เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปเดินหาซื้อยางเส้นแถวคลองถมเอามาใช้งานที่บริษัท ของชิ้นไม่ใหญ่มาก ก็เลยเลือกที่จะปั่นจักรยานไป เพราะสะดวกเวลารถติดแถวนั้นอย่างเซ็งจิต
ไปถึงหน้าร้านที่มียางแบบที่เราจะใช้งาน แต่ร้านตึกอยู่ด้านใน ร้านแผงลอยขายของขวางหน้าร้านอยู่ (ใครเคยไปคงนึกภาพออก) และเว้นทางเข้าร้านด้านในแคบๆ เราก็เลยล๊อกจักรยานของเรากันหาย....เป็นแบบตั้งรหัสก็เสียเวลาหน่อย เดินเข้าไปสอบถามในร้านประมาณ 1-2 นาที ไม่มีแบบที่ต้องการก็เลยเดินออกมาเพื่อไปดูร้านอื่นต่อ
แต่ระหว่างที่เรากำลังปลดล๊อกรหัสอยู่ ก็มีเสียงแซวมาจากร้านแผงลอย...ที่เราจอดจักรยานบังหน้าร้านมันไว้
"ไปแค่นี้ ล๊อกอย่างกับไปเป็นวัน" เราก็เลยเงยไปมองหน้ามันหน่อย มันก็หลบสายตา ปัญหาคือน้ำเสียงที่กวนตีนเกินทนไหวนี่แหละที่ทำให้โมโห จริงๆ คือถ้าไม่ใช่ดงของพวกมันก็คิดว่าคงอยากจะมีเรื่องด้วยน้ำเสียงที่กวนนะครับ ถ้าน้ำเสียงแบบนี้ได้ยินแถวผับก็คงจะง่ายต่อการตะบันหน้ากัน
จักรยานห่างตัวยังไงผมก็ล๊อก ถ้ามันอับสายตา และไกลเกินกว่าเราจะวิ่งไปที่รถทันก่อนที่ขโมยจะปั่นรถเราหนีไป...แมร่งขายของขวาทางแล้วยัง
กวนตีนอีก...ว่าแล้วก็โมโห
ล๊อกจักรยาน เดินหาของ เจอแซวที่คลองถม
ไปถึงหน้าร้านที่มียางแบบที่เราจะใช้งาน แต่ร้านตึกอยู่ด้านใน ร้านแผงลอยขายของขวางหน้าร้านอยู่ (ใครเคยไปคงนึกภาพออก) และเว้นทางเข้าร้านด้านในแคบๆ เราก็เลยล๊อกจักรยานของเรากันหาย....เป็นแบบตั้งรหัสก็เสียเวลาหน่อย เดินเข้าไปสอบถามในร้านประมาณ 1-2 นาที ไม่มีแบบที่ต้องการก็เลยเดินออกมาเพื่อไปดูร้านอื่นต่อ
แต่ระหว่างที่เรากำลังปลดล๊อกรหัสอยู่ ก็มีเสียงแซวมาจากร้านแผงลอย...ที่เราจอดจักรยานบังหน้าร้านมันไว้ "ไปแค่นี้ ล๊อกอย่างกับไปเป็นวัน" เราก็เลยเงยไปมองหน้ามันหน่อย มันก็หลบสายตา ปัญหาคือน้ำเสียงที่กวนตีนเกินทนไหวนี่แหละที่ทำให้โมโห จริงๆ คือถ้าไม่ใช่ดงของพวกมันก็คิดว่าคงอยากจะมีเรื่องด้วยน้ำเสียงที่กวนนะครับ ถ้าน้ำเสียงแบบนี้ได้ยินแถวผับก็คงจะง่ายต่อการตะบันหน้ากัน
จักรยานห่างตัวยังไงผมก็ล๊อก ถ้ามันอับสายตา และไกลเกินกว่าเราจะวิ่งไปที่รถทันก่อนที่ขโมยจะปั่นรถเราหนีไป...แมร่งขายของขวาทางแล้วยังกวนตีนอีก...ว่าแล้วก็โมโห