[WP8.1] เบื้องหลังระบบ Cortana ผู้ช่วยส่วนตัว: ตอนแรกไมโครซอฟท์ไม่คิดจะใช้ชื่อนี้, ใช้เวลาวางแผนถึง 5 ปี

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เว็บไซต์ The Verge เขียนสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับเบื้องลึกเบื้องหลังของระบบผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Cortana ที่เปิดตัวไปพร้อมกับ Windows Phone 8.1

โดย Marcus Ash ผู้จัดการแผนก Windows Phone ได้เผยกับทาง The Verge ว่า จริง ๆ แล้ว Cortana นั้นเป็นชื่อโค้ดเนม และไม่ได้ตั้งใจจะใช้ชื่อนี้ตั้งแต่ต้น แต่เนื่องจากคิดชื่อที่จะใช้จริงไม่ออก เลยตัดสินใจใช้ชื่อ Cortana เสียเลย ทั้งนี้ Tom Warren คาดว่า เนื่องจากข่าวหลุดเกี่ยวกับ Cortana ประกอบกับการที่คนร้องขอให้ใช้ชื่อนี้ต่อไปใน Windows Phone's UserVoice จึงช่วยให้ไมโครซอฟท์เลือกที่จะใช้ชื่อนี้จริง ๆ

ชื่อของ Cortana นั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ Halo ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวผลิตภัณฑ์ตัวนี้ โดยเป้าหมายของ Cortana คือจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ดูฉลาดและไม่แย่ (ต้นฉบับใช้คำว่า creepy) และเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างเช่น Google Now ที่ล้วงลึกถึงข้อมูลส่วนตัวภายในเครื่อง ในบางครั้งการล้วงข้อมูลนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ แต่ก็มีข้อเสียคือ จะมีการแจ้งเตือนที่ดูน่ารำคาญ

ไมโครซอฟท์รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี จึงหลีกเลี่ยงที่จะสร้างความรำคาญกับผู้ใช้ แล้วเลือกที่จะนำข้อมูลที่จำเป็นมารายงานให้กับผู้ใช้ ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของคุณสมบัติ "Notebook" ใน Cortana โดยปกติแล้ว เลขาส่วนตัวมักจะพกสมุดจดติดตัวไปด้วย และ Cortana ก็มีการทำงานแบบเดียวกัน คือจะจดจำเฉพาะสิ่งที่เราสนใจเท่านั้น รวมถึงสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลบางส่วนที่เราไม่ต้องการได้

นอกจากนี้คุณสมบัติ Notebook ใน Cortana นั้นจะบันทึกบน cloud ตลอดเวลา นั่นก็หมายความว่า ข้อมูลต่าง ๆ จะอยู่กับ Cortana ตลอดเวลานั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม Cortana ก็จะถามเราทุกครั้งเมื่อเวลาจะบันทึกข้อมูลอะไรลงใน Cortana

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วิดีโอแนะนำ Cortana

ในครั้งแรกที่เข้าใช้งาน Cortana นั้น ระบบจะถามว่าเราชื่ออะไร, อาหารที่เราชื่นชอบ, ภาพยนตร์ที่เราชื่นชอบ ฯลฯ และเมื่อเปิดใช้งานแล้ว คุณสมบัติของ Cortana จะใช้แทนปุ่มค้นหาทันที ซึ่งในรายการที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา (เช่นความชอบในด้านต่าง ๆ) จะจัดเรียงเป็นรายการ โดยเมื่อจะเรียกใช้ให้เลื่อนจากล่างขึ้นข้างบน (ใกล้เคียงกับ Google Now) และถ้าหากเราสนใจในบางหัวข้อ ก็สามารถปักหมุดในหน้า Start Screen ได้ หรือจะตั้งให้แจ้งเตือนผ่าน Action Center ก็ได้

นอกจากนี้ใน Cortana ยังมีคุณสมบัติในการแสดงผลกิจกรรมตามเหตุการณ์ที่ได้บันทึกไว้ (คล้าย ๆ กับ IFTTT) รวมไปถึงการแสดงผลลัพธ์ของคำตอบที่ดีกว่าคู่แข่งอย่าง Siri แม้จะถามคำถามเดียวกันก็ตาม อย่างเช่น "What’s the best restaurant near me" Cortana จะแสดงแค่ร้านอาหารแห่งเดียวตามคะแนนเรตติ้งสูงสุดใน Yelp ไม่ใช่หลายแห่งแบบ Siri รวมถึงสามารถสั่งโทรออก หรือสั่งนำทางผ่านการค้นหาทันที เนื่องจาก Cortana เข้าใจภาษาเราได้ดีกว่า

โดย Rob Chambers ผู้จัดการโครงการที่สำคัญของ Bing ได้กล่าวแบบติดตลกว่า "ถ้าหากเราถามเลขาจริง ๆ ว่า 'มีร้านอาหารอะไรที่ดีที่สุดแถวนี้' แล้วเลขาลากรายชื่อมายาวเป็นหางว่าว เราคงจะไล่เลขาคนนั้นออกและหาคนใหม่มาแทน"

แม้ว่าอัตลักษณ์ของ Cortana จะเป็นรูปวงกลม แต่เธอก็มีบุคลิกส่วนบุคคลด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นเมื่อเราถามว่า พ่อของคุณคือใคร Cortana ก็จะตอบกลับมาว่า "Technically speaking, that’d be Bill Gates. No big deal."

นอกจากนี้ บางคำถามที่เราถามไป Cortana จะแสดงอารมณ์ความรู้สึกของมันด้วย ซึ่ง Cortana สามารถแสดงความรู้สึกได้มากถึง 16 แบบ แต่จะไม่แสดงผลตลอดเวลา ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เผยว่า ในอนาคตจะให้ Cortana แสดงความรู้สึกกับกิจกรรมรวมถึงผลกีฬาต่าง ๆ ด้วย

ส่วนคำถามคาใจที่หลายคนสงสัยคือ แล้วใน Cortana นั้นจริง ๆ แล้วใช้เสียงของ Jen Taylor ผู้ที่พากษ์บท Cortana ในเกม Halo หรือไม่ คำตอบคือ ใช่ ครับ ไมโครซอฟท์เผยว่า บริษัทได้ทำงานร่วมกับ 343 Industries เพื่อออกแบบไอคอนที่ใช้ใน Cortana รวมถึงเสียงพากย์ใน Cortana ด้วย และถ้าหากเราถามอะไรเกี่ยวกับ Halo เช่น "What's up with Master Chief" ระบบของ Cortana ก็จะตอบกลับมา (แต่ถ้าหากใครอิน Halo จัดก็สามารถเปลี่ยนชื่อของเราเองเป็น Master Chief ได้ด้วย ซึ่งผลออกมาจะเป็นอย่างไรก็...ตัวใครตัวมันครับ ฮา)


ทวีตของเจ้าของเสียง Cortana

ไมโครซอฟท์ไม่ได้วางแผนที่จะทำโครงการนี้เพียง 2 ปี แต่ว่าไมโครซอฟท์วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ถึง 5 ปีเลยทีเดียว (ก่อนที่ Siri ได้ถือกำเนิดมาเสียอีก) โดยตัวระบบของ Cortana นั้นจะมีพื้นฐานจากบริการของ Bing เสียส่วนใหญ่ และสำรองไว้ในเซิร์ฟเวอร์กว่าพันเครื่อง ซึ่งทีมงานของ Windows Phone เข้ามาทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีม Bing เพื่อทำให้ Cortana มีชีวิตขึ้นมา

Tom Warren ได้พบกับวิศวกรของ Bing ที่อยู่ในโครงการนี้ วิศวกรคนนี้บอกว่าตัวเขาเองรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ขึ้นมา และในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ทีมวิศวกรของ Bing ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาใส่ใน Bing เพื่อนำไปต่อยอดใน Cortana รวมไปถึงเทคโนโลยีพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การประมวลผลด้านภาษาธรรมชาติ (natural language processing) พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าหาก Bing เป็นบ้าน Cortana ก็เป็นรถสปอร์ตสีแดงโก้เก๋ในโรงรถ

Mike Calcagno ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาคู่ค้าของ Bing ที่เพิ่งมาทำงานในแผนกนี้เพียง 18 เดือนเผยว่า เขาได้รับงานยักษ์งานแรกก็คืองาน Cortana เนี่ยแหละ โดย Calcagno บอกว่า "งานของผมคือ ต้องนำบริการต่าง ๆ มาผูกไว้ด้วยกัน" นอกจากนี้ Calcagno ยังบอกอีกว่า นี่คือหนึ่งในตัวอย่างของวิสัยทัศน์ "One Microsoft" ที่ Steve Ballmer เคยกล่าวไว้ก่อนที่จะลงจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท

Cortana ถือเป็นหนึ่งในการทดลองใหญ่ครั้งแรกของระบบประมวลผลขนาดใหญ่ของ Bing และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ไมโครซอฟท์ต้องแปะคำว่า Beta ในหน้า Cortana ซึ่งทางไมโครซอฟท์เผยว่า Cortana ต้องเรียนรู้และปรับปรุงคุณสมบัติตลอดเวลา โดยเฉพาะระบบคำสั่งเสียง และไมโครซอฟท์เลือกที่จะเปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาก่อน และเมื่อก่อนที่ Cortana จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทีมงานของ Bing เองก็ได้แก้บั๊กที่เกิดขึ้นกับระบบเบื้องหลังของ Cortana

Vish Vadlamani ผู้จัดการโครงการหลักของ Bing เผยว่า เขานั่งทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่มครึ่งทุกวันเพื่อพัฒนา Satori และเขาก็หวังว่า มันจะได้มีส่วนร่วมในโครงการ Cortana

ทั้งนี้ Stefan Weitz จาก Bing กล่าวว่า "วิสัยทัศน์ที่เราได้ทำงานกับระบบนี้ คือต้องการขยายการใช้งานไปยังสิ่งอื่นที่ไม่ใช่แค่ Windows Phone" ซึ่งต้องดูต่อไปว่า ในอนาคตเราจะได้เห็น Cortana ไปอยู่ที่ไหนอีกบ้างครับ

ที่มา: The Verge ผ่าน Blognone
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่