คือเราทำงาน ก็ต้องมีสังคมใหญ่ๆ มีการไปรับประทานอาหารกันบ้าง แล้วทีนี้เพื่อนร่วมงานของเรา เค้าเพิ่งเป็นโรค อีสุกอีใส เป็นตั้งแต่ วันเสาร์ที่แล้ว คือวันที่ 15 มีนาคม ก็เป็นร่วมอาทิตได้แล้ว อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแต่ยังอ่อนเพลียอยู่ และตุ่มแผลก็ตกสะเก็ดแล้ว แล้วเราถูกสอนให้ใช้ช้อนกลาง มาตั้งแต่เด็กๆค่ะ จะไปกินที่ไหนกับใครก็ต้องใช้ เพราะแม่ทำงานเป็นสาธารณสุขค่ะ จะเข้มงวดเรื่องนี้ ตอนนั้นเราไปเข้าค่าย แล้วต้องกินอาหารร่วมกับเพื่อนๆ เราบอกเพื่อนว่า ใช้ช้อนกลางได้มั้ย เพื่อนก็เหมือนไม่พอใจ
----- ประเด็นคือ เพื่อนๆร่วมงานของเรา แม้กระทั่งหัวหน้า ไม่มีใครใช้ช้อนกลางเลยค่ะ ทุกครั้งที่ไปกิน เราก็จะเป็นคนหยิบช้อนกลางมาวางทุกครั้ง ทุกคนก็รู้ก็เห็นแต่กลับกลายเป็นว่า เอามาประดับจานเท่านั้น ไม่มีใครใช้เลยค่ะ เราเคยพูดขึ้นว่า ทำไมไม่ใช้ช้อนกลางกันล่ะคะ เค้าก็เงียบๆกัน และก็บอกว่า กินไปเถอะ ไม่เห็นมีใครใช้เลย เราก็กินๆไป เพราะทำไรไม่ได้ เวลาเราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็จะตำหนิเราว่า ระวังจะติดโรคนะ
----- เราจะมีโอกาสติดโรคอีสุกอีใสมั้ยคะ เหมือนมันจะยังไม่หายดี ทั้งๆที่ก็ตกสะเก็ดแล้ว แต่ก็กลัวอ่ะค่ะ อย่าว่ารังเกียจหรืออะไรนะคะ ไม่ได้รังเกียจค่ะ เพราะเราก็โดนตัวเค้าพูดคุยกับเค้าอยู่ แต่ว่าการติดเชื้อทางน้ำลาย มันมีโอกาสติดโรคได้มากกว่าที่ไหน เรื่องใช้ช้อนกลางเราก้ไปบังคับเค้าไม่ได้
ขอคำแนะนำการทานอาหารร่วมกับผู้ที่พึ่งหายป่วยค่ะ
----- ประเด็นคือ เพื่อนๆร่วมงานของเรา แม้กระทั่งหัวหน้า ไม่มีใครใช้ช้อนกลางเลยค่ะ ทุกครั้งที่ไปกิน เราก็จะเป็นคนหยิบช้อนกลางมาวางทุกครั้ง ทุกคนก็รู้ก็เห็นแต่กลับกลายเป็นว่า เอามาประดับจานเท่านั้น ไม่มีใครใช้เลยค่ะ เราเคยพูดขึ้นว่า ทำไมไม่ใช้ช้อนกลางกันล่ะคะ เค้าก็เงียบๆกัน และก็บอกว่า กินไปเถอะ ไม่เห็นมีใครใช้เลย เราก็กินๆไป เพราะทำไรไม่ได้ เวลาเราเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็จะตำหนิเราว่า ระวังจะติดโรคนะ
----- เราจะมีโอกาสติดโรคอีสุกอีใสมั้ยคะ เหมือนมันจะยังไม่หายดี ทั้งๆที่ก็ตกสะเก็ดแล้ว แต่ก็กลัวอ่ะค่ะ อย่าว่ารังเกียจหรืออะไรนะคะ ไม่ได้รังเกียจค่ะ เพราะเราก็โดนตัวเค้าพูดคุยกับเค้าอยู่ แต่ว่าการติดเชื้อทางน้ำลาย มันมีโอกาสติดโรคได้มากกว่าที่ไหน เรื่องใช้ช้อนกลางเราก้ไปบังคับเค้าไม่ได้