ยาวหน่อยนะคะ ตามหัวข้อเลยค่ะ
เรากับแฟนอยู่ห่างกันเพราะหน้าที่การงาน เดือนนึงเจอกันทีนึง แต่บางครั้งก็ลากยาวไปสามเดือนก็มี
กลางปีที่แล้วระหว่างที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน แฟนก็บ่นว่าเหงา เราเลยถามว่าแล้วทำไมเพื่อนผู้ชายคนอื่นของเธอถึงทนกันได้
แฟนก็บอกว่าพวกนั้นเขาไปเที่ยวอ่าง เราเลยกัดฟันอนุญาตให้แฟนลองไปเที่ยวได้ซักครั้ง แต่ให้ป้องกันให้ดีด้วย
แฟนบอกว่าไม่อยากไปหรอก เดี๋ยวเราไม่สบายใจ (หนอยปากหวานให้เราดีใจ)
แต่แล้ว วันหนึ่งระหว่างโทรคุยกัน เรื่องอะไรจำไม่ได้ แฟนเกิดหลุดสารภาพมาว่าได้ลองไปเที่ยวอ่างมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ป้องกันเรียบร้อยนะ
และห้ามเราด่าด้วย เพราะเคยออกปากอนุญาตแล้ว เขาถึงกล้าไป
เราก็ปริ๊ดแตกอยู่ในใจ (หนอยยยย--- ฉันอนุญาตให้ลองไปซักครั้งนะ นี่ล่อไป 2-3 ครั้ง เพิ่งมาบอก)
แต่ไม่อยากบ่นอะไรมาก เพราะเคยออกปากแล้วจริงๆ แต่ก็ขอให้แฟนไปตรวจเอดส์กับซิฟิลิส ผลออกมาเรียบร้อยดี
เลยตั้งใจจะทำลืมๆ ไป และขอให้แฟนรับปากว่าจะไม่ไปเที่ยวอีก เพราะเราทำใจลำบากจริงๆ
แต่...หลังจากคำสารภาพนั้นสามเดือน แฟนโทรมาอีกครั้ง และแจ้งเราว่าเขาเป็นหูดหงอนไก่ ให้เราไปตรวจด้วย
เราทะเลาะกันใหญ่โต เพราะเรานึกว่าเขาไปแอบเที่ยวมาอีกและไม่ป้องกัน แต่แฟนยืนยันว่าเขาไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย
เที่ยวครั้งสุดท้ายก็คือก่อนสารภาพกับเรา และได้ใช้ถุงยางป้องกันแน่นอน
พอเราลองเสริจหาข้อมูลก็ตามนั้น หูดหงอนไก่ระยะเวลาฟักตัวอาจนานได้ถึงหกเดือน และถุงยางป้องกันไม่ได้
คราวนี้ก็เหลือแต่เรารอโรคแสดงตัว ว่าเราติดมารึเปล่า
และนี่ก็ห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาโทรมาบอกเรื่องหูด เรายังไม่มีอาการใดๆ (ในห้าเดือนนี้เราไม่มีอะไรกันเลย)
และแฟนก็ยังรักษาไม่หาย ทั้งที่ไปหาหมอต่อเนื่องตลอด
เขาบอกว่าพอที่เก่าหาย ก็มีขึ้นที่ใหม่มาเรื่อยๆ ท่าทางหายขาดได้ยาก
คิดจะเปลี่ยนจากวิธีแต้มยาเป็นเลเซอร์แทน ไม่รู้จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้นรึเปล่า
ระหว่างที่รอดูอาการของตัวเองอย่างกังวลใจนี้ พอคิดเรื่องหูดเราก็ทั้งโกรธ ทั้งขยะแขยง
เรารู้สึกเหมือนมันเป็นสัญญาณเตือนจากเบื้องบน ว่าคนๆ นี้นอกใจเราได้ถ้ามีโอกาส
วันนี้เป็นหูด วันหน้าอาจเป็นเอดส์มาฝากเราก็ได้
แต่คิดอีกแง่ เราเองนี่นาที่ออกปากให้เขาไปเที่ยว จะว่าเขานอกใจก็ว่าได้ไม่เต็มปาก
แต่ถ้าเขาบอกเรากลับกัน ให้เราไปลองมีอะไรกับคนอื่นดูบ้าง เราจะไม่มีวันทำแน่นอน นี่มันแสดงถึงศีลที่ไม่เสมอกันรึเปล่า
และเราก็เริ่มขุดเรื่องเก่าที่เขาเคยนอกใจเราครั้งนึงเมื่อห้าปีที่แล้วขึ้นมาคิด
ทั้งที่เราสองคนรับปากกันแล้วว่าจะลืมเรื่องนี้ไปไม่เก็บมาคิดอีก
ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เลยว่าจะบอกเลิกเขา เราไร้เหตุผลเกินไปหรือเปล่าคะ?
ขอถามอีกอย่าง โรคนี้ตรวจหาโรคตั้งแต่ตอนยังไม่แสดงอาการได้ไหมคะ?
เราขี้เกียจรอแล้ว อยากตรวจให้จบๆ ไป แต่เท่าที่รู้มาคือตรวจไม่ได้
และโรคนี้มีคนเป็นเรื้อรังไม่หายขาดไหมคะ ?
เรากลัวเขาจะเป็นๆ หายๆ ตลอดชีวิต ยอมรับเลยว่าเห็นแก่ตัว ไม่อยากเอาตัวเองมาเสี่ยงติดโรคจากเขาในอนาคตค่ะ
ผิดไหมคะ อนุญาตให้แฟนเที่ยวอ่าง พอแฟนไปแล้วติดหูดหงอนไก่กลับมาเรากลับจะขอเลิก (18+)
เรากับแฟนอยู่ห่างกันเพราะหน้าที่การงาน เดือนนึงเจอกันทีนึง แต่บางครั้งก็ลากยาวไปสามเดือนก็มี
กลางปีที่แล้วระหว่างที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน แฟนก็บ่นว่าเหงา เราเลยถามว่าแล้วทำไมเพื่อนผู้ชายคนอื่นของเธอถึงทนกันได้
แฟนก็บอกว่าพวกนั้นเขาไปเที่ยวอ่าง เราเลยกัดฟันอนุญาตให้แฟนลองไปเที่ยวได้ซักครั้ง แต่ให้ป้องกันให้ดีด้วย
แฟนบอกว่าไม่อยากไปหรอก เดี๋ยวเราไม่สบายใจ (หนอยปากหวานให้เราดีใจ)
แต่แล้ว วันหนึ่งระหว่างโทรคุยกัน เรื่องอะไรจำไม่ได้ แฟนเกิดหลุดสารภาพมาว่าได้ลองไปเที่ยวอ่างมาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ป้องกันเรียบร้อยนะ
และห้ามเราด่าด้วย เพราะเคยออกปากอนุญาตแล้ว เขาถึงกล้าไป
เราก็ปริ๊ดแตกอยู่ในใจ (หนอยยยย--- ฉันอนุญาตให้ลองไปซักครั้งนะ นี่ล่อไป 2-3 ครั้ง เพิ่งมาบอก)
แต่ไม่อยากบ่นอะไรมาก เพราะเคยออกปากแล้วจริงๆ แต่ก็ขอให้แฟนไปตรวจเอดส์กับซิฟิลิส ผลออกมาเรียบร้อยดี
เลยตั้งใจจะทำลืมๆ ไป และขอให้แฟนรับปากว่าจะไม่ไปเที่ยวอีก เพราะเราทำใจลำบากจริงๆ
แต่...หลังจากคำสารภาพนั้นสามเดือน แฟนโทรมาอีกครั้ง และแจ้งเราว่าเขาเป็นหูดหงอนไก่ ให้เราไปตรวจด้วย
เราทะเลาะกันใหญ่โต เพราะเรานึกว่าเขาไปแอบเที่ยวมาอีกและไม่ป้องกัน แต่แฟนยืนยันว่าเขาไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย
เที่ยวครั้งสุดท้ายก็คือก่อนสารภาพกับเรา และได้ใช้ถุงยางป้องกันแน่นอน
พอเราลองเสริจหาข้อมูลก็ตามนั้น หูดหงอนไก่ระยะเวลาฟักตัวอาจนานได้ถึงหกเดือน และถุงยางป้องกันไม่ได้
คราวนี้ก็เหลือแต่เรารอโรคแสดงตัว ว่าเราติดมารึเปล่า
และนี่ก็ห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาโทรมาบอกเรื่องหูด เรายังไม่มีอาการใดๆ (ในห้าเดือนนี้เราไม่มีอะไรกันเลย)
และแฟนก็ยังรักษาไม่หาย ทั้งที่ไปหาหมอต่อเนื่องตลอด
เขาบอกว่าพอที่เก่าหาย ก็มีขึ้นที่ใหม่มาเรื่อยๆ ท่าทางหายขาดได้ยาก
คิดจะเปลี่ยนจากวิธีแต้มยาเป็นเลเซอร์แทน ไม่รู้จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้นรึเปล่า
ระหว่างที่รอดูอาการของตัวเองอย่างกังวลใจนี้ พอคิดเรื่องหูดเราก็ทั้งโกรธ ทั้งขยะแขยง
เรารู้สึกเหมือนมันเป็นสัญญาณเตือนจากเบื้องบน ว่าคนๆ นี้นอกใจเราได้ถ้ามีโอกาส
วันนี้เป็นหูด วันหน้าอาจเป็นเอดส์มาฝากเราก็ได้
แต่คิดอีกแง่ เราเองนี่นาที่ออกปากให้เขาไปเที่ยว จะว่าเขานอกใจก็ว่าได้ไม่เต็มปาก
แต่ถ้าเขาบอกเรากลับกัน ให้เราไปลองมีอะไรกับคนอื่นดูบ้าง เราจะไม่มีวันทำแน่นอน นี่มันแสดงถึงศีลที่ไม่เสมอกันรึเปล่า
และเราก็เริ่มขุดเรื่องเก่าที่เขาเคยนอกใจเราครั้งนึงเมื่อห้าปีที่แล้วขึ้นมาคิด
ทั้งที่เราสองคนรับปากกันแล้วว่าจะลืมเรื่องนี้ไปไม่เก็บมาคิดอีก
ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เลยว่าจะบอกเลิกเขา เราไร้เหตุผลเกินไปหรือเปล่าคะ?
ขอถามอีกอย่าง โรคนี้ตรวจหาโรคตั้งแต่ตอนยังไม่แสดงอาการได้ไหมคะ?
เราขี้เกียจรอแล้ว อยากตรวจให้จบๆ ไป แต่เท่าที่รู้มาคือตรวจไม่ได้
และโรคนี้มีคนเป็นเรื้อรังไม่หายขาดไหมคะ ?
เรากลัวเขาจะเป็นๆ หายๆ ตลอดชีวิต ยอมรับเลยว่าเห็นแก่ตัว ไม่อยากเอาตัวเองมาเสี่ยงติดโรคจากเขาในอนาคตค่ะ