เริ่มต้นจากการย้อนเวลากลับไป 50 ปี ในฤดูกาล 1963-1964 (สังเกตน่ะครับฤดูกาลนี้ 2013-2014) จะเห็นว่ามีอะไรคล้ายคลึงกันหลายอย่าง ระหว่าง บิล แชงคลี่กับแบรนแดน ร็อดเจอร์ส
ชนะสเปอร์ส ในวันที่ 30 มีนาคม แล้วขึ้นจ่าฝูง (น่าขนลุกครับ)
วันที่ 30 มีนาคม 1964 ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง และเป็นแชมป์ในปีนั้นครับ
วันที่ 30 มีนาคม 2014 ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส 4-0 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง และ....(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
การก้าวกระโดดข้ามอันดับในฤดูกาลที่ 2 ที่คุมทีมในลีกสูงสุด
เมื่อ 50 ปีที่แล้ว บิลชุบชีวิตลิเวอร์พูลที่ตกต่ำที่เล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 เกือบสิบปี ให้กลับมาเล่นลีกสูงสุดและจบอันดับที่ 8 ในฤดูกาล 1962-1963 ซึ่งนับเป็นฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดของปู่บิล และในฤดูกาลถัดมา 1963-1964 บิลสามารถพาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุดได้ โดยใช้เวลาเพียง 2 ฤดูกาลในลีกสูงสุด สุดยอดจริงๆ
หากเทียบกันรอดเจอร์ส ฤดูกาลแรก ก็จบที่อันดับ 7 และในขณะนี้ เค้าสามารถพาทีมก้าวกระโดดมามากเช่นกัน เหลือเพียงจะเป็นแชมป์ได้มั้ยในปีนี้ (อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
การรอคอยที่ยาวนานของ The Kop
ย้อนกลับไปก่อนที่บิล จะพาทีม liverpool กลับมายิ่งใหญ่ เหล่าแฟนๆต้องรอนานถึง 17 ปี (ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ครั้งสุดท้าย ปี 1946-1947) และคราวนี้ล่ะเราก็รอคอยกันมายาวนาน 20 กว่าปีเช่นกันที่จะ...(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
คู่หูกองหน้าและการทำลายสถิติ (น่าขนลุกครับ)
ในปี 1963-1964 บิลทำลายสถิติสโมสรในการทำประตูได้มากที่สุดที่ 92 ประตู และในเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีทีมลิเวอร์พูลยุคไหนทำลายสถิตินี้ได้เลย
แต่ปัจจุบัน ทีมของแบรนแดน ยิงไปแล้ว 88 ประตู ซึ่งเหลืออีก 6 นัด น่าลุ้นครับ
และในปีนั้น 1963-1964 ก็เป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลมีคู่หูกองหน้า ที่ยิงเกิน 20 ประตูต่อฤดูกาลทั้งคู่ ได้แก่ โรเจอร์ส ฮันต์ 31 ประตู กับ เอียน เซนต์จอห์น 21 ประตู และฮันต์ สามารถคว้าดาวยิงสูงสุดไปได้ในปีนั้นครับ
ถึงตอนนี้ ซัวเรสยิงไปแล้ว 29 ประตู สเตอร์ริดจ์ยิงไปแล้ว 20 ประตู ผมมองว่านี้มันคือสัญญาณอะไรบางอย่าง...(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
ทำเป็นเล่นไปน่ะครับ ลิเวอร์พูลเคยสร้างประวัติศาสตร์ซ้ำรอยสำเร็จมาแล้วในปี 2005 ที่สามารถคว้าแชมป์ UCL มาได้
พวกเราเหล่า The Kop ช่วยกันภาวนาให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกสักครั้งเถอะครับ สำหรับผมขอให้ฤดูกาลนี้ Liverpool เป็นแชมป์ แล้วต้องรออีก 5 ปี 10 ปีเป็นแชมป์อีกรอบ ผมก็ยอม เราคิดเหมือนกันมั้ย....
(Liverpool) หากประวัติศาสตร์ซ้ำรอยมีจริง ปีนี้เราจะเป็นแชมป์
ชนะสเปอร์ส ในวันที่ 30 มีนาคม แล้วขึ้นจ่าฝูง (น่าขนลุกครับ)
วันที่ 30 มีนาคม 1964 ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส 3-1 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง และเป็นแชมป์ในปีนั้นครับ
วันที่ 30 มีนาคม 2014 ลิเวอร์พูลชนะสเปอร์ส 4-0 ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง และ....(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
การก้าวกระโดดข้ามอันดับในฤดูกาลที่ 2 ที่คุมทีมในลีกสูงสุด
เมื่อ 50 ปีที่แล้ว บิลชุบชีวิตลิเวอร์พูลที่ตกต่ำที่เล่นอยู่ในดิวิชั่น 2 เกือบสิบปี ให้กลับมาเล่นลีกสูงสุดและจบอันดับที่ 8 ในฤดูกาล 1962-1963 ซึ่งนับเป็นฤดูกาลแรกในลีกสูงสุดของปู่บิล และในฤดูกาลถัดมา 1963-1964 บิลสามารถพาทีมเป็นแชมป์ลีกสูงสุดได้ โดยใช้เวลาเพียง 2 ฤดูกาลในลีกสูงสุด สุดยอดจริงๆ
หากเทียบกันรอดเจอร์ส ฤดูกาลแรก ก็จบที่อันดับ 7 และในขณะนี้ เค้าสามารถพาทีมก้าวกระโดดมามากเช่นกัน เหลือเพียงจะเป็นแชมป์ได้มั้ยในปีนี้ (อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
การรอคอยที่ยาวนานของ The Kop
ย้อนกลับไปก่อนที่บิล จะพาทีม liverpool กลับมายิ่งใหญ่ เหล่าแฟนๆต้องรอนานถึง 17 ปี (ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ครั้งสุดท้าย ปี 1946-1947) และคราวนี้ล่ะเราก็รอคอยกันมายาวนาน 20 กว่าปีเช่นกันที่จะ...(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
คู่หูกองหน้าและการทำลายสถิติ (น่าขนลุกครับ)
ในปี 1963-1964 บิลทำลายสถิติสโมสรในการทำประตูได้มากที่สุดที่ 92 ประตู และในเวลา 50 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีทีมลิเวอร์พูลยุคไหนทำลายสถิตินี้ได้เลย
แต่ปัจจุบัน ทีมของแบรนแดน ยิงไปแล้ว 88 ประตู ซึ่งเหลืออีก 6 นัด น่าลุ้นครับ
และในปีนั้น 1963-1964 ก็เป็นฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลมีคู่หูกองหน้า ที่ยิงเกิน 20 ประตูต่อฤดูกาลทั้งคู่ ได้แก่ โรเจอร์ส ฮันต์ 31 ประตู กับ เอียน เซนต์จอห์น 21 ประตู และฮันต์ สามารถคว้าดาวยิงสูงสุดไปได้ในปีนั้นครับ
ถึงตอนนี้ ซัวเรสยิงไปแล้ว 29 ประตู สเตอร์ริดจ์ยิงไปแล้ว 20 ประตู ผมมองว่านี้มันคือสัญญาณอะไรบางอย่าง...(อยากให้เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คุณล่ะ อิอิ)
ทำเป็นเล่นไปน่ะครับ ลิเวอร์พูลเคยสร้างประวัติศาสตร์ซ้ำรอยสำเร็จมาแล้วในปี 2005 ที่สามารถคว้าแชมป์ UCL มาได้
พวกเราเหล่า The Kop ช่วยกันภาวนาให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกสักครั้งเถอะครับ สำหรับผมขอให้ฤดูกาลนี้ Liverpool เป็นแชมป์ แล้วต้องรออีก 5 ปี 10 ปีเป็นแชมป์อีกรอบ ผมก็ยอม เราคิดเหมือนกันมั้ย....