อีกครั้ง... “สุวินันท์ ชัยปราโมทย์” หญิงปีนรั้ว ประกาศกร้าว วันใด มีนายกฯคนกลาง ออกมาต่อต้านแน่!




“สุวินันท์ ชัยปราโมทย์” หญิงปีนรั้ว ประกาศกร้าว วันใด มีนายกฯคนกลาง ออกมาต่อต้านแน่!

วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:15:39 น.


“สุวินันท์ ชัยปราโมทย์” เป็นที่รู้จักกันในฐานะ หญิงสาวใจเด็ดที่ฝ่าวงล้อม ผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง กลุ่ม กปปส.  โดยการปีนรั้วเข้าไปเลือกตั้งล่วงหน้า เมื่อวันที่ 26  มกราคม


ในวันนั้น เธอเป็นพลเมืองเพียงคนเดียวที่ปีนรั้วเข้าไปกากบาทเลือกตั้งในเขตสวนหลวง
    

เมื่อสิทธิเลือกตั้งถูกละเมิด เธอยังต่อสู้    
    

แล้ว หากถ้ามีนายกฯคนกลาง  หรือ นายกรัฐมนตรีมาตรา 7  เธอจะทำอย่างไร ?


ณ เวลานี้มีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง เมื่อมีข่าวจะมีการตั้ง นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ?

สำหรับการเคลื่อนไหวในตอนนี้ คือ การฟ้องร้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่วินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านนั้นเป็นโมฆะ ตอนนี้ก็กำลังดำเนินการในส่วนนี้อยู่เพราะว่าการคำวินิจฉัยที่ออกมานั้นไม่มีความเป็นธรรมต่อ 20ล้านเสียงที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่วนกรณีของนายกฯคนกลาง ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพียงแต่ทราบจากข่าวเท่านั้นว่ามีหลายฝ่ายได้เสนอชื่อบุคคลต่างๆ แต่บุคคลที่ถูกเสนอชื่อมาหลายคนก็เริ่มออกมาปฏิเสธ ว่าจะไม่รับตำแหน่งนี้ เพราะบุคคลเหล่านี้บางท่านก็มีตำแหน่งที่ดี มีเกียรติอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คิดว่ามันอาจจะเป็นข่าวลือ


คิดอย่างไรที่หลายฝ่ายมีการประกาศออกมาว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนกลางขึ้นมาบริหารประเทศ ?

การมีนายกฯคนกลาง หรือนายกฯ ม.7 มันไม่ถูกต้อง มันไม่ได้รับการยอมรับ การเป็นนายกฯคนกลางก็คงจะเป็นได้แต่ชื่อ ถ้าตามจริง นายกฯคนกลางไม่มีอยู่แล้ว มีแต่ชื่อที่ถูกเสนอมาเท่านั้น บุคคลที่ถูกเสนอชื่อก็ไม่ยอมรับ เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น การมีนายกฯคนกลางประชาชนก็ต้องไม่ยอมรับอยู่แล้ว การกระทำแบบนี้ก็เหมือนไปล้มล้าง 20ล้านเสียง ของคนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และหากเกิดขึ้นจริง คนที่ขึ้นมาเป็นนายกฯคนกลางก็จะอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นาน การมาเป็นนายกฯคนกลาง มีแต่เสียกับเสีย ไม่มีใครยอมรับกับการกระทำดังกล่าวของคนกลุ่มหนึ่ง คนขึ้นมาเป็นก็ต้องคิดให้หนัก
  

ถ้าเกิดมีนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 เกิดขึ้นจริง คิดว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ?

สำหรับประเทศไทย มี 2 ทางที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็จะมีแต่เสียกับเสีย ส่วนใหญ่ที่ส่งผลกระทบกับประเทศก็จะมีแต่ทางลบ โดยในประเทศไทย ที่มีระบอบประชาธิปไตย ประชาชนก็ต้องไม่ให้การยอมรับ อาจจะเกิดการลุกขึ้นมาต่อต้านกับนายกฯ ม.7 ประชาชนในประเทศมาถึงจุดอิ่มตัว กับเหตุการณ์บ้านเมืองและภาวะที่เกิดขึ้น เป็นเหมือนกับมัดมือชก มีแต่คนหยิบยื่นสิ่งต่างๆโดยที่ประชาชนไม่สามารถเป็นฝ่ายเลือกเองได้ ดังนั้นหากมีนายกฯ ม.7 เกิดขึ้นจริงก็อาจเกิดการต่อสู้ขึ้นมา ซึ่งก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะออกมาต่อสู้ เพราะมันถึงเวลาปลดแอก อีกด้านหนึ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ การไม่เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ เพราะประเทศไทยก้าวไปใช้ระบอบบเผด็จการ เพราะการมีนายกฯ ม.7 ที่ไม่ได้มาจากประชาชนเลือกเข้ามา ก็เหมือนกับการเผด็จการ และก็เหมือนกับการปฏิวัติโดยไม่ใช้กำลัง


คิดว่าหากเกิดนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 หรือนายกรัฐมนตรีคนกลางขึ้นจริงประชาชนจะออกมาต่อต้านไหม ?

ต่อต้าน ต้องมีการต่อต้านเกิดขึ้น เพราะการมีนายกฯ มาตรา 7 มันเป็นสิ่งที่ไม่มีประชาชนคนไหนยอมรับ ยิ่งไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตย ยิ่งต่อต้าน การกระทำแบบนั้น ก็จะต่อเนื่องไปเรื่อย เป็นไปด้วยระบบกลไล วนเวียนแบบนี้ไม่จบ ซึ่งก็ต้องเกิดการขัดขวาง จากการที่ไม่เคารพกติกา ประชาชนก็ออกมาต่อต้าน ไม่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะในปัจจุบันประชาชนตื่นตัวกับการเมืองมากขึ้น และตราบใดที่ไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยที่แท้จริงแล้ว ปัญหามันก็จะไม่จบสิ้น ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมาจากเสียงของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เผด็จการที่ไม่มีคนยอมรับ และตอนนี้ประเทศก็มาถึงจุดอิ่มตัว ประชาชนก็เริ่มไม่พอใจ ซึ่งต่างประเทศก็พัฒนานำหน้าประเทศไทยไปแล้ว คนไทยก็อยากจะพัฒนาเหมือนกัน ต่างประเทศมีการเรียกร้องประชาธิปไตย แต่ประเทศไทยเรากำลังเข้าหาเผด็จการ


การที่กลุ่มทางการเมืองบางกลุ่มออกมาเรียกร้องให้มีการปฏิรูปก่อนทำการเลือกตั้ง คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ?

ปฏิรูป เป็นเรื่องที่ดี เพราะประเทศไทยต้องทำการปฏิรูปได้แล้ว ประชาธิปไตยสำหรับประเทศเรามันมีความแปลก ไม่เหมือนกับประเทศอื่น บางอย่างก็มาจากการเลือกตั้งจากเสียงของประชาชน แต่บางอย่างก็เป็นเพียงคนบางคนหรือบางกลุ่มเลือกขึ้นมา อย่างเช่น องค์กรอิสระ ที่มีคนบางคนเลือกขึ้นมาทำงานและไม่ได้มาจากประชาชน ตามประชาธิปไตย การเป็นประชาธิปไตยต้องมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งแนวทางขององค์กรอิสระไม่มาอย่างนั้น ถ้าคิดจะปฏิรูปจริงก็คงจะต้องปฏิรูปองค์กรอิสระเสียก่อน ต้องปฏิรูปจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่มาจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ก็เปรียบเหมือน โลกที่ถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มดาว แม้ว่าโลกจะหมุนหรือหันไปทางไหน ก็มีกลุ่มดาวคอยส่องแสงบดบังอยู่ตลอดเวลา


ในภาวะบ้านเมือง ณ ตอนนี้ที่มีความวุ่นวายจากเหตุการณ์ทางการเมือง ภาวะเหล่านี้จะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ?

ถ้าภาวะบ้านเมืองในตอนนี้ก็คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะเกินปีนี้ เนื่องจากระบอบเหล่านี้มันเป็นมานาน คนมีอำนาจบางกลุ่มก็ไม่ยอมปล่อยหรือลงจากอำนาจ ประชาชนส่วนใหญ่ก็เบื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ประชาชนก็เตรียมปลดแอก ซึ่งต้องรวมพลังกันอย่างมาก เพื่อที่จะปลดแอกให้สำเร็จ คนในประเทศไทยเราส่วนมากก็มีทั้งระดับกลางและระดับล่าง ที่พยายามจะเปลี่ยนแปลง หรือรวมพลังแสดงออกต่างๆ แต่คนชั้นสูงกลับอยู่ใต้อำนาจของคนบางกลุ่ม ซึ่งภาวะแบบนี้ก็คงต้องใช้ระยะเวลาและอยู่ไปอีกพักใหญ่ ถ้านับกันจริงก็เกือบครึ่งปีแล้ว ทั้งจากปลายปี 2556 และปี 2557 ไม่ว่าเหตุการณ์ จะจบแบบไหน จะมีนายกฯคนกลางหรือไม่ซึ่งถ้ามีคนก็ต้องกลับมาต่อต้านกันอีก ก็ค่อนข้างหนักใจที่ต่างฝ่ายไม่ยอมกัน


คิดว่าทางออกจริงๆของประเทศคืออะไร ?

ทางออกมันมีมานานแล้ว คือ ให้ทุกฝ่ายเล่นตามกติกา ประเทศไทยมีความเป็นประชาธิปไตย คนอยู่ในประเทศเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่หมู่บ้าน หรือตำบล ดังนั้นทุกคนก็ควรจะต้องอยู่ในกติกา ทำตามระบบประชาธิปไตย คนที่ต้องการให้เป็นไปตามระบบหรืออำนาจของเขา ก็ขอให้เล่นตามกติกา เพราะสมัยนี้คนบางกลุ่มพยายามเล่นนอกกติกาเพื่อให้ได้อำนาจต่างๆ คำพูดของการ ปฏิรูป ดูสวยหรู ดูดี แต่แนวทางการปฏิรูปนั้นต้องการปฏิรูปอะไร ปฏิรูปอย่างไร แล้วการปฏิรูปเป็นไปตามกฎ กติกา และประชาธิปไตย ถ้าการปฏิรูปคือการวางแผนให้แบบที่ต้องการเอาไว้แล้ว ก็ไม่ใช่การปฏิรูป ซึ่งอยากขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในกติกา อยากให้หลายกลุ่ม เช่น กปปส. คุยกับพรรคการเมืองบางพรรค ให้ออกมาเล่นตามกติกา ใช้กติกาตามที่โลกและต่างประเทศเขาทำกัน และเกิดการยอมรับ แม้จะมีการเลือกคนมาทำงาน แต่ถ้าไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชนทุกคนในประเทศ ซึ่งประชาชนก็ไม่ยอมรับ นั่นคือการเผด็จการ ประเทศเรามีคนไม่เล่นตามกติกา คนคุมกฎก็ไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เข้าข้างกติกา ทางออกที่แท้จริงมันก็คือ เคารพกติกาและทำตามกติกา


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1395911313&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่