่องเงิน 3.1 ล้านของคุณตัน มันเป็นปลายทางแล้ว ยังไงคุณก็ต้องหามาคืนเค้า มันไม่ใช่ประเด็นที่สังคมมีคำถามแล้ว ตอนนี้ประเด็นที่สังคมกำลังประนามพวกคุณมันคือความโปร่งใสของการบริหารโรงเรียนของพวกคุณต่างหาก
ความผิดระดับนี้มันเกินกว่าแค่จะมายกมือไหว้ขอโทษกันแล้ว มันเป็นความผิดทางวินัย เป็นเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องของการกรรโชกทรัพย์ และเป็นเรื่องของการต้มตุ๋นดูถูกคนไทยทั้งประเทศ จะมาจบ ๆ กันไปตรงแค่ออกมาขอโทษคงไม่ได้แล้ว
ผมกำลังตั้งตารอดูว่า เรื่องนี้มันจะกลายเป็นมวยล้มหรือเปล่า เพราะหากความผิดมันชัดเจนขนาดนี้แล้วยังลากตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ แสดงว่าเส้นสายของผู้บริหาร รร. นี้ต้อง “แข็ง”มากทีเดียว
คาดว่าคงหวังพึ่งผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ ไม่ได้แล้ว คงต้องพึ่งสังคมแล้วล่ะครับว่าให้ช่วยกันกดดัน อย่าให้เรื่องนี้เงียบหายไป เรื่องคอร์รัปชั่นโกงกิน หากไปเกิดในวงการอื่นยังพอทำใจได้
แต่ถ้ามันเกิดในวงการศึกษา คงปล่อยเฉยไปไม่ได้ เพราะมันคือการเพาะบ่มเชื้อ “คอร์รัปชั่น” ให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก วันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นหากปล่อยไป เด็ก ๆ ก็จะเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แล้วก็จะมองเรื่องโกงกินหลอกลวงเป็นเรื่องธรรมดาไป
ลำพังแค่รู้ว่าเด็กกำลังยกพวกไปคุกเข่าขอยืมเงินคนอื่นแล้วไม่ห้ามปราม สังคมก็ต้องประนามแล้ว ยิ่งมีประเด็นผิดปกติตามมาอีกเป็นพรวนขนาดนี้ ถ้ายังนั่งลอยหน้าลอยตาบริหารโรงเรียนอยู่ได้ ก็ต้องถือว่าจิตใจโหดเหี้ยมพอตัวทีเดียว
อนาคตของประเทศ...คงต้องฝากไว้ในมือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วครับ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ยังเรียนอยู่และผู้ปกครอง รวมทั้งศิษย์เก่าที่ยังรักสถาบัน และไม่อยากให้สถาบันเสื่อมเสียมากไปกว่านี้
...จะไปฝากความหวังกับผู้หลักผู้ใหญ่ของโรงเรียน คงยากซะแล้ว...
เกี่ยวกับกรณีวงโย. รร.สตรีวิทยา 2
ประเด็นที่ ผอ. รอง ผอ. และผู้ควบคุมวงต้องตอบสังคม ไม่ใช่เรื่องที่เด็กไปขอยืมเงินคุณตัน แต่ต้องตอบเรื่อง
1. ความเหมาะสมของการเป็นผู้บริหารโรงเรียน ต่อกรณีคลิปฉาวที่ปรากฏออกมา
2. Max. เป็นวงโยฯ ของ สว.2 หรือไม่ ถ้าเป็น ทำไมถึงมีเด็กใน รร. แค่ไม่กี่คนแล้วที่เหลือเป็นคนนอก และถ้าไม่ได้เป็น ทำไมถึงเบิกงบของรัฐมาเป็นค่าใช้จ่ายในการแข่งขัน
3. คณะผู้ติดตาม ใช้เงินส่วนตัวหรือเงินงบฯ ถ้าใช้เงินงบฯ ทำไมถึงปรากฏภาพตามสถานที่อื่นได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ทางผ่านของวง
4. ความโปร่งใสของการไปโชว์ที่เนเธอร์แลนด์ ถ้าไม่มีเงินจริง ทำไปถึงต้องไปยุโรป ทำไมไม่มุ่งเป้าไปที่อเมริกาเลยที่เดียว และหากต้องการไปแสดงที่ต่างประเทศจริง ทำไมไม่ทำตามขั้นตอนทีละขั้น ขั้นแรกคือต้องเอาแชมป์ประเทศไทยให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดไปแข่งขันในระดับโลก
ตอนนี้เรื่องเงิน 3.1 ล้านของคุณตัน มันเป็นปลายทางแล้ว ยังไงคุณก็ต้องหามาคืนเค้า มันไม่ใช่ประเด็นที่สังคมมีคำถามแล้ว ตอนนี้ประเด็นที่สังคมกำลังประนามพวกคุณมันคือความโปร่งใสของการบริหารโรงเรียนของพวกคุณต่างหาก
ความผิดระดับนี้มันเกินกว่าแค่จะมายกมือไหว้ขอโทษกันแล้ว มันเป็นความผิดทางวินัย เป็นเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องของการกรรโชกทรัพย์ และเป็นเรื่องของการต้มตุ๋นดูถูกคนไทยทั้งประเทศ จะมาจบ ๆ กันไปตรงแค่ออกมาขอโทษคงไม่ได้แล้ว
ผมกำลังตั้งตารอดูว่า เรื่องนี้มันจะกลายเป็นมวยล้มหรือเปล่า เพราะหากความผิดมันชัดเจนขนาดนี้แล้วยังลากตัวคนผิดมาลงโทษไม่ได้ แสดงว่าเส้นสายของผู้บริหาร รร. นี้ต้อง “แข็ง”มากทีเดียว
คาดว่าคงหวังพึ่งผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ ไม่ได้แล้ว คงต้องพึ่งสังคมแล้วล่ะครับว่าให้ช่วยกันกดดัน อย่าให้เรื่องนี้เงียบหายไป เรื่องคอร์รัปชั่นโกงกิน หากไปเกิดในวงการอื่นยังพอทำใจได้
แต่ถ้ามันเกิดในวงการศึกษา คงปล่อยเฉยไปไม่ได้ เพราะมันคือการเพาะบ่มเชื้อ “คอร์รัปชั่น” ให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก วันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นหากปล่อยไป เด็ก ๆ ก็จะเห็นว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แล้วก็จะมองเรื่องโกงกินหลอกลวงเป็นเรื่องธรรมดาไป
ลำพังแค่รู้ว่าเด็กกำลังยกพวกไปคุกเข่าขอยืมเงินคนอื่นแล้วไม่ห้ามปราม สังคมก็ต้องประนามแล้ว ยิ่งมีประเด็นผิดปกติตามมาอีกเป็นพรวนขนาดนี้ ถ้ายังนั่งลอยหน้าลอยตาบริหารโรงเรียนอยู่ได้ ก็ต้องถือว่าจิตใจโหดเหี้ยมพอตัวทีเดียว
อนาคตของประเทศ...คงต้องฝากไว้ในมือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วครับ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ยังเรียนอยู่และผู้ปกครอง รวมทั้งศิษย์เก่าที่ยังรักสถาบัน และไม่อยากให้สถาบันเสื่อมเสียมากไปกว่านี้
...จะไปฝากความหวังกับผู้หลักผู้ใหญ่ของโรงเรียน คงยากซะแล้ว...