อดีต รมต.กวี พิชิตพงษ์ และคุณหญิงอำภา พิชิตพงษ์ สองสามีภรรยาที่มีชาติตระกูลดี และฐานะทางสังคมสูงส่ง โดดเด่น โด่งดัง มีลูกชายสองคน หลานสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตคือ ภาคย์ พิชิตพงษ์ หายสาบสูญไปตั้งแต่อายุสิบสองปี จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสิบห้าปีผ่านไปแล้ว ลูกชายคนที่สองคือ ภากร พิชิตพงษ์ ส่วนหลานสาวนั้น เป็นเด็กกำพร้าที่ท่านกวีเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้สามขวบ เธอมีชื่อว่า อ้อ หรือ อมาวสี
วันหนึ่ง สองสามีภรรยาปรึกษาหารือกันเรื่องมีคนมาติดต่อขอซื้อ "บ้านแก้ว" สองสามรายด้วยกัน บ้านแก้วนั้นเป็นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณยาย ซึ่งคุณยาย (แม่ของคุณหญิงอำภา) สั่งไว้ก่อนตายว่า ให้เก็บเป็นสมบัติของภาคย์ หากวันใดภาคย์กลับมาจะได้มีที่อยู่อาศัย
วันนี้ท่านกวีจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเพื่อพยุงธุรกิจของตนที่กำลังย่ำแย่ และอีกจำนวนหนึ่งเพื่อชดใช้ให้กับ นายสด เป็นค่าเสียหายที่ นายภากร ไปยุ่งเกี่ยวล่วงเกินกับ สีไพร ลูกสาวคนเดียวของนายสด นายสดนั้นเป็นเพียงแค่ภารโรงและกรรมกรขายแรงงาน หากลูกชายท่านอดีต รมต.กวี จะมีเมียเป็นชนชั้นนี้ ท่านกวียอมไม่ได้ คุณหญิงอำภาไม่เห็นด้วยกับการขายบ้านหลังนี้ เพราะผิดวัตถุประสงค์ของคุณยาย แต่ท่านกวีอ้างว่านายภาคย์หายไปเกือบสิบห้าปีแล้ว เรายังจะเก็บบ้านเก่าแก่ผุพังอย่างนี้ไว้ทำไมคุณหญิงอำภาเถียงสู้ท่านกวีไม่ได้ เรื่องราวจึงลงเอยด้วยการสั่งให้ คุณชอบ ทนายประจำตระกูลเลือกผู้ซื้อที่ให้ราคาดีที่สุด หนึ่งในผู้ติดต่อขอซื้อคือ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผู้นิยมเลี้ยงหนวดเคราไว้เกือบเต็มหน้า เขามืชื่อว่า ราช รัชภูมิ
อมาวสี ศศิน หรือ อ้อ เธอเป็นหลานสาวบุญธรรมวัยสิบแปดปีของลุงกวี และคุณหญิงป้า พ่อแม่ พี่ ๆ ของอ้อเสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่ออ้ออายุได้เพียงสามขวบ คุณยายของอ้อเป็นน้าของท่านกวี ท่านจึงนำตัวอ้อมาเลี้ยงดู ให้การอุปการะดั่งลูกสาวคนหนึ่ง อ้อสนิทสนมและรักพี่ภาคย์มากกว่าคุณภากร ด้วยเหตุที่คุณภากรเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบพูดจาดูถูกคน มักจะถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อและแม่ ส่วนภาคย์นั้น อยู่ในข่ายที่ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง ดูเหมือนจะไม่มีใครรักเขาเลย แถมยังแสดงความรังเกียจใส่เขาด้วยซ้ำ ไม่เว้นแม้แต่คุณหญิงอำภา ผู้เป็นแม่ จะมีก็เพียง ป้าพริ้ง หรือ นมพริ้ง เท่านั้นที่รักและห่วงใยภาคย์มากกว่าใคร ๆ คงเป็นเพราะนมพริ้งนั้นเป็นผู้เลี้ยงดูภาคย์มาตั้งแต่เล็ก ๆ อีกหนึ่งคนที่ห่วงใยภาคย์เสมอก็คือ นายแม่ (คุณยาย) ไม่นานนักหลังจากที่ ภาคย์หนีออกจากบ้าน นายแม่ก็เสียชีวิต คนสุดท้ายที่ห่วงใยและรอคอยการกลับมาของภาคย์อยู่จนทุกวันนี้ก็คือ อ้อ อมาวสี
อ้อปรับทุกข์กับนมพริ้งว่าหากท่านกวีขายบ้านแก้วจริง ดวงวิญญาณของนายแม่ คงจะผิดหวัง และพี่ภาคย์ก็คงจะเสียใจไม่น้อย การที่ อ้อ อมาวสี เฝ้าคิดถึงแต่พี่ภาคย์นั้นจึงทำให้ภากรเกิดอาการหมั่นใส้และหึงหวง เพราะอ้อในวันนี้สวยงามเปล่งปลั่ง น่าพิศมัยยิ่งนัก ภากรจึงปรารถนาจะได้อ้อเป็นของตัวเองให้จงได้
กลุ่มเพื่อนสนิทของอมาวสีประกอบไปด้วย วัชรี รัตนพงศ์, นิลรัตน์ แกมกาญจน์, พึงใจ พิงคะ, ขวัญจิต งามบุญ เพื่อน ๆ เรียกอมาวสีสั้น ๆ ว่า อมา ที่ร้านอาหาร ราช รัชภูมิ เดินเข้ามาในร้านพร้อมด้วยเพื่อนสนิทสองคนคือ การันต์ และ อนุ อนุมีน้องชายชื่อ อานนท์ เป็นแฟนกับขวัญจิต ดังนั้นเมื่อคนทั้งสองกลุ่มเจอะเจอกันในร้านนี้โดยบังเอิญ การทักทายท้าวความกันจึงเกิดขึ้น เพื่อน ๆ ของราชมักเรียกเขาว่า ไอ้ยักษ์ ชื่อนายยักษ์จึงเป็นชื่อที่กลุ่มสาว ๆ แอบนินทาราช รัชภูมิ
วัชรีแอบชอบและหลงนายยักษ์คนนี้ไม่น้อย จนเพื่อน ๆ แซวกันสนุกปาก แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่านายยักษ์คนนี้ลอบมองอมาวสีแทบจะไม่วางตา อนุบอกกับราชว่า อมาวสีคือหลานของเจ้าของบ้านที่ราชกำลังติดต่อขอซื้อ และอมาวสีกำลังเป็นที่หมายปองของนายภากร ลูกชายท่านกวีที่เจ้าชู้มาก ๆ ยิ่งเมียตายไปไม่นานนายภากรยิ่งเที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมา ไล่จีบผู้หญิงไปทั่ว ราชรับฟังด้วยความสงบนิ่ง
เรื่องย่อละคร หัวใจเถื่อน (ฉบับเต็มค่ะ)
วันหนึ่ง สองสามีภรรยาปรึกษาหารือกันเรื่องมีคนมาติดต่อขอซื้อ "บ้านแก้ว" สองสามรายด้วยกัน บ้านแก้วนั้นเป็นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณยาย ซึ่งคุณยาย (แม่ของคุณหญิงอำภา) สั่งไว้ก่อนตายว่า ให้เก็บเป็นสมบัติของภาคย์ หากวันใดภาคย์กลับมาจะได้มีที่อยู่อาศัย
วันนี้ท่านกวีจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเพื่อพยุงธุรกิจของตนที่กำลังย่ำแย่ และอีกจำนวนหนึ่งเพื่อชดใช้ให้กับ นายสด เป็นค่าเสียหายที่ นายภากร ไปยุ่งเกี่ยวล่วงเกินกับ สีไพร ลูกสาวคนเดียวของนายสด นายสดนั้นเป็นเพียงแค่ภารโรงและกรรมกรขายแรงงาน หากลูกชายท่านอดีต รมต.กวี จะมีเมียเป็นชนชั้นนี้ ท่านกวียอมไม่ได้ คุณหญิงอำภาไม่เห็นด้วยกับการขายบ้านหลังนี้ เพราะผิดวัตถุประสงค์ของคุณยาย แต่ท่านกวีอ้างว่านายภาคย์หายไปเกือบสิบห้าปีแล้ว เรายังจะเก็บบ้านเก่าแก่ผุพังอย่างนี้ไว้ทำไมคุณหญิงอำภาเถียงสู้ท่านกวีไม่ได้ เรื่องราวจึงลงเอยด้วยการสั่งให้ คุณชอบ ทนายประจำตระกูลเลือกผู้ซื้อที่ให้ราคาดีที่สุด หนึ่งในผู้ติดต่อขอซื้อคือ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผู้นิยมเลี้ยงหนวดเคราไว้เกือบเต็มหน้า เขามืชื่อว่า ราช รัชภูมิ
อมาวสี ศศิน หรือ อ้อ เธอเป็นหลานสาวบุญธรรมวัยสิบแปดปีของลุงกวี และคุณหญิงป้า พ่อแม่ พี่ ๆ ของอ้อเสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่ออ้ออายุได้เพียงสามขวบ คุณยายของอ้อเป็นน้าของท่านกวี ท่านจึงนำตัวอ้อมาเลี้ยงดู ให้การอุปการะดั่งลูกสาวคนหนึ่ง อ้อสนิทสนมและรักพี่ภาคย์มากกว่าคุณภากร ด้วยเหตุที่คุณภากรเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบพูดจาดูถูกคน มักจะถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อและแม่ ส่วนภาคย์นั้น อยู่ในข่ายที่ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง ดูเหมือนจะไม่มีใครรักเขาเลย แถมยังแสดงความรังเกียจใส่เขาด้วยซ้ำ ไม่เว้นแม้แต่คุณหญิงอำภา ผู้เป็นแม่ จะมีก็เพียง ป้าพริ้ง หรือ นมพริ้ง เท่านั้นที่รักและห่วงใยภาคย์มากกว่าใคร ๆ คงเป็นเพราะนมพริ้งนั้นเป็นผู้เลี้ยงดูภาคย์มาตั้งแต่เล็ก ๆ อีกหนึ่งคนที่ห่วงใยภาคย์เสมอก็คือ นายแม่ (คุณยาย) ไม่นานนักหลังจากที่ ภาคย์หนีออกจากบ้าน นายแม่ก็เสียชีวิต คนสุดท้ายที่ห่วงใยและรอคอยการกลับมาของภาคย์อยู่จนทุกวันนี้ก็คือ อ้อ อมาวสี
อ้อปรับทุกข์กับนมพริ้งว่าหากท่านกวีขายบ้านแก้วจริง ดวงวิญญาณของนายแม่ คงจะผิดหวัง และพี่ภาคย์ก็คงจะเสียใจไม่น้อย การที่ อ้อ อมาวสี เฝ้าคิดถึงแต่พี่ภาคย์นั้นจึงทำให้ภากรเกิดอาการหมั่นใส้และหึงหวง เพราะอ้อในวันนี้สวยงามเปล่งปลั่ง น่าพิศมัยยิ่งนัก ภากรจึงปรารถนาจะได้อ้อเป็นของตัวเองให้จงได้
กลุ่มเพื่อนสนิทของอมาวสีประกอบไปด้วย วัชรี รัตนพงศ์, นิลรัตน์ แกมกาญจน์, พึงใจ พิงคะ, ขวัญจิต งามบุญ เพื่อน ๆ เรียกอมาวสีสั้น ๆ ว่า อมา ที่ร้านอาหาร ราช รัชภูมิ เดินเข้ามาในร้านพร้อมด้วยเพื่อนสนิทสองคนคือ การันต์ และ อนุ อนุมีน้องชายชื่อ อานนท์ เป็นแฟนกับขวัญจิต ดังนั้นเมื่อคนทั้งสองกลุ่มเจอะเจอกันในร้านนี้โดยบังเอิญ การทักทายท้าวความกันจึงเกิดขึ้น เพื่อน ๆ ของราชมักเรียกเขาว่า ไอ้ยักษ์ ชื่อนายยักษ์จึงเป็นชื่อที่กลุ่มสาว ๆ แอบนินทาราช รัชภูมิ
วัชรีแอบชอบและหลงนายยักษ์คนนี้ไม่น้อย จนเพื่อน ๆ แซวกันสนุกปาก แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่านายยักษ์คนนี้ลอบมองอมาวสีแทบจะไม่วางตา อนุบอกกับราชว่า อมาวสีคือหลานของเจ้าของบ้านที่ราชกำลังติดต่อขอซื้อ และอมาวสีกำลังเป็นที่หมายปองของนายภากร ลูกชายท่านกวีที่เจ้าชู้มาก ๆ ยิ่งเมียตายไปไม่นานนายภากรยิ่งเที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมา ไล่จีบผู้หญิงไปทั่ว ราชรับฟังด้วยความสงบนิ่ง