ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มองค์กรที่ชื่อ โนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา (Knowing Buddha) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ได้รับแจ้งจากพุทธศาสนิกชน เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2557 ว่านิตยสารเพ้นท์เฮ้าส์ ได้ลงภาพนางแบบชื่อ Coco Velvet เปลือยกายถ่ายภาพคู่กับพระพุทธรูปขนาดใหญ่ในท่าทางที่สื่อความอนาจาร โดยได้ส่งภาพลิ้งค์จากเฟสบู๊ค ในข้อความว่า
“Asean Penthouse Model Coco Velvet tempts Buddha with her hot and wet naked oriental body before she wades into her tranquil water of the exotic tropical waterfalls pool!”
“นางแบบนิตยสารเพนท์เฮ้าส์ชื่อ โคโค เวลเวท ยั่วยวนพระพุทธรูปด้วย ร่างกายที่เปียกและเร่าร้อนก่อนที่เธอจะลงไปในสระน้ำตก” จากการสืบหาที่มา ทราบว่าไม่ได้มาจากเพ้นท์เฮ้าส์ประเทศไทย อย่างไรก็ดี การกระทำดังกล่าว ได้แสดงการลบหลู่พระพุทธเจ้าโดยเจตนาทั้งรูปภาพและคำพูดที่โจ่งแจ้งว่าได้ยั่วยวนพระพุทธรูป
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ขององค์กร โนอิ้ง บุดด้า ระบุว่า นิตยสารเพนท์เฮ้าส์ไม่ได้คำนึงถึงจิตใจของพุทธศาสนิกชนที่มีกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก การกระทำในลักษณะบัดสีดังกล่าวของนิตยสารชื่อดัง ได้แสดงถึงความตกต่ำในศีลธรรมของมนุษย์ เพราะการกล่าวถึงพระพุทธเจ้า นิตยสารย่อมรู้ดีว่า พระองค์คือใครและพุทธศาสนิกชนประพฤติอย่างไร กับพระพุทธรูปที่ใช้เป็นเครื่องรำลึกถึงพระคุณของพระองค์
อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานองค์กรฯ ระบุว่า ได้ทำจดหมายประท้วงไปยังเพนท์เฮ้าส์ ประเทศไทย และเพนท์เฮาส์ ซันนี่เวล Penthouse Sunnyvale และได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงไอซีที และ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยดำเนินการหยุดยั้งและต้องการให้เพนท์เฮ้าส์ได้แสดงความรับผิดชอบ ขอโทษต่อชาวพุทธ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
อนึ่ง การลบหลู่พระพุทธรูปและสัญลักษณ์ได้ลุกลามไปทั่วโลกราวกับโรคระบาดที่ยากจะหยุดยั้ง แม้องค์กรฯ จะมีหน่วยงานร้องเรียน ประท้วง และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวในหลักการประพฤติต่อพระพุทธรูป แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อทำกรณีร้องเรียนไป เรื่องดังกล่าวก็ถูกตีกลับมาที่ประเทศไทยเอง ที่กลายเป็นต้นแบบแห่งความเสื่อมเสียจากการที่พ่อค้าในประเทศ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพระพุทธรูป เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเสียเอง
“ตราบใดที่หน่วยงานรัฐ ไม่แสดงความกระตือรือล้นในการแก้ไขหรือออกกฏหมายพร้อมให้มีบทลงโทษต่อผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและ ผู้ละเมิดในการนำพระพุทธรูป ไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ การละเมิดเช่นนี้ก็จะต้องมีต่อเนื่อง จนยากจะหยุดยั้ง เพราะประเทศที่ประกาศตนเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา ได้เป็นต้นแบบที่ทำผิดเสียเอง”
อย่างไรก็ดี องค์กรฯ ได้พยายามทำงานการหยุดยั้งอย่างไม่ลดละ โดยพยายามแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือสร้างความเข้มแข็งให้พระพุทธศาสนา โดยการให้ความรู้หลักประพฤติ ปกป้อง และยับยั้งการลบหลู่ใดๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1395976480&grpid=01&catid=&subcatid=
โวย! นิตยสารเพ้นท์เฮาส์ ให้นางแบบเปลือยล่อนจ้อนถ่ายรูปกับพระพุทธรูป
“Asean Penthouse Model Coco Velvet tempts Buddha with her hot and wet naked oriental body before she wades into her tranquil water of the exotic tropical waterfalls pool!”
“นางแบบนิตยสารเพนท์เฮ้าส์ชื่อ โคโค เวลเวท ยั่วยวนพระพุทธรูปด้วย ร่างกายที่เปียกและเร่าร้อนก่อนที่เธอจะลงไปในสระน้ำตก” จากการสืบหาที่มา ทราบว่าไม่ได้มาจากเพ้นท์เฮ้าส์ประเทศไทย อย่างไรก็ดี การกระทำดังกล่าว ได้แสดงการลบหลู่พระพุทธเจ้าโดยเจตนาทั้งรูปภาพและคำพูดที่โจ่งแจ้งว่าได้ยั่วยวนพระพุทธรูป
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ขององค์กร โนอิ้ง บุดด้า ระบุว่า นิตยสารเพนท์เฮ้าส์ไม่ได้คำนึงถึงจิตใจของพุทธศาสนิกชนที่มีกว่า 500 ล้านคนทั่วโลก การกระทำในลักษณะบัดสีดังกล่าวของนิตยสารชื่อดัง ได้แสดงถึงความตกต่ำในศีลธรรมของมนุษย์ เพราะการกล่าวถึงพระพุทธเจ้า นิตยสารย่อมรู้ดีว่า พระองค์คือใครและพุทธศาสนิกชนประพฤติอย่างไร กับพระพุทธรูปที่ใช้เป็นเครื่องรำลึกถึงพระคุณของพระองค์
อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานองค์กรฯ ระบุว่า ได้ทำจดหมายประท้วงไปยังเพนท์เฮ้าส์ ประเทศไทย และเพนท์เฮาส์ ซันนี่เวล Penthouse Sunnyvale และได้ส่งสำเนาไปยังกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงไอซีที และ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยดำเนินการหยุดยั้งและต้องการให้เพนท์เฮ้าส์ได้แสดงความรับผิดชอบ ขอโทษต่อชาวพุทธ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
อนึ่ง การลบหลู่พระพุทธรูปและสัญลักษณ์ได้ลุกลามไปทั่วโลกราวกับโรคระบาดที่ยากจะหยุดยั้ง แม้องค์กรฯ จะมีหน่วยงานร้องเรียน ประท้วง และให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวในหลักการประพฤติต่อพระพุทธรูป แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อทำกรณีร้องเรียนไป เรื่องดังกล่าวก็ถูกตีกลับมาที่ประเทศไทยเอง ที่กลายเป็นต้นแบบแห่งความเสื่อมเสียจากการที่พ่อค้าในประเทศ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพระพุทธรูป เป็นเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเสียเอง
“ตราบใดที่หน่วยงานรัฐ ไม่แสดงความกระตือรือล้นในการแก้ไขหรือออกกฏหมายพร้อมให้มีบทลงโทษต่อผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและ ผู้ละเมิดในการนำพระพุทธรูป ไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์ การละเมิดเช่นนี้ก็จะต้องมีต่อเนื่อง จนยากจะหยุดยั้ง เพราะประเทศที่ประกาศตนเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา ได้เป็นต้นแบบที่ทำผิดเสียเอง”
อย่างไรก็ดี องค์กรฯ ได้พยายามทำงานการหยุดยั้งอย่างไม่ลดละ โดยพยายามแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือสร้างความเข้มแข็งให้พระพุทธศาสนา โดยการให้ความรู้หลักประพฤติ ปกป้อง และยับยั้งการลบหลู่ใดๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1395976480&grpid=01&catid=&subcatid=