คือเกริ่นก่อนเลยนะครับ พวกผมเป็น นศ ภาคค่ำ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาลัยรัฐแห่งหนึ่งใน กทม
ซึ่งก็กำลังจะถึงจุดจบของพวกผมแล้ว เหตุมันเป็นเพราะว่า ในปีนี้ มีเด็กเข้ามาน้อยกว่าปีที่แล้วหรือทุกๆ ปี
ซึ่งปกติเอกผมจะมีเด็ก 40 - 50 คน แต่รุ่นผมนี้กลับมีเด็กแค่ 22 คน
แล้วด้วยเหตุผลต่างๆ บางคนไม่พร้อม เรียนไม่ไหว ไม่ใช่แนว ก็ทำให้มีคนออกไปบ้างประมาณ 10 คน
ตอนนี้ก็เหลือนศ.อยู่ราวๆ 12 คน ครับ แต่ถึงอย่างไร? 12 คนนี้ ก็เข้ามาแล้ว เตรียมตัวมาแล้ว ค่าเทอมค่าอะไรก็เสียกันแล้ว
เขาไม่สมควรได้เรียนหรือ?
เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ คือ เพราะมีอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์คนนี้เขาจบถึง ดร. อีกทั้งเป็นหัวหน้าสาขาวิชาวิทยาฯ คอม ด้วย
แต่ข้อเสียของแกก็คือ แกจะทำอะไรลวกมาก จนไม่เคยนึกถึงผลกระทบที่มันจะตกถึงคนอื่นเลย แล้วที่แย่ยิ่งกว่า
คือเรื่องการขี้เกียจ เห็นแก่ตัว
ทุกครั้งที่เข้าสอนครับ เขาจะถามอยู่ตลอดว่า "เมื่อไหร่พวกเธอจะออกให้หมด ย้ายคณะก็ได้นะ เรียนง่ายกว่านี้อีก
วันนี้อาจารย์ขี้เกียจ รีบเรียนรีบเลิกแล้วกัน" แล้วแกก็รีบสอนจริงๆ ครับ วันนึงไม่เคยสอนเกิน 45 นาทีเลย
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และเวลาเรียนจริงๆมัน 3 ชม.
วิชาที่แกสอนอยู่คือวิชา เขียนโปรแกรม(java) ครับ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะสอนคาบละ 45 นาทีให้เข้าใจ
โดยไม่มีตัวอย่างโจทย์ ไม่มีการให้ลองฝึกทำ ไม่มีเรียกถาม ถือปากกาไวท์บอร์ดแท่งนึงแล้ววาดโยงไปโยงมา
แล้วที่แย่กว่านั้น เหมือนแกตั้งใจพูดให้งงครับ คือถ้าอธิบายตรงๆ ก็เข้าใจไปแล้ว แต่นี่ พูดวนไปวนมา ไปหน้านู้นพลิกหน้านี้
จับหลักแทบไม่ได้เลย
ผมเรียนกับแกมาตอนนี้ก็ 2 วิชาละครับ เป็นเขียนโปรแกรม 1 กับ เขียนโปรแกรม 2 ไอตอนเรียน เขียน 1 เนี่ย
ยังไม่มีปัญหาอะไรมากครับ เพราะถึงอาจารย์จะชุ่ยยังไง แต่ก็ยังใส่ใจกว่าตอนนี้ และผมก็ยังสามารถหาอ่านจากที่อื่นได้
มีโจทย์ แบบฝึกหัดให้ทำเยอะแยะ เพราะยังเป็นวิชาพื้นฐานอยู่ อีกทั้งเป็นวิชาที่ผมถนัดมากครับ และเป็นความฝันของผมที่อยากจะทำงานด้านซอฟแวร์ ผมเลยตั้งใจอย่างมาก ทำให้ไม่ว่าโจทย์หินแค่ไหน ผมก็ผ่านมันมาได้
การตัดเกรดของอาจารย์ จะตรงข้ามกับการสอนมาก เวลาสอนสอนชุ่ย แต่เวลาให้คะแนน จะยากมาก
แกบอกพวกผมว่า "ครูไม่อยากให้มีคะแนนเก็บ เพราะครูขี้เกียจตรวจการบ้าน งานครูเยอะแล้ว" เลยกลายเป็นว่าสอบทั้ง 100%
ทั้งหมดเป็นการสอบปฏิบัติทั้งหมด 6 ครั้ง ทีละ 10 คะแนนบ้าง 20 คะแนนบ้าง คละกันไป เป็นการให้เขียนโปรแกรมแล้ว run
ถ้า run ผ่าน เอาไปเลย 10 คะแนน แต่ถ้า run ไม่ผ่าน ได้ 0 ไม่ว่าคุนจะเขียนใกล้เสร็จ เกือบจะรันออกแล้วอีกนิดเดียว
ตกหล่นคำสั่ง ติด bug เล็กๆ ยังไงอาจารย์ก็ให้ 0 เกรดวิชานี้เลยมีเด็กติด F ราวๆ 80% เลยก็ว่าได้ แต่ผมไม่ติดนะครับ
เพราะตั้งใจเรียนมาก
เมื่อเข้าเทอม 2 อาจารย์ก็เหมือนจะออกลายหนักขึ้น เอะอะๆ ก็งดสอน แล้วพอเรียนไม่ทัน ก็รวบทีเดียว 2 เรื่องในคาบเดียว
แล้วยิ่งกว่านั้น สอนแทบไม่ถึง 40 นาที ก็ปล่อยคลาส เพราะอาจารย์อยากกลับบ้าน แล้ว นศ ภาคค่ำอย่างพวกผมจะทำอย่างไรล่ะครับ
กลางวันงานก็ต้องทำ ตอนเย็นก็มาเรียน กลางคืนเวลาจะอ่านหนังสือก็แทบไม่มี ถ้านอน คือไม่ได้อ่าน ถ้าอ่าน ก็ไม่ได้นอน พอมาเรียนอาจารย์ก็แกล้งสารพัดวิธีไม่ให้รู้เรื่อง เพื่อจะได้สอบตก
บางคนอาจจะคิดว่าเพราะพวกผมไม่ตั้งใจรึเปล่า อาจารย์เลยไม่อยากสอน บอกเลยครับ สำหรับตัวผมเอง ตั้งแต่เรียนมา
1 เทอมครึ่ง ผมไม่ขาดเรียนสักวันเลย มาก่อนอาจารย์ตลอด ตั้งใจฟังตลอด เพราะความฝันที่อยากทำงานด้านนี้ และเพื่อนอีกหลายคนก็เป็นอย่างนี้
และเกรดเฉลี่ยของเทอม 1 ที่ผ่าน ห้องผมมีเกินครึ่งห้อง ที่เกรด 3.00+ ที่ต่ำลงมาก็แทบไม่มีคนที่ได้น้อยกว่า 2.5
ผิดกับเด็กภาคปกติ ที่มีหน้าที่แค่เรียนกับสะดิ้งไปวันๆอย่างเดียว ที่มี 120 คน แบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องละ 40
แต่ในเด็กภาคปกตินั้น มีราวๆ 10 กว่าคนจากทั้งหมด 120 คน ที่ได้ 3.00+
แล้วท็อป 3 อันดับของชั้นปี ก็อยู่ที่ภาคค่ำกันหมดเลย ตัวผมได้ 3.9+ เพื่อนอีกสองคนได้ 3.8 และ 3.7
ทั้งๆ ที่พวกผมตั้งใจขนาดนี้ อาจารย์กลับอยากที่จะไสหัวพวกผมไป แล้วเด็กคุณภาพดีๆ ที่จบมาจากมหาลัยนี้
จะได้จบออกไปเป็นบุคลากรที่ดีๆ สร้างชื่อให้สถาบัน กลับไม่มี แต่ถึงอย่างไร ผมว่าอาจารย์คงไม่สนใจหรอก
คงสนแค่เพียงความสุขของตัวเอง เพียงแค่จะได้เลิกสอนเด็กภาคค่ำ จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น
ถ้าไม่อยากได้พวกผม จะเปิดรับสมัครตั้งแต่แรกทำไม?
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่สุดก็คือในเทอมนี้(เทอม 2)
และด้วยความที่เป็นวิชาเขียนโปรแกรม 2 เนื้อหามันค่อนข้างจะลึกลงไปแล้ว เริ่มจะหาข้อมูลเองทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้แล้ว
ต้องไปหวังพึ่งอ่านแบบเรียนของอาจารย์ แต่ที่แย่คือ นอกจากอาจารย์ไม่เคยเขียนแบบเรียนเองแล้ว(อันนี้ผมไม่ว่า)
จะไปหาแบบเรียนของคนอื่นมาสอนก็ยังดี แต่นี่ไม่ เหมือนอาจารย์จะไปปริ้นเอามั่วๆ จากอินเตอร์เน็ต
สมบูรณ์บ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง เนื้อหาถูกบ้าง มั่วบ้าง บางเรื่องไม่เห็นจะเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเรียน
ไม่เห็นจะต้องใช้ เวลาสอนก็ แทนที่จะค่อยๆ อธิบายไปทีละหน้า ก็พูดเข้าจุดเลย ไม่มีกล่าวถึงที่มาที่ไป
ทำเอาพวกผม งง กันหัวจะแตก พออาจารย์เห็นพวกผมงง แกก็หัวเราะอย่างมีความสุข ชอบใจ สะใจ
เทอม 2 ที่ผ่านมานี้ มีการสอบมาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรก ยังไม่ยากเท่าไหร่ บวกกับผม
ไปค้นหาข้อมูล วิธีทำต่างๆ มาอ่านได้ แต่กว่าจะหามาได้ ก็ลำบากมากเหมือนกัน
แล้วเมื่อผมหามาได้ ผมก็เลยเอามาแจกเพื่อนๆ สอนเพื่อนๆ จนเพื่อนเข้าใจไปหลายคน
พอสอบปุ้ป ก็กลายเป็นว่าทำกันได้หลายคน จนอาจารย์ไม่พอใจ อาจารย์เลยมาบอกว่า
"ข้อสอบง่ายไปใช่มั้ย ได้ๆ คราวหน้าเจอกัน"
พอสอนครั้งที่ 2 อาจารย์เล่นรวมทีเดียว 3 เรื่องไว้ในคาบเดียวกัน แล้วเป็นเรื่องที่ยากด้วย แล้วสอนให้งงสุดๆ
สอนไปหัวเราะเยาะในความโง่ของเด็กไป เสร็จแล้วการสอนครั้งนี้ ใช้เวลาแค่ 25 นาที พวกผมจับชนแทบไม่ถูก
จะกลับไปอ่านชีสที่ให้มาก็มั่ว ตัวอย่างที่ให้ก็เป็นโจทย์ง่ายๆ ที่ไม่มีทางออกในข้อสอบแน่ๆ
พออาทิตย์ถัดมา อาจารย์ก็งดสอน ไปไหนก็ไม่รู้?
แล้ววันที่สอบก็มาถึง ครั้งนี้เป็นการสอบแบบข้อเขียน เพราะเนื้อหาเยอะ พอผมเปิดกระดาษมาเจอ โจทย์ยากมาก ยากถึงยากที่สุด
คำสั่งแปลกๆ วิธีการแปลกๆ รูปแบบแปลกๆ
สิ่งที่ผมไม่เคยพบเคยเห็น แม้ในห้องเรียนหรือข้อมูลที่ผมไปค้นคว้ามา ก็ไม่เคยพบเคยเจอ
ผมทำไม่ได้เลย แล้วที่แย่กว่านั้น ถ้าตอบผิด -1 บางข้อถึงกับ -2
นอกจากยากจนทำไม่ได้แล้ว ยังไม่เหลือโอกาสให้ผมได้ลองผิดลองถูกเลย
ถ้าทำข้อสอบแล้วคะแนนติดลบแบบนี้ ผมว่านอนอยู่หอพักเฉยๆ ยังจะได้คะแนนเยอะกว่า
หลังจากวันนั้น ผมกลับบ้านมานั่งเสียใจ ผมไปทำอะไรไว้กับอาจารย์ ทำไมท่านถึงต้องทำกับผมแบบนี้
แรงกายแรงใจที่ผมทุ่มเทมาตลอด มันก็หมดลงเพราะความไม่อยากสอนของอาจารย์คนเดียว
ความฝันของผมล่ะ ผมจะได้ออกไปทำงานด้านนี้ไหม ถ้าหากว่าหลังเรียนจบผมอยากจะใช้เกรดยื่นขอทุนเรียนต่อล่ะ
ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่คนที่บ้านฝากความหวังมามากมาย ผมมีพ่อกับแม่ที่ป่วยอยู่ทั้งคู่ เดี่ยวเป็นโรคนู๊น โรคนี้
ผมมีน้องที่ต้องดูแลอีก 2 คน คนนึงน้องชายไม่นานก็จะเข้ามหาลัย ก็ต้องใช้เงิน น้องสาวอีกคนก็ยังเล็กอยู่ เพิ่งจะขึ้น ป.3
อนาคตยังต้องมีอีกไกล ก็ต้องพึ่งพาผม ผมเองก็อายุ 20 กว่าแล้ว (เพราะเคยซิ่ว) พ่อแม่ก็รอจะเห็นผมรับปริญญาไม่ไหวแล้ว
เพราะท่านเองก็ไม่รู้จะมีอายุถึงเท่าไหร่ ทุกวันนี้พ่อแม่ก็ต้องทนทำงาน ทั้งที่ผมอยากให้ท่านพักใจจะขาด
ถ้าอาจารย์ยังทำแบบนี้ ไม่นานพวกผมคง F ยกห้องแน่ๆ แล้วอาจารย์ยังบอกมาด้วยว่า "ต่อไปจะไม่เปิดวิชานี้อีกแล้ว
เพราะเขาจะปิดภาคค่ำไป อาจารย์จะให้ F พวกเธอไปจนกว่าพวกเธอจะทนไม่ไหว แล้วลาออกไปเอง" แล้ววิชาที่ตัวต่อเยอะแบบนี้
ถ้าแก้ก็คงโน่น 5 ปีจบ แล้วอีกทั้งพวกผมจะต้องเรียนกับอาจารย์คนนี้อีกกี่วิชา แล้วจะได้ F เพราะความไม่อยากสอนของอาจารย์อีกกี่ตัว
ทุกวันนี้ผมนั่งคิดมากทุกวันว่าจะทำอย่างไร บางวันผมก็เสียใจนึกถึงหน้าพ่อแม่ แล้วก็ร้องไห้เพราะมันมืดแปดด้านจริงๆ
สิ่งที่ผมคิดจะทำแต่ไม่รู้จะทำดีไหมมีอยู่ 2 อย่าง
1.ขอร้องอาจารย์ไปตรงๆ เล่าความจำเป็นที่ต้องเรียนหนังสือไป แต่ที่ผมกลัวคือกลัวอาจารย์ไม่รับฟัง
แกคงจะบ่ายเบี่ยงและไล่ผมไป
2.ร้องเรียนต่อทางมหาลัย แต่ถ้าเรื่องนี้ย้อนกลับมาถึงอาจารย์แล้ว อาจารย์คงรู้ได้แน่นอนว่าเป็นฝีมือผมแน่ๆ
เพราะเพื่อนคนอื่นมีแต่มึนๆ เขาว่าไงก็ว่าตามกัน ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมเกรงว่าจะมองหน้าอาจารย์ไม่ติด
และกลัวจะมีปากเสียงกัน เพราะอาจารย์เขาแรงอยู่แล้ว
หรือเพื่อนๆ มีวิธีไหนที่จะแนะนำก็ช่วยเสอนมากันบ้างนะครับ ตอนนี้ผมแย่จริงๆ
โดนอาจารย์บีบสารพัดวิธีให้ลาออก เพราะแค่ขี้เกียจสอน
ซึ่งก็กำลังจะถึงจุดจบของพวกผมแล้ว เหตุมันเป็นเพราะว่า ในปีนี้ มีเด็กเข้ามาน้อยกว่าปีที่แล้วหรือทุกๆ ปี
ซึ่งปกติเอกผมจะมีเด็ก 40 - 50 คน แต่รุ่นผมนี้กลับมีเด็กแค่ 22 คน
แล้วด้วยเหตุผลต่างๆ บางคนไม่พร้อม เรียนไม่ไหว ไม่ใช่แนว ก็ทำให้มีคนออกไปบ้างประมาณ 10 คน
ตอนนี้ก็เหลือนศ.อยู่ราวๆ 12 คน ครับ แต่ถึงอย่างไร? 12 คนนี้ ก็เข้ามาแล้ว เตรียมตัวมาแล้ว ค่าเทอมค่าอะไรก็เสียกันแล้ว
เขาไม่สมควรได้เรียนหรือ?
เรื่องที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ คือ เพราะมีอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์คนนี้เขาจบถึง ดร. อีกทั้งเป็นหัวหน้าสาขาวิชาวิทยาฯ คอม ด้วย
แต่ข้อเสียของแกก็คือ แกจะทำอะไรลวกมาก จนไม่เคยนึกถึงผลกระทบที่มันจะตกถึงคนอื่นเลย แล้วที่แย่ยิ่งกว่า
คือเรื่องการขี้เกียจ เห็นแก่ตัว
ทุกครั้งที่เข้าสอนครับ เขาจะถามอยู่ตลอดว่า "เมื่อไหร่พวกเธอจะออกให้หมด ย้ายคณะก็ได้นะ เรียนง่ายกว่านี้อีก
วันนี้อาจารย์ขี้เกียจ รีบเรียนรีบเลิกแล้วกัน" แล้วแกก็รีบสอนจริงๆ ครับ วันนึงไม่เคยสอนเกิน 45 นาทีเลย
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และเวลาเรียนจริงๆมัน 3 ชม.
วิชาที่แกสอนอยู่คือวิชา เขียนโปรแกรม(java) ครับ ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะสอนคาบละ 45 นาทีให้เข้าใจ
โดยไม่มีตัวอย่างโจทย์ ไม่มีการให้ลองฝึกทำ ไม่มีเรียกถาม ถือปากกาไวท์บอร์ดแท่งนึงแล้ววาดโยงไปโยงมา
แล้วที่แย่กว่านั้น เหมือนแกตั้งใจพูดให้งงครับ คือถ้าอธิบายตรงๆ ก็เข้าใจไปแล้ว แต่นี่ พูดวนไปวนมา ไปหน้านู้นพลิกหน้านี้
จับหลักแทบไม่ได้เลย
ผมเรียนกับแกมาตอนนี้ก็ 2 วิชาละครับ เป็นเขียนโปรแกรม 1 กับ เขียนโปรแกรม 2 ไอตอนเรียน เขียน 1 เนี่ย
ยังไม่มีปัญหาอะไรมากครับ เพราะถึงอาจารย์จะชุ่ยยังไง แต่ก็ยังใส่ใจกว่าตอนนี้ และผมก็ยังสามารถหาอ่านจากที่อื่นได้
มีโจทย์ แบบฝึกหัดให้ทำเยอะแยะ เพราะยังเป็นวิชาพื้นฐานอยู่ อีกทั้งเป็นวิชาที่ผมถนัดมากครับ และเป็นความฝันของผมที่อยากจะทำงานด้านซอฟแวร์ ผมเลยตั้งใจอย่างมาก ทำให้ไม่ว่าโจทย์หินแค่ไหน ผมก็ผ่านมันมาได้
การตัดเกรดของอาจารย์ จะตรงข้ามกับการสอนมาก เวลาสอนสอนชุ่ย แต่เวลาให้คะแนน จะยากมาก
แกบอกพวกผมว่า "ครูไม่อยากให้มีคะแนนเก็บ เพราะครูขี้เกียจตรวจการบ้าน งานครูเยอะแล้ว" เลยกลายเป็นว่าสอบทั้ง 100%
ทั้งหมดเป็นการสอบปฏิบัติทั้งหมด 6 ครั้ง ทีละ 10 คะแนนบ้าง 20 คะแนนบ้าง คละกันไป เป็นการให้เขียนโปรแกรมแล้ว run
ถ้า run ผ่าน เอาไปเลย 10 คะแนน แต่ถ้า run ไม่ผ่าน ได้ 0 ไม่ว่าคุนจะเขียนใกล้เสร็จ เกือบจะรันออกแล้วอีกนิดเดียว
ตกหล่นคำสั่ง ติด bug เล็กๆ ยังไงอาจารย์ก็ให้ 0 เกรดวิชานี้เลยมีเด็กติด F ราวๆ 80% เลยก็ว่าได้ แต่ผมไม่ติดนะครับ
เพราะตั้งใจเรียนมาก
เมื่อเข้าเทอม 2 อาจารย์ก็เหมือนจะออกลายหนักขึ้น เอะอะๆ ก็งดสอน แล้วพอเรียนไม่ทัน ก็รวบทีเดียว 2 เรื่องในคาบเดียว
แล้วยิ่งกว่านั้น สอนแทบไม่ถึง 40 นาที ก็ปล่อยคลาส เพราะอาจารย์อยากกลับบ้าน แล้ว นศ ภาคค่ำอย่างพวกผมจะทำอย่างไรล่ะครับ
กลางวันงานก็ต้องทำ ตอนเย็นก็มาเรียน กลางคืนเวลาจะอ่านหนังสือก็แทบไม่มี ถ้านอน คือไม่ได้อ่าน ถ้าอ่าน ก็ไม่ได้นอน พอมาเรียนอาจารย์ก็แกล้งสารพัดวิธีไม่ให้รู้เรื่อง เพื่อจะได้สอบตก
บางคนอาจจะคิดว่าเพราะพวกผมไม่ตั้งใจรึเปล่า อาจารย์เลยไม่อยากสอน บอกเลยครับ สำหรับตัวผมเอง ตั้งแต่เรียนมา
1 เทอมครึ่ง ผมไม่ขาดเรียนสักวันเลย มาก่อนอาจารย์ตลอด ตั้งใจฟังตลอด เพราะความฝันที่อยากทำงานด้านนี้ และเพื่อนอีกหลายคนก็เป็นอย่างนี้
และเกรดเฉลี่ยของเทอม 1 ที่ผ่าน ห้องผมมีเกินครึ่งห้อง ที่เกรด 3.00+ ที่ต่ำลงมาก็แทบไม่มีคนที่ได้น้อยกว่า 2.5
ผิดกับเด็กภาคปกติ ที่มีหน้าที่แค่เรียนกับสะดิ้งไปวันๆอย่างเดียว ที่มี 120 คน แบ่งเป็น 3 ห้อง ห้องละ 40
แต่ในเด็กภาคปกตินั้น มีราวๆ 10 กว่าคนจากทั้งหมด 120 คน ที่ได้ 3.00+
แล้วท็อป 3 อันดับของชั้นปี ก็อยู่ที่ภาคค่ำกันหมดเลย ตัวผมได้ 3.9+ เพื่อนอีกสองคนได้ 3.8 และ 3.7
ทั้งๆ ที่พวกผมตั้งใจขนาดนี้ อาจารย์กลับอยากที่จะไสหัวพวกผมไป แล้วเด็กคุณภาพดีๆ ที่จบมาจากมหาลัยนี้
จะได้จบออกไปเป็นบุคลากรที่ดีๆ สร้างชื่อให้สถาบัน กลับไม่มี แต่ถึงอย่างไร ผมว่าอาจารย์คงไม่สนใจหรอก
คงสนแค่เพียงความสุขของตัวเอง เพียงแค่จะได้เลิกสอนเด็กภาคค่ำ จะได้กลับบ้านเร็วขึ้น
ถ้าไม่อยากได้พวกผม จะเปิดรับสมัครตั้งแต่แรกทำไม?
เหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่สุดก็คือในเทอมนี้(เทอม 2)
และด้วยความที่เป็นวิชาเขียนโปรแกรม 2 เนื้อหามันค่อนข้างจะลึกลงไปแล้ว เริ่มจะหาข้อมูลเองทางอินเตอร์เน็ตไม่ได้แล้ว
ต้องไปหวังพึ่งอ่านแบบเรียนของอาจารย์ แต่ที่แย่คือ นอกจากอาจารย์ไม่เคยเขียนแบบเรียนเองแล้ว(อันนี้ผมไม่ว่า)
จะไปหาแบบเรียนของคนอื่นมาสอนก็ยังดี แต่นี่ไม่ เหมือนอาจารย์จะไปปริ้นเอามั่วๆ จากอินเตอร์เน็ต
สมบูรณ์บ้าง ไม่สมบูรณ์บ้าง เนื้อหาถูกบ้าง มั่วบ้าง บางเรื่องไม่เห็นจะเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเรียน
ไม่เห็นจะต้องใช้ เวลาสอนก็ แทนที่จะค่อยๆ อธิบายไปทีละหน้า ก็พูดเข้าจุดเลย ไม่มีกล่าวถึงที่มาที่ไป
ทำเอาพวกผม งง กันหัวจะแตก พออาจารย์เห็นพวกผมงง แกก็หัวเราะอย่างมีความสุข ชอบใจ สะใจ
เทอม 2 ที่ผ่านมานี้ มีการสอบมาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรก ยังไม่ยากเท่าไหร่ บวกกับผม
ไปค้นหาข้อมูล วิธีทำต่างๆ มาอ่านได้ แต่กว่าจะหามาได้ ก็ลำบากมากเหมือนกัน
แล้วเมื่อผมหามาได้ ผมก็เลยเอามาแจกเพื่อนๆ สอนเพื่อนๆ จนเพื่อนเข้าใจไปหลายคน
พอสอบปุ้ป ก็กลายเป็นว่าทำกันได้หลายคน จนอาจารย์ไม่พอใจ อาจารย์เลยมาบอกว่า
"ข้อสอบง่ายไปใช่มั้ย ได้ๆ คราวหน้าเจอกัน"
พอสอนครั้งที่ 2 อาจารย์เล่นรวมทีเดียว 3 เรื่องไว้ในคาบเดียวกัน แล้วเป็นเรื่องที่ยากด้วย แล้วสอนให้งงสุดๆ
สอนไปหัวเราะเยาะในความโง่ของเด็กไป เสร็จแล้วการสอนครั้งนี้ ใช้เวลาแค่ 25 นาที พวกผมจับชนแทบไม่ถูก
จะกลับไปอ่านชีสที่ให้มาก็มั่ว ตัวอย่างที่ให้ก็เป็นโจทย์ง่ายๆ ที่ไม่มีทางออกในข้อสอบแน่ๆ
พออาทิตย์ถัดมา อาจารย์ก็งดสอน ไปไหนก็ไม่รู้?
แล้ววันที่สอบก็มาถึง ครั้งนี้เป็นการสอบแบบข้อเขียน เพราะเนื้อหาเยอะ พอผมเปิดกระดาษมาเจอ โจทย์ยากมาก ยากถึงยากที่สุด
คำสั่งแปลกๆ วิธีการแปลกๆ รูปแบบแปลกๆ
สิ่งที่ผมไม่เคยพบเคยเห็น แม้ในห้องเรียนหรือข้อมูลที่ผมไปค้นคว้ามา ก็ไม่เคยพบเคยเจอ
ผมทำไม่ได้เลย แล้วที่แย่กว่านั้น ถ้าตอบผิด -1 บางข้อถึงกับ -2
นอกจากยากจนทำไม่ได้แล้ว ยังไม่เหลือโอกาสให้ผมได้ลองผิดลองถูกเลย
ถ้าทำข้อสอบแล้วคะแนนติดลบแบบนี้ ผมว่านอนอยู่หอพักเฉยๆ ยังจะได้คะแนนเยอะกว่า
หลังจากวันนั้น ผมกลับบ้านมานั่งเสียใจ ผมไปทำอะไรไว้กับอาจารย์ ทำไมท่านถึงต้องทำกับผมแบบนี้
แรงกายแรงใจที่ผมทุ่มเทมาตลอด มันก็หมดลงเพราะความไม่อยากสอนของอาจารย์คนเดียว
ความฝันของผมล่ะ ผมจะได้ออกไปทำงานด้านนี้ไหม ถ้าหากว่าหลังเรียนจบผมอยากจะใช้เกรดยื่นขอทุนเรียนต่อล่ะ
ผมเป็นเด็กบ้านนอกที่คนที่บ้านฝากความหวังมามากมาย ผมมีพ่อกับแม่ที่ป่วยอยู่ทั้งคู่ เดี่ยวเป็นโรคนู๊น โรคนี้
ผมมีน้องที่ต้องดูแลอีก 2 คน คนนึงน้องชายไม่นานก็จะเข้ามหาลัย ก็ต้องใช้เงิน น้องสาวอีกคนก็ยังเล็กอยู่ เพิ่งจะขึ้น ป.3
อนาคตยังต้องมีอีกไกล ก็ต้องพึ่งพาผม ผมเองก็อายุ 20 กว่าแล้ว (เพราะเคยซิ่ว) พ่อแม่ก็รอจะเห็นผมรับปริญญาไม่ไหวแล้ว
เพราะท่านเองก็ไม่รู้จะมีอายุถึงเท่าไหร่ ทุกวันนี้พ่อแม่ก็ต้องทนทำงาน ทั้งที่ผมอยากให้ท่านพักใจจะขาด
ถ้าอาจารย์ยังทำแบบนี้ ไม่นานพวกผมคง F ยกห้องแน่ๆ แล้วอาจารย์ยังบอกมาด้วยว่า "ต่อไปจะไม่เปิดวิชานี้อีกแล้ว
เพราะเขาจะปิดภาคค่ำไป อาจารย์จะให้ F พวกเธอไปจนกว่าพวกเธอจะทนไม่ไหว แล้วลาออกไปเอง" แล้ววิชาที่ตัวต่อเยอะแบบนี้
ถ้าแก้ก็คงโน่น 5 ปีจบ แล้วอีกทั้งพวกผมจะต้องเรียนกับอาจารย์คนนี้อีกกี่วิชา แล้วจะได้ F เพราะความไม่อยากสอนของอาจารย์อีกกี่ตัว
ทุกวันนี้ผมนั่งคิดมากทุกวันว่าจะทำอย่างไร บางวันผมก็เสียใจนึกถึงหน้าพ่อแม่ แล้วก็ร้องไห้เพราะมันมืดแปดด้านจริงๆ
สิ่งที่ผมคิดจะทำแต่ไม่รู้จะทำดีไหมมีอยู่ 2 อย่าง
1.ขอร้องอาจารย์ไปตรงๆ เล่าความจำเป็นที่ต้องเรียนหนังสือไป แต่ที่ผมกลัวคือกลัวอาจารย์ไม่รับฟัง
แกคงจะบ่ายเบี่ยงและไล่ผมไป
2.ร้องเรียนต่อทางมหาลัย แต่ถ้าเรื่องนี้ย้อนกลับมาถึงอาจารย์แล้ว อาจารย์คงรู้ได้แน่นอนว่าเป็นฝีมือผมแน่ๆ
เพราะเพื่อนคนอื่นมีแต่มึนๆ เขาว่าไงก็ว่าตามกัน ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ผมเกรงว่าจะมองหน้าอาจารย์ไม่ติด
และกลัวจะมีปากเสียงกัน เพราะอาจารย์เขาแรงอยู่แล้ว
หรือเพื่อนๆ มีวิธีไหนที่จะแนะนำก็ช่วยเสอนมากันบ้างนะครับ ตอนนี้ผมแย่จริงๆ