ไม่ใช่ชีวิตผมหรอกครับ เคสนี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวครับ เมื่อความรักที่ราบเรียบ ไม่หวือหวา เรื่อยๆ เปื่อยๆ มาตลอด 7-8 ปี กำลังอยู่ในช่วงเวลาสั่นคลอน ช-ญ คู่นี้ คบๆ กันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบ ฝ่าย ช ก็ไปสร้างเนื้อสร้างตัว เก็บเงิน อาจจะสร้างฐานะเพื่ออนาคตของตัวเองและเพื่อครอบครัวในวันหน้า จนปัจจุบันหน้าที่การงานก็ถือว่ามีหน้ามีตาในบริษัท เงินเดือนก็ครึ่งแสน นอกนั้นยังมีงานนอก เป็นรายได้เสริมอีกทาง น่าจะอีกโขอยู่ ด้วยอายุตอนนี้ก็ 31 ส่วนฝ่าย ญ นั้นเรียนต่อด้วย ทำงานด้วย ฐานะด้อยกว่า แต่โพรไฟล์การเรียนดีเลิศ ด้วยระดับท็อปคลาสมาตลอดการศึกษา ทั้งคู่เท่าที่เห็นและได้ยินเรื่องราวมานั้น ต่างฟันฝ่ามาด้วยกัน ทะเลาะกันบ้าง ตามประสาแฟน มันก็ต้องมีบ้าง เดี๋ยวก็เลิก เดี๋ยวก็คบ แต่ก็ยังอยู่มายาวนาน ด้วยเพราะที่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันด้วยมั้งครับ เลยทำให้เรื่องมันแย่ลง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ฝ่าย ญ เล่ามาก็ดูจะโอเคกับฝ่าย ช มาตลอด ฝ่ายชายก็ส่งเงิน เก็บเงินให้ ซื้อนั่น นู่น นี่ เท่าที่พอจะทำให้ได้ด้วยความไกลกัน เร็วๆนี้ทั้งคู่ก็มีแพลนจะแต่งงานกัน โดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้มาตลอด และครอบครัวทั้งสองต่างก็ชื่นชอบทั้งคู่
จนเมื่อปลายปี-ต้นปีฝ่าย ญ เริ่มจะแปรเปลี่ยนไป เพราะอะไรไม่ทราบ อาจเพราะไปทำงานที่ใหม่รึป่าวไม่รู้ เพราะฝ่าย ญ ก็ถือว่าหน้าตาดี น่ารัก ใช้ได้ จึงทำให้มีคนมาติดพลัน อีกทั้งด้วยชีวิตรักของทั้งคู่มันอาจจะห่างไกลกัน และราบเรียบเกินไปรึป่าว ไม่แน่ใจ มันจึงส่งผลทำให้ฝ่าย ญ สนใจใน ช คนใหม่ ณ ที่ทำงานเดียวกัน ที่เข้ามาในชีวิต ทุกอย่างคงจะสวยหรู ช คนใหม่ ไม่รู้ หรือว่ารู้ ก็ไม่ทราบว่าฝ่าย ญ เองก็มีแฟนแล้ว แต่ที่แน่ๆ ฝ่าย ญ คงลุ่มหลงในตัวคนนี้แน่นอน ด้วยความหวือหวา โฉบเฉี่ยว ใกล้ชิด ดูแล อีกทั้งฝ่าย ญ เองอ่อนต่อโลกด้วย มันเลยทำให้ ฝ่าย ญ ดูจะพึงพอใจ และสนใจในตัวคนใหม่ได้ไม่ยาก ทั้งต้องเจอกันทุกวัน กินข้าว ทำงาน ว่าแล้ว ฝ่าย ช ที่เป็นแฟนของ ญ คนนี้ รู้เรื่องเข้า ก็เลยยาวล่ะครับทีนี้ ฝ่าย ช เริ่มจะสังเกตุพฤติกรรมของฝ่าย ญ ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่คุยโทรฯ ก็จะรีบวางสาย ไม่แน่ว่านัดอีกคนไว้เพื่อจะคุย จะแชทอะไรกันรึป่าว สุดท้ายฝ่าย ช คงมั่นใจดีแล้วว่าถ้าปล่อยเป็นแบบนี้คงเสียฝ่าย ญ ไปแน่นอน ก็เปิดอกคุย จนฝ่าย ญ สารภาพออกมาว่าคุยและไปกินข้าว ทำงานด้วยกัน กับคนที่เข้ามาใหม่ ฯลฯ
ทั้งคู่ต่างหาเหตุผลของกันและกันว่าทำไม ฝ่าย ญ เองต้องการความใกล้ชิด ผูกพัน ที่ฝ่าย ช ไม่มีให้ ส่วนฝ่าย ช ก็ทำมาหาเงิน เพื่อจะสร้างอนาคตเพียงอย่างเดียว จนลืมใส่ใจความรู้สึกของฝ่าย ญ ว่าจริงๆแล้วต้องการอะไร ในขณะเดียวกันผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการความมั่นคงในชีวิต ความเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ฝ่าย ญ ในตอนนี้อาจไม่ได้มอง ณ จุดนั้น ผมไม่อาจตัดสินใจแทนผู้หญิงทั่วโลกได้ว่าความต้องการส่วยใหญ่นั้นต้องการอะไร แต่ผู้หญิงที่ผมรู้จัก 90% ต้องการความมั่นคงในชีวิต และอนาคตมีคนสามารถเลี้ยงดูเราได้ ถ้าผมตัดสินด้วยความคิดผิดๆ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมเข้าใจตอนนี้ฝ่าย ญ กำลังอยู่ในช่วงที่ลุ่มหลงอยู่ก็เป็นได้ เพราะจากที่ฝ่าย ญ บอกมารู้สึกจะชอบชายคนใหม่ขึ้นมาบ้างเช่นกัน ไลฟ์สไตล์ของชายคนใหม่ คงเอาอกเอาใจ ให้ความสำคัญกับฝ่าย ญ เป็นอย่างดี ตามไปนั่นไปนี่ แทบจะเหมือนในช่วงโปรฯ ที่ผู้ชายทำคะแนนตอนจีบหญิงใหม่ๆ ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้ลึกตื้นหนา บาง ของชายคนใหม่ที่เข้ามาเท่าไร เพราะยังไม่มีข้อมูลมากนัก จะไปเผือกอะไรเขาก็ไม่ได้ ในตอนนี้ผมแค่อยากเอาใจช่วยให้คู่รักสองคนนี้กลับมาเคลียร์ปัญหา ให้เข้าใจกัน ก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้ เพราะฝ่าย ญ ผมค่อนข้างจะคลุกคลี รู้จักเป็นอย่างดี โดยตอนนี้ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นแบบนั้นไปได้ คาดว่าทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงวัดใจกันเป็นอย่างมาก
อาถรรพ์ปีที่ 7 มันมีจริงไหม ผมไม่รู้ เพราะตัวผมเองก็ยังคบไม่ถึง หรือรักแท้แพ้ใกล้ชิด ตบมือข้างเดียวไม่ดัง อะไรก็แล้วแต่ แค่ย้อนเวลามองกลับไปในจุดที่ฝ่าฟันกันมาสักครู่ น่าจะรู้ว่าเวลาที่ผ่านมาใครอยู่เคียงข้างเราเสมอ กับอีกคนที่พึ่งเข้ามาในชีวิต สามารถเปลี่ยนคนคนนึงให้ลืมไปได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?? ผมก็ไม่แน่ใจ แต่กลับในเคสนี้ผมเห็นใจฝ่าย ช มาก ถ้าจะถามถึงโอกาสของคนใหม่ที่เข้ามา แล้วคิดว่าผมตัดโอกาสไม่มองมุมมองของคนใหม่ ไม่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ผมว่า ผมคงโลกสวยเกินไป เพราะเวลาผมรักใคร ผมมักจะมีรักเดียวเสมอ ถ้าไม่โดนทิ้งไปเสียก่อน ณ จุดจุดนี้ เข้าใจว่าคนเราเมื่อใจมันไม่อยู่แล้ว จะเอาอะไรมารั้ง ผมก็ว่ายากจะอยู่ ถ้าสุดท้ายนี้ ฝ่าย ญ จะต้องไม่เหลือใคร ผมก็คงเสียใจกับเขาเหมือนกัน ในขณะที่ฝ่าย ช ผมว่าในแบบเขาสามารถหาผู้ ญ ที่มาเป็นคู่ครองได้ไม่ยาก แต่ก็นั่นล่ะครับ ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าเรารู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เราจะไม่เสียใครไปเลยก็เป็นได้...
ขอ Tag มนุษย์เงินเดือนด้วยครับ ไม่รู้มนุษย์เงินเดือนจริงแท้ แล้วนั้นต้องการอะไรบ้างในชีวิตคู่
เมื่อความรักที่เคยหวาน กลายเป็นความขม ...
จนเมื่อปลายปี-ต้นปีฝ่าย ญ เริ่มจะแปรเปลี่ยนไป เพราะอะไรไม่ทราบ อาจเพราะไปทำงานที่ใหม่รึป่าวไม่รู้ เพราะฝ่าย ญ ก็ถือว่าหน้าตาดี น่ารัก ใช้ได้ จึงทำให้มีคนมาติดพลัน อีกทั้งด้วยชีวิตรักของทั้งคู่มันอาจจะห่างไกลกัน และราบเรียบเกินไปรึป่าว ไม่แน่ใจ มันจึงส่งผลทำให้ฝ่าย ญ สนใจใน ช คนใหม่ ณ ที่ทำงานเดียวกัน ที่เข้ามาในชีวิต ทุกอย่างคงจะสวยหรู ช คนใหม่ ไม่รู้ หรือว่ารู้ ก็ไม่ทราบว่าฝ่าย ญ เองก็มีแฟนแล้ว แต่ที่แน่ๆ ฝ่าย ญ คงลุ่มหลงในตัวคนนี้แน่นอน ด้วยความหวือหวา โฉบเฉี่ยว ใกล้ชิด ดูแล อีกทั้งฝ่าย ญ เองอ่อนต่อโลกด้วย มันเลยทำให้ ฝ่าย ญ ดูจะพึงพอใจ และสนใจในตัวคนใหม่ได้ไม่ยาก ทั้งต้องเจอกันทุกวัน กินข้าว ทำงาน ว่าแล้ว ฝ่าย ช ที่เป็นแฟนของ ญ คนนี้ รู้เรื่องเข้า ก็เลยยาวล่ะครับทีนี้ ฝ่าย ช เริ่มจะสังเกตุพฤติกรรมของฝ่าย ญ ที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่คุยโทรฯ ก็จะรีบวางสาย ไม่แน่ว่านัดอีกคนไว้เพื่อจะคุย จะแชทอะไรกันรึป่าว สุดท้ายฝ่าย ช คงมั่นใจดีแล้วว่าถ้าปล่อยเป็นแบบนี้คงเสียฝ่าย ญ ไปแน่นอน ก็เปิดอกคุย จนฝ่าย ญ สารภาพออกมาว่าคุยและไปกินข้าว ทำงานด้วยกัน กับคนที่เข้ามาใหม่ ฯลฯ
ทั้งคู่ต่างหาเหตุผลของกันและกันว่าทำไม ฝ่าย ญ เองต้องการความใกล้ชิด ผูกพัน ที่ฝ่าย ช ไม่มีให้ ส่วนฝ่าย ช ก็ทำมาหาเงิน เพื่อจะสร้างอนาคตเพียงอย่างเดียว จนลืมใส่ใจความรู้สึกของฝ่าย ญ ว่าจริงๆแล้วต้องการอะไร ในขณะเดียวกันผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการความมั่นคงในชีวิต ความเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ฝ่าย ญ ในตอนนี้อาจไม่ได้มอง ณ จุดนั้น ผมไม่อาจตัดสินใจแทนผู้หญิงทั่วโลกได้ว่าความต้องการส่วยใหญ่นั้นต้องการอะไร แต่ผู้หญิงที่ผมรู้จัก 90% ต้องการความมั่นคงในชีวิต และอนาคตมีคนสามารถเลี้ยงดูเราได้ ถ้าผมตัดสินด้วยความคิดผิดๆ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมเข้าใจตอนนี้ฝ่าย ญ กำลังอยู่ในช่วงที่ลุ่มหลงอยู่ก็เป็นได้ เพราะจากที่ฝ่าย ญ บอกมารู้สึกจะชอบชายคนใหม่ขึ้นมาบ้างเช่นกัน ไลฟ์สไตล์ของชายคนใหม่ คงเอาอกเอาใจ ให้ความสำคัญกับฝ่าย ญ เป็นอย่างดี ตามไปนั่นไปนี่ แทบจะเหมือนในช่วงโปรฯ ที่ผู้ชายทำคะแนนตอนจีบหญิงใหม่ๆ ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้ลึกตื้นหนา บาง ของชายคนใหม่ที่เข้ามาเท่าไร เพราะยังไม่มีข้อมูลมากนัก จะไปเผือกอะไรเขาก็ไม่ได้ ในตอนนี้ผมแค่อยากเอาใจช่วยให้คู่รักสองคนนี้กลับมาเคลียร์ปัญหา ให้เข้าใจกัน ก่อนที่มันจะสายไปกว่านี้ เพราะฝ่าย ญ ผมค่อนข้างจะคลุกคลี รู้จักเป็นอย่างดี โดยตอนนี้ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นแบบนั้นไปได้ คาดว่าทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงวัดใจกันเป็นอย่างมาก
อาถรรพ์ปีที่ 7 มันมีจริงไหม ผมไม่รู้ เพราะตัวผมเองก็ยังคบไม่ถึง หรือรักแท้แพ้ใกล้ชิด ตบมือข้างเดียวไม่ดัง อะไรก็แล้วแต่ แค่ย้อนเวลามองกลับไปในจุดที่ฝ่าฟันกันมาสักครู่ น่าจะรู้ว่าเวลาที่ผ่านมาใครอยู่เคียงข้างเราเสมอ กับอีกคนที่พึ่งเข้ามาในชีวิต สามารถเปลี่ยนคนคนนึงให้ลืมไปได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?? ผมก็ไม่แน่ใจ แต่กลับในเคสนี้ผมเห็นใจฝ่าย ช มาก ถ้าจะถามถึงโอกาสของคนใหม่ที่เข้ามา แล้วคิดว่าผมตัดโอกาสไม่มองมุมมองของคนใหม่ ไม่ให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ผมว่า ผมคงโลกสวยเกินไป เพราะเวลาผมรักใคร ผมมักจะมีรักเดียวเสมอ ถ้าไม่โดนทิ้งไปเสียก่อน ณ จุดจุดนี้ เข้าใจว่าคนเราเมื่อใจมันไม่อยู่แล้ว จะเอาอะไรมารั้ง ผมก็ว่ายากจะอยู่ ถ้าสุดท้ายนี้ ฝ่าย ญ จะต้องไม่เหลือใคร ผมก็คงเสียใจกับเขาเหมือนกัน ในขณะที่ฝ่าย ช ผมว่าในแบบเขาสามารถหาผู้ ญ ที่มาเป็นคู่ครองได้ไม่ยาก แต่ก็นั่นล่ะครับ ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้าเรารู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ เราจะไม่เสียใครไปเลยก็เป็นได้...
ขอ Tag มนุษย์เงินเดือนด้วยครับ ไม่รู้มนุษย์เงินเดือนจริงแท้ แล้วนั้นต้องการอะไรบ้างในชีวิตคู่