เปิดใจ แรงงาน กับการ รับจ้างไปม๊อบ

กระทู้สนทนา
เปิดใจแรงงานรายวันซอยกีบหมู ย่านคลองสามวา ทั้งเป็นคนงานก่อสร้าง-ช่างฝีมือ ที่ดั้นด้นจากต่างจังหวัด เพื่อหางานทำในกรุงเทพฯ ยามว่างรับจ้างไปม็อบ ระบุแม้คนละสีคนละฝ่ายกับที่ศรัทธาแต่ต้องทำเพื่อปากท้อง ที่สำคัญในม็อบมีอาหารประทังชีวิต มีการแสดงบันเทิงใจ อุดมการณ์เก็บไว้ในใจ อย่างน้อยลดค่าใช้จ่ายในห้องเช่าแคบๆ ที่ทำจากเศษไม้ก่อสร้าง



เปี๊ยก (นามสมมติ) อดีตชาวนาที่ผันตัวเองมาเป็นช่างก่อสร้างกินค่าแรงรายวัน อาศัยอยู่บริเวณ ถ.สุเหร่าคลองหนึ่ง หรือ “ถนนกีบหมู” แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ที่รู้จักกันในหมู่ผู้มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เป็นคนขอนแก่น บรรพบุรุษทำนา แต่ตนเข้ามาหางานก่อสร้างทำใน กรุงเทพฯ ตามคำชักชวนของเพื่อนได้หลายปีแล้ว โดยมาอาศัยอยู่ย่านถนนกีบหมู เพราะหางานง่ายๆทำ โดยทุกเช้าจะมีผู้รับเหมาขับรถเข้ามาหาช่างและกรรมกรในบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก

ส่วนค่าแรงที่ได้รับ เปี๊ยกตอบว่า “แรงงานแถวนี้ไม่มีใครได้ค่าแรงขั้นต่ำสักคน กรรมกรผู้หญิงค่าแรงวันละ 500 บาท กรรมกรชาย 600 บาท ผมเป็นช่างปูนวันละ 700-800 บาท แล้วแต่จะตกลงกับผู้รับเหมา ถ้าน้อยกว่านี้ผมไม่ไป มันเหมือนดูถูกฝีมือตัวเอง”


    
      “มันก็มีวันที่ไม่ได้งานนะ ผมก็ยืนรอจนถึงสิบเอ็ดโมง ถ้าไม่ได้ก็กลับ บางทีก็มีฟลุ๊ค ๆ นะแบบจะกลับแล้วแต่ได้งานเข้ามาก็มี แต่ค่าแรงนี่ต่อให้เริ่มงานสาย ก็ลดไม่ได้ เพื่อน ๆ แถวนี้ก็ไม่ลด มันมีเพดานอยู่ ถ้าเราไปรับ 500 บาท เท่ากรรมกร ถ้าเพื่อนรู้มันด่าตาย”

            “ช่วงนี้งานน้อย ผู้รับเหมาเข้าไปทำงานไม่ได้ คนมาหากินที่นี่ก็มากขึ้นทุกวัน ตัวเลือกเยอะ พอหมดฤดูทำนาก็ลงมาอีก ปีนี้เห็นว่าแล้ง ที่เคยมีน้ำทำนาปรังเขาบอกว่า จะไม่ทำนาปรังกัน ที่กีบหมูนี่มีคนอยู่หลายหมื่นนะ เป็นแบบนี้อดตายแน่” เปี๊ยกเล่าให้ฟังถึงอนาคตที่ดูจะไม่ราบรื่น

   เมื่อถามว่า เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมืองบ้างหรือไม่ เปี๊ยกตอบว่า เคยไป คนแถวซอยกีบหมูเป็นคนอีสานกว่า 70 เปอร์เซนต์ อย่างที่ทราบกันว่า โดยมากเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่รู้ว่าใครเป็นโต้โผชักชวน ก็ตาม ๆ กันไป มีการจัดรถมารับถึงที่

ถามว่า เคยได้รับเงินบ้างหรือเปล่า เปี๊ยกระบุว่า ช่วงที่ตนไปร่วม ไม่ได้รับเงิน แต่ก่อนหน้านั้นเพื่อนเล่าให้ฟังว่าได้รับเงินจริง  “ไปถึงเขาก็เอาบัตรประชาชนไว้ ให้มาก่อน 500 บาท จะกลับก็มาเอาบัตรประชาชนคืน ถ้ากลับเช้าก็ได้อีก 500 เป็น 1,000 บาท เหมือนทำงานสองกะ มันก็ใช้เงินกันทั้งนั้นแหละพี่ ทุกม็อบ” เปี๊ยกพูดไปพลางหัวเราะไปพลาง

            “เมื่อเร็วๆ นี้ก็มีมารับนะ เป็นรถตู้มากันหลายคัน คนเดินลงมาบอกว่าไปม็อบราชดำเนิน พวกผมเป็นเสื้อแดงก็เลยโห่ไล่ มันก็เปิดไป แต่ก็เห็นไปรับแถวศาลาตรงโน้น พี่อยากคุยมั๊ย” เปี๊ยกหันไปคุยกับเพื่อนซักถามกันว่า วันนั้นมีใครไปบ้าง แล้วตะโกนพลางกวักมือเรียก

     “วันนี้สงสัยจะตกงาน” ตาชาติ(คนงานอีกคน)หันมาบอก

ตาชาติเล่าให้ฟังว่า สำหรับแรงงานรับจ้างที่ถนนกีบหมูแล้ว หากไม่เลือกงานและเกี่ยงราคามากจนเกินไป จะได้ทำงานทุกวัน แต่สำหรับตนถ้าให้รับค่าแรงวันละ 500 บาท เท่ากรรมกร ตนคงไม่ทำ

  เมื่อถามถึงเรื่องการร่วมชุมนุมทางการเมือง ตามที่เปี๊ยกเล่าให้ฟังว่า ตาชาติเคยไปร่วมชุมนุมเมื่อไม่นานนี้ ตาชาติรับว่า เป็นความจริง เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมือง พร้อมทั้งหยิบอุปกรณ์ เสื้อสีแดง และป้ายตราธงชาติ ออกมาเป็นเครื่องยืนยัน

            “ช่วงวันแรก ๆ ของการชุมนุม จะมีรถมารับเลย ขนคนไป คือเวลาเขาประกาศรวมพล วันแรก ๆ นี่เขายังมากันไม่พร้อม ก็มาขนคนกีบหมูนี่แหละไป จ่ายเงินหัวละพันๆ ทุกม็อบแหละ ถ้าวันนั้นผมตกงานก็ไป รถเข้ามารับสาย ๆ มาหลายคัน รถตู้บ้าง เหมาสองแถวมาบ้าง อุดมการณ์ทางการเมืองผมก็มีอยู่ แต่นี่ก็เรื่องปากท้อง คิดซะว่าไปทำงาน ตอนไปเลือกตั้งผมจะเลือกใครมันก็สิทธิ์ของเรานะ ไม่มีใครมาจับมือกา”

ตาชาติเล่าต่อว่า ถ้าม็อบจุดติดแล้ว มีมวลชนเป็นของตนเอง การใช้เงินจ้างก็จะหยุดลง กระนั้นก็ยังแวะเวียนไปตามที่ชุมนุมในวันที่ไม่ได้ทำงานบ้าง เพราะมีอาหารให้รับประทานตลอดทั้งวัน และยังมีการแสดงให้รับชม

            “อยู่ที่ห้องมันเปลืองค่าไฟ ต้องเปิดทีวี เปิดพัดลม ไปม็อบมีข้าวกินครบทุกมื้อ บางทีก็ขัดใจบ้าง ที่เค้าพูดบนเวที มีด่าชาวนา ด่าคนเสื้อแดง ก็ทำเป็นไม่ได้ยินซะ”

เมื่อถามถึงความตื่นตัวทางการเมือง ตาชาติให้ความเห็นว่า ปัจจุบันคนต่างจังหวัดมีความตื่นตัวทางการเมืองสูง เพราะเห็นได้ชัดว่า มีผลกระทบต่อชีวิตโดยตรง อาทิ นโยบายประกันสุขภาพ กองทุนหมู่บ้าน หรือแม้กระทั่งล่าสุดคือนโยบายจำนำข้าว ซึ่งจะเห็นได้ว่านโยบายที่ตาชาติจดจำได้ ล้วนเป็นนโยบายประชานิยมทั้งสิ้น

            “ผมไม่รู้ว่าประชานิยมจริง ๆ คืออะไรหรอกนะ ถ้าหมายถึงประชาชนนิยม ล่ะก็ใช่ เพราะมันได้ประโยชน์ คนก็ต้องนิยม แถวบ้านผมเมื่อก่อนเจ็บป่วยก็รักษากันตามมีตามเกิด เดี๋ยวนี้ลองไปดูตามโรงพยาบาล คนไปรักษากันจนแทบไม่มีที่เดิน ก็มันแทบไม่เสียเงิน”

  “คนอยู่บ้านนอกนี่ไม่ได้โง่หรอกนะ เช้า ๆ มาคนเฒ่าคนแก่ไปดูเถอะ เค้าก็คุยกันเรื่องการเมืองทั้งนั้น ที่ร้านกาแฟบ้าง ที่วัดบ้าง จานดาวเทียมมีกันเกือบทุกบ้าน เดี๋ยวนี้มันราคาถูก เมื่อก่อนทั้งหมู่บ้านมี ทีวีไม่กี่บ้าน ต้องขึ้นเสา โน่น สูงลิ่วเลย ยังไม่ชัดอีก เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนก่อน โทรศัพท์มือถือก็มีกันทุกคน คนดูข่าวมันก็ตามทันนะ เช้ามาก็เอาแล้วจับกลุ่มคุยการเมือง”

            “คนที่เข้มข้นมาก ๆ นี่ เค้าไม่คบเลยนะต่างขั้ว มันอยู่ลำบาก ในหมู่บ้านรู้จักกันหมด ถ้าคิดต่างก็ต้องเงียบ แสดงออกไม่ได้เลย จะเป็นตัวแปลกประหลาด อย่างผมที่ไปม็อบถ้าเมียรู้ผมโดนด่าเละแน่ ๆ อย่างที่บอกอุดมการณ์ผมมีอยู่ แต่ปากท้องก็อีกเรื่อง ใครเอาเงินมาให้ก็เอา แต่ถ้ามันอันตรายเสี่ยงชีวิตก็ไม่เอานะ เอาชีวิตไว้ก่อนดีกว่า ถ้าถามว่าม็อบรับจ้างมีจริงมั้ย อันนี้มีแน่ ก็ผมนี่ไง” ตาชาติทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มแบบคนซื่อ
ที่มา:http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=4040

        วันนี้ คงได้ไปม็อบรับจ้างอีก ไปได้แต่ตัว แต่ หัวใจแดงเสมอ อิอิ!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่