วันนี้ป่วยไอไม่หยุด ไอจนอ๊วกแตก เจ็บคอ น่าจะแพ้อากาศค่ะ เลยหาเรื่องไม่อาบน้ำนอน....ไม่ใช่ละ
มึนหัวตึ้บๆ ตัดสินใจ เอาวะไปหาหมอที่ รพ. ละกัน ไหนๆก็ทำประกันมาแล้ว (โชคดีมากที่ทำประกันมา)
เปิดกูเกิ้ลแมพหา รพ. ที่อยู่ใกล้ที่พักไปที่แรก รพ. ปิดค่ะ อ่าววว ซวย วันนี้วันอาทิตย์ด้วยเลยต้องเดินไปที่อื่น
ไปที่ที่สอง โรงพยาบาลค่อนข้างใหญ่ .... ถามพยาบาล can you speak english? พยาบาลส่ายหัว กับยิ้มแหยงๆให้ แล้วพูดมาคำเดียว No Doctor ! พร้อมกับให้ใบปลิวมาหนึ่งแผ่น
เดินออกจาก รพ. แบบ งงๆ อ่าว รพ. ไม่มีหมอ คืออะไร ยังไง 5555 เราไม่ท้อค่ะ เดินต่อไปอีก รพ.
คราวนี้ล่ะหนักเลย ฝนตกด้วย หัวเปียก ไอไม่หยุด มีแต่คนเดินหนีจากรัศมีเรา พอถึงโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลพ่นญี่ปุ่นใส่รัวๆ พร้อมกับยัดใบปลิวให้อีกแล้ว รับมาแบบงงๆอีกรอบ
ออกมายืนทำใจหน้าตู้หยอดน้ำข้างโรงพยาบาล โออนิจจาตัวข้าจะตายha อยู่ญี่ปุ่นซะม้าง (ณ ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ ) เหมือนเทวดาจะสงสารเรา ก้มมองรองเท้าเจอเงินตกอยู่หน้าตู้หยอดน้ำ ตั้ง 1 เยน!!!! คิดว่าดิฉันเก็บมันรึเปล่า เก็บคร่าาาา เพราะตอนแรกนึกว่าเหรียญร้อยเยน
เดินเอ๋อๆกลับมาที่ รร ไอไม่หยุดตลอดทาง ออกจากโรงแรมเที่ยง ตามหาโรงพยาบาลจนบ่ายสาม นั่งรอนอนรอเจ้าหน้าที่ รร. ให้ช่วยหา รพ. ให้หน่อย บริษัทประกันที่ไทยก็โทรมาไม่หยุด จะประสานงานหา รพ. ให้ สรุปดิฉันเติมเงินมา 500 หมดเกลี้ยง รับสายนาทีละสิบบาท โทรกลับไทยก็สิบบาท
โชคยังเข้าข้างกลับที่พักมานั่งหลบฝน เพื่อนต่างชาติที่พักด้วยกันก็ช่วยเหลือเต็มที่ โทรหาโรงพยาบาลให้แต่เขาไม่รับเรา เศร้าใจ
จนได้เมลย์หาเจ้าของที่พัก เขาเลยให้จนท.ที่พักโทรหารถพยาบาลให้มารับ แขกเขิกแตกตื่นกันใหญ่ คงคิดว่ามีใครตายล่ะสิ ฮ่าาาา จะว่าไปญี่ปุ่นนี่ก็มุงเป็นน๊าา แอบเขินเล็กน้อย
รถหวอเปิดไซเรนมาแต่ไกล ทำใจแทบไม่ทัน นี่ข้าขึ้นรถพยาบาลครั้งแรกในชีวิต ขึ้นที่ญี่ปุ่นเลยนะ! บุรุษพยาบาลส่งปรอทวัดไข้ให้ซุกรักแร้
ซุกครั้งแรก 34C` บุรุษพยาบาลทำหน้างงๆ นี่เป็นศพไปแล้วหรือยังไงทำไมอุณหภูมิแค่นี้ ได้วัดใหม่ค่ะ วันทีแรกเอาปรอททิ่มเลยรักแร้ไปไกล
วัดรอบสองได้ 38.8C'
ขึ้นไปนั่งเอ๋อบนรถ ไอแค่กๆ บุรุษพยาบาลก็ถามนู้นถามนี่ แกมาถามชั้นทำมายยยยยย ชั้นฟังไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าคุณอยากเห็นคนไอจนอ๊วกชั้นทำให้คุณดูได้นะ ไอตอบได้อย่างเดียว ณ จุดนั้น จนท.ที่พักดูแลดีมากตามไปแปลให้ตั้งแต่บนรถพยาบาลยัน รพ. เกรงใจจัง
เกือบสิบนาทีบนรถพยาบาล บุรุษพยาบาลบนรถติดต่อโรงพยาบาลให้รับดิฉัน แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเลย... สงสัยได้ตายจริงๆละ ไอใส่จนปอดแทบจะทะลักออกปาก ในที่สุดก็มี รพ.รับช้านนนน ดีใจๆ นรกชังหรือสวรรค์แกล้งโรงพยาบาลน่ากลัวมาก ล้างผู้คน มีลุงยามอยู่กับหมอ พยาบาลอีกคนนึง
กระเหรี่ยงน้อยได้เจอหมอแล้ว ณ.จุดๆนี้ ขอกราบกูเกิ้ลทรานสเลทแบบงามๆซักสามที ถึงแม้หมอจะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ตัวจริงหมอหล่อ ดิฉันให้อภัยค่ะ
ได้ยามาแล้วววว หมดค่ารักษาไปหมื่นเยนค่ะ มียาแบบละลายน้ำกินด้วย แบบผงๆ รสชาติเหมือนอึนกพิราบ (เคยโดยนกพิราบหน้าวัดพระแก้วอึใส่หน้า กลิ่นเดียวกันเลย)
จนท.ที่พักบอกว่า 1. ที่เขาไม่ค่อยรับต่างชาติเพราะสื่อสารไม่รู้เรื่อง ถ้ารักษาผิดจะโดนฟ้อง หมอที่นี่กลัวการโดนฟ้องมาก
2. ต้องโทรไปนัดหมอก่อน เดินดุ่ยๆไปหา ไม่รับนะจร้ะ หน้าโรงพยาบาลไม่ไฉไลเหมือนเมืองไทย ทางเข้าโรงพยาบาลเหมือนทางเข้าโรงจอดรถห้างเลยค่ะ ใครจะหาหมอต้องรู้ล่วงหน้านะคะว่าจะป่วย บอกอาการไปก่อนแล้วนัดหมอพรุ่งนี้แล้วอาการเปลี่ยน เผลอๆได้นัดใหม่แน่เลย
3. ถ้าเขาไม่รับเราจริงๆ ทำยังไงก็ได้ให้เราได้ขึ้นรถพยาบาล แล้วบุรุษพยาบาลจะหาโรงพยาบาลเพื่อยัดเยียดเราเข้าไปเอง 555
ขอแก้ไขข้อมูลกับคำพูดบางคำที่ขัดใจหน่อยน๊าาา
ปล. ขอบคุณทุกความห่วงใยค่ะ
ประสบการณ์เข้าโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่น
มึนหัวตึ้บๆ ตัดสินใจ เอาวะไปหาหมอที่ รพ. ละกัน ไหนๆก็ทำประกันมาแล้ว (โชคดีมากที่ทำประกันมา)
เปิดกูเกิ้ลแมพหา รพ. ที่อยู่ใกล้ที่พักไปที่แรก รพ. ปิดค่ะ อ่าววว ซวย วันนี้วันอาทิตย์ด้วยเลยต้องเดินไปที่อื่น
ไปที่ที่สอง โรงพยาบาลค่อนข้างใหญ่ .... ถามพยาบาล can you speak english? พยาบาลส่ายหัว กับยิ้มแหยงๆให้ แล้วพูดมาคำเดียว No Doctor ! พร้อมกับให้ใบปลิวมาหนึ่งแผ่น
เดินออกจาก รพ. แบบ งงๆ อ่าว รพ. ไม่มีหมอ คืออะไร ยังไง 5555 เราไม่ท้อค่ะ เดินต่อไปอีก รพ.
คราวนี้ล่ะหนักเลย ฝนตกด้วย หัวเปียก ไอไม่หยุด มีแต่คนเดินหนีจากรัศมีเรา พอถึงโรงพยาบาล บุรุษพยาบาลพ่นญี่ปุ่นใส่รัวๆ พร้อมกับยัดใบปลิวให้อีกแล้ว รับมาแบบงงๆอีกรอบ
ออกมายืนทำใจหน้าตู้หยอดน้ำข้างโรงพยาบาล โออนิจจาตัวข้าจะตายha อยู่ญี่ปุ่นซะม้าง (ณ ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ ) เหมือนเทวดาจะสงสารเรา ก้มมองรองเท้าเจอเงินตกอยู่หน้าตู้หยอดน้ำ ตั้ง 1 เยน!!!! คิดว่าดิฉันเก็บมันรึเปล่า เก็บคร่าาาา เพราะตอนแรกนึกว่าเหรียญร้อยเยน
เดินเอ๋อๆกลับมาที่ รร ไอไม่หยุดตลอดทาง ออกจากโรงแรมเที่ยง ตามหาโรงพยาบาลจนบ่ายสาม นั่งรอนอนรอเจ้าหน้าที่ รร. ให้ช่วยหา รพ. ให้หน่อย บริษัทประกันที่ไทยก็โทรมาไม่หยุด จะประสานงานหา รพ. ให้ สรุปดิฉันเติมเงินมา 500 หมดเกลี้ยง รับสายนาทีละสิบบาท โทรกลับไทยก็สิบบาท
โชคยังเข้าข้างกลับที่พักมานั่งหลบฝน เพื่อนต่างชาติที่พักด้วยกันก็ช่วยเหลือเต็มที่ โทรหาโรงพยาบาลให้แต่เขาไม่รับเรา เศร้าใจ
จนได้เมลย์หาเจ้าของที่พัก เขาเลยให้จนท.ที่พักโทรหารถพยาบาลให้มารับ แขกเขิกแตกตื่นกันใหญ่ คงคิดว่ามีใครตายล่ะสิ ฮ่าาาา จะว่าไปญี่ปุ่นนี่ก็มุงเป็นน๊าา แอบเขินเล็กน้อย
รถหวอเปิดไซเรนมาแต่ไกล ทำใจแทบไม่ทัน นี่ข้าขึ้นรถพยาบาลครั้งแรกในชีวิต ขึ้นที่ญี่ปุ่นเลยนะ! บุรุษพยาบาลส่งปรอทวัดไข้ให้ซุกรักแร้
ซุกครั้งแรก 34C` บุรุษพยาบาลทำหน้างงๆ นี่เป็นศพไปแล้วหรือยังไงทำไมอุณหภูมิแค่นี้ ได้วัดใหม่ค่ะ วันทีแรกเอาปรอททิ่มเลยรักแร้ไปไกล
วัดรอบสองได้ 38.8C'
ขึ้นไปนั่งเอ๋อบนรถ ไอแค่กๆ บุรุษพยาบาลก็ถามนู้นถามนี่ แกมาถามชั้นทำมายยยยยย ชั้นฟังไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าคุณอยากเห็นคนไอจนอ๊วกชั้นทำให้คุณดูได้นะ ไอตอบได้อย่างเดียว ณ จุดนั้น จนท.ที่พักดูแลดีมากตามไปแปลให้ตั้งแต่บนรถพยาบาลยัน รพ. เกรงใจจัง
เกือบสิบนาทีบนรถพยาบาล บุรุษพยาบาลบนรถติดต่อโรงพยาบาลให้รับดิฉัน แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเลย... สงสัยได้ตายจริงๆละ ไอใส่จนปอดแทบจะทะลักออกปาก ในที่สุดก็มี รพ.รับช้านนนน ดีใจๆ นรกชังหรือสวรรค์แกล้งโรงพยาบาลน่ากลัวมาก ล้างผู้คน มีลุงยามอยู่กับหมอ พยาบาลอีกคนนึง
กระเหรี่ยงน้อยได้เจอหมอแล้ว ณ.จุดๆนี้ ขอกราบกูเกิ้ลทรานสเลทแบบงามๆซักสามที ถึงแม้หมอจะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ตัวจริงหมอหล่อ ดิฉันให้อภัยค่ะ
ได้ยามาแล้วววว หมดค่ารักษาไปหมื่นเยนค่ะ มียาแบบละลายน้ำกินด้วย แบบผงๆ รสชาติเหมือนอึนกพิราบ (เคยโดยนกพิราบหน้าวัดพระแก้วอึใส่หน้า กลิ่นเดียวกันเลย)
จนท.ที่พักบอกว่า 1. ที่เขาไม่ค่อยรับต่างชาติเพราะสื่อสารไม่รู้เรื่อง ถ้ารักษาผิดจะโดนฟ้อง หมอที่นี่กลัวการโดนฟ้องมาก
2. ต้องโทรไปนัดหมอก่อน เดินดุ่ยๆไปหา ไม่รับนะจร้ะ หน้าโรงพยาบาลไม่ไฉไลเหมือนเมืองไทย ทางเข้าโรงพยาบาลเหมือนทางเข้าโรงจอดรถห้างเลยค่ะ ใครจะหาหมอต้องรู้ล่วงหน้านะคะว่าจะป่วย บอกอาการไปก่อนแล้วนัดหมอพรุ่งนี้แล้วอาการเปลี่ยน เผลอๆได้นัดใหม่แน่เลย
3. ถ้าเขาไม่รับเราจริงๆ ทำยังไงก็ได้ให้เราได้ขึ้นรถพยาบาล แล้วบุรุษพยาบาลจะหาโรงพยาบาลเพื่อยัดเยียดเราเข้าไปเอง 555
ขอแก้ไขข้อมูลกับคำพูดบางคำที่ขัดใจหน่อยน๊าาา
ปล. ขอบคุณทุกความห่วงใยค่ะ