ผมขอออกตัวก่อนว่า ทั้งหมดที่พิมพ์ลงไป คือคำถาม ไม่ใช่คำบอกเล่า ใครทราบคำตอบก็ตอบด้วยนะครับ

เดี๋ยวนี้ใครๆก็ถูกชวนไปทำ unicity เท่าที่ผมโดนชวนไปฟังแล้ว สิ่งแรกที่ผมรู้สึกก็คือ

ชวนไปทำธุรกิจ ทำไมต้องร่ายยาวตั้งแต่ชีวิตเป็นยังไง ต้องการอะไร มีเงินเท่าไหร่ถึงจะดี ปิดท้ายด้วยรถยนต์หรูๆ
แต่ที่ผมต้องการจะฟังมากกว่าก็คือ ธุรกิจดำเนินยังไง เป้าหมายคืออะไร งานที่แท้จริงที่ต้องทำคืออะไร ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ เมื่อไหร่
และต้องลงทุนอะไรบ้าง
ผมได้ฟังจากเพื่อนที่ได้ทำ unicity คนละคนกัน แต่พูดทุกอย่างเหมือนกัน ( ซึ่งผมเองก็ฟังไปเฉยๆ ทั้งๆที่เคยฟังมาแล้ว )
เหมือนพวกเขาถูกสอนให้พูดแบบเดียวกัน  กลุ่มเป้าหมายของพวกเขาคือ คนที่ถูกชักจูงง่ายหรืออย่างไร ( เป็นคำถาม )

จริงๆผมไม่เถียงว่า เขาสามารถรวยกันได้ เขารวยกันได้แน่ๆ ผมเชื่อเช่นนั้น แต่เส้นทางสำหรับการหาเงินนั้นเป็นอย่างไร นี่คือคำถามของผม

เอาหละเริ่มจาก

สมมุติว่า พวกคุณทำงานขายของ คุณก็ขายของให้ได้ และนำเงินเข้ากระเป๋าคุณ แต่ Unicity ไม่ใช่เช่นนั้น
คุณจะขายก็ได้นะ แต่สายงานเขาจะบอกว่า ถ้าขาย คุณก็จะไม่รวย เพราะมันจะไม่เป็น passive income
การจะรวยได้คุณต้องสร้างทีม ซึ่งนั่นหมายถึงรายได้หลักมาจากการหาคนใช่หรือไม่

คำถามคือ  ถ้าทุกคนที่อยู่ใน unicity ทั้งหมด ไม่ว่าจะกี่พันกี่หมื่นคน ไม่ได้ตั้งใจขายของ ตั้งใจแต่จะหาคน
แล้วของจะขายให้ใคร
ถ้าของไม่ขายให้ใคร แล้วจะเอาเงินไหนเข้ามาในระบบ
คำตอบ ( ที่ผมคิดไปเอง ) คุณก็ซื้อให้คนที่บ้านคุณใช้งานยังไงหละ

ทุกคน ซื้อของให้ตัวเอง เพราะอยากรวย!!!! หรอครับ
อยากมีรายได้ แต่ต้องซื้อของใช้เอง ผมเคยได้ยินแต่ ขายของ จะได้รวย แต่คราวนี้ซื้อของแล้วจะรวย

แล้วตอนเริ่มต้นธุรกิจจะเอาเงินจากไหนไปซื้อหละครับ นอกจากเงินลงทุนส่วนตัว
นั่นเท่ากับว่า คุณต้องทำงาน เพื่อนำเงินมา อัดเข้าไปในระบบ
ผมเข้าใจไม่ผิดใช่ไหมครับ เงินส่วนตัวที่ทำงานมาได้ นำอัดเข้าไปในระบบ ด้วยการซื้อสินค้ามาใช้งานเอง

ลองนึกภาพตามผม ทุกคนชวนคนเข้ามาเป็นดาวน์ไลน์ ตามสายงาน
ทุกคนต่างหวังรวย แต่ไม่ขายของ  ดีมาน์ที่เกิดคือ อุดหนุนของตัวเอง รักษายอด
ทุกคนอัดเงินส่วนตัวเข้ามาในระบบ และในระบบก็เต็มไปด้วยเงิน พอจะนำมาจ่ายให้คนที่อยู่สูงขึ้นไป

ถ้าตามเรื่องของการตลาด ( ที่ผมแท็กการตลาดไป )
เราเรียกว่าเป็น ดีมานด์เทียมได้ไหมครับ เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการสินค้าจริง
แต่พวกเขาอยากรวย จึงนำเงินอัดเข้าไปในระบบ และเป็นสินค้าสิ้นเปลืองที่เลิกใช้เมื่อไหร่ก้ได้ มันต่างจากข้าวที่ต้องกินทุกวัน

ถ้าคุณไม่อยากเฉือนเนื้อตัวเองเข้าไปในระบบ คุณก็ต้องหาคนมาเฉือนแทนคุณ ด้วยการบอกต่อไปอีก

คำถามต่อมา ดารา ที่ถูกโปรโมทว่าทำธุรกิจนี้ ถ้าผมเป็น marketting ของ unicity ผมยอมยกดาราสักคน ให้ตำแหน่งและ passive income เขาฟรีๆ
ผมสามารถยกเข้าลอยๆ ขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้คนจำนวนมากดูได้หรือไม่ ว่าเขาประสบความสำเร็จ
ซึ่งจริงๆก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้มาชวนเพื่อนฝูงอะไรหรอก แต่ถูกยกตำแหน่งอยู่ข้างบนทันที แบบนี้ก็ได้ไม่ใช่หรอครับ ( เป็นคำถามครับ )

ถ้าผมจะทำธุรกิจนี้ ตามความคิดผม ผมมีทางเลือก 2 ทาง

1. ถ้าผมอยากรวย ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ต้องคิดมาก คิดซะว่า แค่เป็นการ propaganda เฉยๆ
และชวนคนเขามา ขายฝันให้เขาฝัน แล้วผมก็จะประสบความสำเร็จแบบนี้คือแนวทางที่ผมควรทำใช่หรือไม่
เน้นชวนคนไปเลย ยอมควักเนื้อตัวเองรักษายอดไปก่อน ( เพราะต้องอัดเงินส่วนตัวเข้าไปในระบบ )
ถ้าชวนคนไม่ค่อยได้ สุดท้าย ก็เลิกทำ เพราะหาเงินอัดเข้าไปในระบบไม่ไหว
ดังนั้นผมจึงต้อง รีบหา ก่อนเงินผมจะไม่พอจะรักษายอด เพื่อนมีกี่คน ชวนหมด

2. หรือว่า ผมต้อง เริ่มจาก สมัคร นำสินค้ามาขาย เพื่อลดภาระในการรักษายอด ถ้าผมไม่เดือดร้อนเรื่องรักษายอด ผมก็อยู่ได้นาน
พออยู่ได้นานๆ เดี๋ยวก็หาคนได้เอง โดยไม่เจ๊งไปเสียก่อน
ไม่ต้องเน้นชวนคนมาก แต่ค่อยๆชวน  เน้นรักษายอดไปเรื่อยๆ


ผมพยายามคิดว่า ธุรกิจนี้ มันเป็นยังไงกันแน่ ผมไม่ได้ตัดสินว่ามันดีหรือไม่ดี  อาหารเสริมเขาอาจจะดีที่สุดเลยก็ได้
แต่ใครถ้ามันเป็น ดีมานด์เทียม สร้างดีมานด์ขึ้นมาจากคนอยากรวย มันจะดีจริงหรือไม่

จริงๆการตลาดทุกตลาด มันมีการสร้างดีมานด์ใหม่ จากที่ไม่เคยมี ให้มีคนอยากซื้ออยู่แล้วเป็นเรื่องปรกติ
แต่ถ้าคนที่อยากซื้อของนั้น คือคนอยากรวย ผมว่ามันแปลกๆนะ