ลูกไม่ยอมแปรงฟัน

"ลูกไม่ยอมให้แปรงฟันดีๆ เลยค่ะ เมื่อไรจะยอมเสียที แม่ท้อเหลือเกินค่ะ"

อยากให้เห็นพัฒนาการของดาวิน เลยตัดต่อคลิปตั้งแต่เริ่มแปรงฟันให้ดาวินซี่แรกจนถึงปัจจุบันมาให้ดูค่ะ

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กเลี้ยงง่าย ร่วมมือแปรงฟันเป็นอย่างดีโดยไม่ต้องบังคับถือว่าโชคดีมากๆ
ส่วนคุณพ่อแม่อีกหลายคนเช่นกันที่ไม่ว่าจะงัดกลยุทธ์วิธีใดมาหลอกล่อ ไม่ว่าจะร้องเพลง เล่านิทาน แปรงให้ดู แปรงด้วยกันพ่อแม่ลูก แปรงให้ตุ๊กตาตัวโปรด เปิดคลิปการ์ตูน ก็ไม่สามารถทำให้ลูกยอมร่วมมือแปรงฟันดีๆ ได้ เพราะฉะนั้นจึงมีทางเลือก 2 ข้อคือ

ข้อแรก ยอมแพ้ แล้วรอให้ลูกร่วมมือก่อนจึงค่อยแปรงฟัน (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรและกว่าจะถึงตอนนั้นลูกจะฟันผุไปหรือยัง)

ข้อสองคือ ต้องแปรงฟันลูกให้ได้

หากเลือกข้อแรกไม่จำเป็นต้องอ่านต่อก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเลือกข้อสองขอให้อ่านต่ออย่างตั้งใจจนจบนะคะ

การแปรงฟันให้ลูกที่ไม่ชอบการแปรงฟันก็คือการฝึกลูกให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ (แต่เป็นเรื่องจำเป็น) ไม่อยากให้คุณแม่มองว่าการฝึกลูกให้ทำในสิ่งที่เค้าไม่ชอบเป็นการบังคับ ขืนใจ ทำร้ายจิตใจ

แต่เป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะอดทนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ ในอนาคตลูกยังต้องได้พบเจอเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมายที่เค้าไม่ชอบไม่อยากทำแต่ต้องทำหรือต้องผ่านไปให้ได้

การนอนแปรงฟันในอ้อมกอดของแม่ถือเป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ นะคะ

หลักการฝึกลูกให้ยอมรับการแปรงฟันที่สำคัญ คือ

1.ความร่วมมือ ร่วมใจจากสมาชิกในครอบครัว

ทุกคนในบ้านต้องมีความเห็นเกี่ยวกับการแปรงฟันให้ลูกไปในแนวทางเดียวกัน หากแม่กำลังแปรงฟันให้ลูกที่ร้องดิ้น แต่พ่อคอยบอกว่าพอเถอะ หยุดได้แล้ว สงสารลูก นอกจากจะทำให้แม่หมดกำลังใจแล้ว ก็จะทำให้ลูกรู้สึกได้ถึงความไม่เป็นหนึ่งเดียวกันของพ่อกับแม่ (เด็กเล็กอาจไม่เข้าใจความหมายของคำพูด แต่เค้าสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของผู้ใหญ่นะคะ)

ดังนั้นหากคุณแม่ที่ไฟกำลังแรง อ่านข้อมูลจากเพจฟันน้ำนมแล้วอยากแปรงฟันลูกให้สะอาด ควรพูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเลี้ยงลูกให้เข้าใจตรงกันและยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการบังคับลูกแปรงฟันก่อน

ถ้าคุณพ่อทนไม่ได้ที่จะเห็นลูกร้องไห้ ก็ไปอยู่ที่ไหนไกลๆ ก่อนก็ได้ ไม่ต้องมายืนทำหน้าเศร้าอยู่ใกล้ๆ ให้คนแปรงรู้สึกผิดที่เป็นคนทำลูกร้องไห้

2.ท่าทีขณะแปรงฟันที่สงบ ใจเย็น เมตตา

ท่าทีสงบคือ ไม่ขมวดคิ้ว ไม่บ่น ไม่ขู่ (โดยเฉพาะประโยค "ถ้าไม่แปรงฟัน จะจับไปให้หมอถอนฟันนะ" please) ไม่ดุว่า ไม่ทำเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญ ไม่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ไม่หงุดหงิดแปรงฟันแรงๆ ไม่แสดงสีหน้ากังวล ไม่น้ำตาซึม ไม่มือไม้สั่นตอนลูกกรี๊ด ไม่แสดงท่าทีโอ๋หรือเป็นห่วงลูกจนเกินไป ไม่ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก

และแน่นอนหากผู้แปรงฟันให้ลูกมีความสบายใจ มั่นใจในการแปรงฟันให้ลูกเสียอย่าง จะไม่มีทางแสดงท่าทีดังกล่าวออกมาแน่นอนค่ะ

3.ความสม่ำเสมอ

การแปรงฟันให้ลูกต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจึงจะได้ผล
กำหนดเวลาให้แน่นอนว่าจะแปรงฟันลูกเมื่อไหร่ เช่น หลังอาบน้ำเช้าเย็นเพื่อง่ายต่อเด็กในการเรียนรู้
เมื่อกำหนดเวลาแล้วก็ต้องทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
วันไหนลูกอารมณ์ดีก็แปรงฟัน วันไหนลูกร้องไห้ไม่ยอมก็ต้องแปรงฟัน

สำคัญที่สุดคือผู้แปรงฟันต้องทำด้วยท่าทีสงบตามที่กล่าวมาข้างต้นค่ะ หากวันนี้ไม่สำเร็จให้ลองใหม่พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ยังไม่ได้ก็ลองใหม่มะรืนนี้ ทำต่อเนื่องทุกวันวันละ 2 ครั้ง สักวันจะสำเร็จจนได้

หมอเริ่มแปรงฟันให้ดาวินตั้งแต่เค้า 6 เดือน ทำทุกวันเช้าเย็นจนวันที่เค้ายอมนอนให้แปรงฟันดีๆ ก็ตอนประมาณ 1 ขวบ 7 เดือน ใช้เวลาฝึกแปรงฟันประมาณ 1 ปี ดาวินก็ให้ความร่วมมือแปรงฟันโดยไม่ต้องล็อคตัวอีกแล้ว

ในคลิปจะสังเกตว่าช่วง 6 เดือนดาวินยอมนอนให้แปรงฟันแต่โดยดี พอ 7 เดือนกลับไม่ค่อยร่วมมือแปรงฟัน พอโตขึ้น รู้มากห่วงเล่นก็เริ่มต่อต้านร้องดิ้นมากขึ้น
แต่หมอและสามียังคงมั่นใจในสิ่งที่ทำ ยืนยันแปรงฟันให้เค้าต่อไปอย่างสม่ำเสมอด้วยท่าทีสงบ จนวันนี้ก็สำเร็จ

หมอพิสูจน์มาแล้วว่าการบังคับลูก ไม่ทำให้ลูกกลัวการแปรงฟันแน่นอน

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ที่มา : https://www.facebook.com/thaimilkteeth
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่