ตามไปอ่าน ตอนที่ 1 ก่อนค่ะ  http://ppantip.com/topic/31816737






ป๊าดดดดดดด กลับมาแล้ว หลังจากหายไปทำธุระมา 1วัน
ใครยังไม่อ่านภาคแรก รีบเลย
อ่านย้อนที่นี่ !!!! แนะนำให้ไปอ่านก่อน เดี๋ยวจะไม่ปะติปะต่อในอารมณ์  

คราวที่แล้วจบลงที่ นั่งรถไฟมาที่สถานี เลาไก เพื่อที่จะมาต่อรถไปซาปานั่นเอง
ตอนแรกก็ไม่เข้าใจเพื่อนนะ ว่าจะมาทำไมซาปา ซาปามีอะไร  ทำไมต้องนั่งรถไฟให้ลำบากมา

เราก็ไปเสริช์หาข้อมูล ซาปาๆ  ดูจากรูปแล้ว ก็ตัดสินใจไป มันสวยมากจากแค่ดูในรูป จากอากู๋เนี่ยละ
แต่สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นค่ะ

วินบอกได้ สามคำ หลังจากที่มาเห็นกลับตาแล้ว ว่า
“ มา เถอะ ค่ะ”
“มัน สวย มาก”
“ สวรรค์ ชัด ชัด”
“สวย คา ตา”
พรรณนาโวหารมาซะหลายบรรทัด  เอาเนื้อเรื่องเลย
อย่างที่ตั้งแต่กระทู้แรกว่า เพื่อนวินจอง ทุกอย่างมาจากฮานอยแล้ว คือจองกับ Prince II
เราตั้งใจจองกันมาก คือ จองมาพักที่ Sapa Summit ที่เล่าขานกันมากว่า วิวสวยมาก
และที่จองควรจะเป็นห้อง โซน VIP 414,418 หรือ 514,518 แต่แนะนำนะ
เอาแบบสุดยอดเลยก็ต้อง 418,518
เพราะห้องอยู่มุมตึกพอดีเลย ก็คือมันสวยมากกระจกหัวเตียงบานใหญ่
เห็นวิวที่อยู่บนหัวนอนได้แบบ ฟินสุดๆๆ มันช่างเป็นโรงแรมที่วิว พอดิบพอดีกับวิวซาปามาก


กราบขอบพระคุณเพื่อนแอมมา ณ ที่นี่ ที่ทำการจองทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบและรอบคอบที่สุด
สมกับเป็นเจ้าแม่ทัวร์คณะลูกเป็ดรอบโลก จริงๆ 
วินและเพื่อนนอนบนรถไฟ 2 คืน ส่วนคืนที่มาถึงนี้ นอนที่โรงแรมค่ะ


รู้สึก Sapasummit จะมีคนจองมาเยอะนะคะ เพราะว่าป้ายเขาที่มารอรับลูกค้านั่นใหญ่มาก
วินและเพื่อนต้องรอรถรอบ 2 ถึงได้ไป ตอนเช้ามาเราก็อาจจะหิว เพราะลงจากรถมาไม่มีอะไรรองท้อง
แนะนำให้พกมาม่าใส่กระเป๋าไว้ แล้วตอนเช้าเดินไปน้ำร้อนจากร้านแถวๆหน้าสถานีค่ะ



นั่งรถจนรถมา ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรได้จาก เลาไกไปซาปา บางคนอาจเมารถนะคะ
ให้กินยาเมารถไปเลยตั้งแต่ขึ้นรถ เวลานั่งก็อาจจะมีหวาดเสียวกันบ้างเป็นธรรมดา
เพราะถ้าอากาศช่วงที่ไปซาปานั้น มีหมอกมาก ระหว่างทางที่ขึ้นไป ก็จะไม่เห็นทางเลยค่ะ
จะเห็นแต่เส้นที่ตีกลางถนนไว้สีขาวๆเท่านั่น เราก็จะรู้สึกว่า นี่เราคุ้มค่าที่มา ซาปาจริงๆ
เพราะเราตั้งใจมาก จับหมอกจริงจัง

ตัวโรงแรมจะแยกเป็น 2 ตึก คือ ตึกห้องพัก ห้องอาหาร และอีกตึกไว้อาบน้ำและพักผ่อนตามอัธยาศัย
สำหรับผู้ที่เตรียมตัวจะกลับซาปาหรือเชคเอ้าท์ ซึ่งสะดวกสบายมากค่ะ