สวัสดีค่ะ
วันนี้ไปงานหนังสือ ไปถึงที่ศูนย์สิริกิตติ์ตอนประมาณ หกโมงครึ่ง
ระหว่างทางเข้าคนแน่นมาก เราสะพายถุงผ้า กอดถุงผ้าไว้ เดินไหลๆ ไปตามหมู่คนที่เดินงาน
ตรงก่อนเข้างานจะมีร้านเสื้อผ้ากีฬาลดราคามาขาย เราแวบดูเสื้อผ้าแปบนึง
ขณะนั้นมีผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาดูเสื้อผ้าด้วย เราก็มองๆ ไม่ได้สนใจอะไร
ตอนนั้นเราใช้โทรศัพท์ คือ ไอโฟน5 คุยกับแม่ ก่อนใส่ถุงผ้าเหมือนเดิม
มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าเขาเดินเข้ามาใกล้เราแล้วสักพักก็รีบเดินออกจากร้านเลย
ตอนนั้นเริ่มเอะใจ ค้นของในกระเป๋า ซึ่งของมีเยอะและกระเป๋าค่อนข้างรกเลยใช้เวลาพอสมควร
กว่าจะรู้ว่าไอโฟนไม่อยู่กับตัวแล้วก็ผ่านไปกว่านหนึ่งนาที
แล้วเรามาคนเดียว ตอนนั้นทั้งช็อคทั้งมึน ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายยืมมือถือคนข้างที่ไม่รู้จักขอโทรหามือถือตัวเองทันที
เมื่อโทรไป พบว่า 'มือถือถูกปิดแล้ว'
นั่นไง!!! ปกติเราไม่ปิดมือถือเลย โดนเข้าแล้ว โดนขโมยมือถือหลังมาถึงงานไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงและยังไม่ได้หนังสือสักเล่ม
พี่เจ้าของร้านเสื้อผ้ากีฬารีบพาเราไปแจ้งกับที่ศูนย์ทันที
เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ และพูดว่าจะพยายามช่วย แต่ก็แย่เหลือเกินที่บริเวณตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด!
หลังจากนั้น เรารีบบึ่งไปที่สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นสน.ที่ใกล้ที่สุด
ตอนที่เราไป มีคนมาแจ้งเรื่องไอโฟนหายที่งานหนังสือด้วยพอดี และก่อนหน้านี้มีมาแล้วสี่-ห้าเครื่องจากที่เดียวกัน
คุณตำรวจบอกว่า โจรพวกนี้เป็นแก๊งค์เวียดนาม ทำงานเป็นทีม มาสองถึงสามคนคอยล้อมหน้าล้อมหลัง แล้วหาโอกาสล้วงของมีค่า
พวกนี้จะหาเหยื่อและตามประกบ อย่างเราไปคนเดียวก็เป็นตัวเลือกเลย
และระวัง อย่าพยายามหยิบมือถือออกมาให้มันเห็นบ่อย เพราะเมื่อมันเห็นมือถือราคาสูงหน่อย มันจะเริ่มเล็งไว้เป็นคนๆ
ตอนนี้เสียใจมากไม่ใช่เพราะแค่ไอโฟนหาย แต่เพราะข้อมูลทั้งหมดไม่เคยแบคอัพเก็บไว้เลย และทั้งข้อมูล ภาพ ข้อความในนั้นมีความสำคัญกับเรามาก
ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีกเลย เพราะโดนขโมยแล้ว ความหวังที่จะได้คืนก็ริบหรี่เหลือเกิน
เราพยายามพิมพ์ให้รู้เรื่อง และให้เข้าใจนะคะ อาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง
ขอให้ระวังทรัพย์สินมีค่าดีๆ เพราะไม่มีใครคิดว่าจะโดนจนกระทั่งวันที่ต้องเจอกับตัว
เตือน!!! มิจฉาชีพในงานหนังสือ จากคนที่มาเดินงานในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงแล้วโดนขโมยไอโฟน5
วันนี้ไปงานหนังสือ ไปถึงที่ศูนย์สิริกิตติ์ตอนประมาณ หกโมงครึ่ง
ระหว่างทางเข้าคนแน่นมาก เราสะพายถุงผ้า กอดถุงผ้าไว้ เดินไหลๆ ไปตามหมู่คนที่เดินงาน
ตรงก่อนเข้างานจะมีร้านเสื้อผ้ากีฬาลดราคามาขาย เราแวบดูเสื้อผ้าแปบนึง
ขณะนั้นมีผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาดูเสื้อผ้าด้วย เราก็มองๆ ไม่ได้สนใจอะไร
ตอนนั้นเราใช้โทรศัพท์ คือ ไอโฟน5 คุยกับแม่ ก่อนใส่ถุงผ้าเหมือนเดิม
มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าเขาเดินเข้ามาใกล้เราแล้วสักพักก็รีบเดินออกจากร้านเลย
ตอนนั้นเริ่มเอะใจ ค้นของในกระเป๋า ซึ่งของมีเยอะและกระเป๋าค่อนข้างรกเลยใช้เวลาพอสมควร
กว่าจะรู้ว่าไอโฟนไม่อยู่กับตัวแล้วก็ผ่านไปกว่านหนึ่งนาที
แล้วเรามาคนเดียว ตอนนั้นทั้งช็อคทั้งมึน ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายยืมมือถือคนข้างที่ไม่รู้จักขอโทรหามือถือตัวเองทันที
เมื่อโทรไป พบว่า 'มือถือถูกปิดแล้ว'
นั่นไง!!! ปกติเราไม่ปิดมือถือเลย โดนเข้าแล้ว โดนขโมยมือถือหลังมาถึงงานไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงและยังไม่ได้หนังสือสักเล่ม
พี่เจ้าของร้านเสื้อผ้ากีฬารีบพาเราไปแจ้งกับที่ศูนย์ทันที
เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องไว้ และพูดว่าจะพยายามช่วย แต่ก็แย่เหลือเกินที่บริเวณตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด!
หลังจากนั้น เรารีบบึ่งไปที่สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นสน.ที่ใกล้ที่สุด
ตอนที่เราไป มีคนมาแจ้งเรื่องไอโฟนหายที่งานหนังสือด้วยพอดี และก่อนหน้านี้มีมาแล้วสี่-ห้าเครื่องจากที่เดียวกัน
คุณตำรวจบอกว่า โจรพวกนี้เป็นแก๊งค์เวียดนาม ทำงานเป็นทีม มาสองถึงสามคนคอยล้อมหน้าล้อมหลัง แล้วหาโอกาสล้วงของมีค่า
พวกนี้จะหาเหยื่อและตามประกบ อย่างเราไปคนเดียวก็เป็นตัวเลือกเลย
และระวัง อย่าพยายามหยิบมือถือออกมาให้มันเห็นบ่อย เพราะเมื่อมันเห็นมือถือราคาสูงหน่อย มันจะเริ่มเล็งไว้เป็นคนๆ
ตอนนี้เสียใจมากไม่ใช่เพราะแค่ไอโฟนหาย แต่เพราะข้อมูลทั้งหมดไม่เคยแบคอัพเก็บไว้เลย และทั้งข้อมูล ภาพ ข้อความในนั้นมีความสำคัญกับเรามาก
ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออีกเลย เพราะโดนขโมยแล้ว ความหวังที่จะได้คืนก็ริบหรี่เหลือเกิน
เราพยายามพิมพ์ให้รู้เรื่อง และให้เข้าใจนะคะ อาจจะตะกุกตะกักไปบ้าง
ขอให้ระวังทรัพย์สินมีค่าดีๆ เพราะไม่มีใครคิดว่าจะโดนจนกระทั่งวันที่ต้องเจอกับตัว