เมืองฮอตในประเทศอินเดีย และโอกาศทางธุรกิจ
อันดับ 1 มหานครมุมไบ
GDP =2.09 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
มุม ไบเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยว เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของอินเดีย มีขนาด GDP ใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่ติดอันดับ 10 เมืองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
บริษัทข้าม ชาติจากทั่วโลกนิยมตั้งสำนักงานที่มุมไบ นอกจากนั้นบริษัทข้ามชาติชั้นนำของอินเดียก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ด้วย ได้แก่ Larsen and Toubro,Life Insurance Corporation of India (LIC),Tata Group, Godrej และ Reliance นอกจากนั้นมุมไบยังเป็นเมืองที่มีค่าเช่าสำนักงานแพงเป็นอันดับ 4 ของโลก มีตึกระฟ้าติดอันดับโลกอยู่มากมาย จึงมีผู้คนหลากหลายจากทั่วอินเดียมาทำงานอยู่ที่เมืองมุมไบแห่งนี้ ส่งผลให้มุมไบมีค่าครองชีพสูงที่สุดของประเทศ
อันดับ 2 กรุงนิวเดลี
GDP =5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กรุง นิวเดลี เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐอินเดีย มี GDP เป็นสัดส่วน 4.94% ของ GDP อินเดีย แม้ว่าย่านเศรษฐกิจจะไม่โด่งดังเหมือนมุมไบ แต่ย่านเศรษฐกิจอย่าง Connaught Place (เรียกย่อๆ ว่า CP) ของนิวเดลีก็เป็นย่านที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย โดยมีสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำของอินเดียหลายบริษัทตั้งอยู่
อันดับ 3 โกลกัตตา
GDP =5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
โกลกัต ตา ชื่อเดิมคือ กัลกัตตา เป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในสมัยการปกครองของอังกฤษ จนถึงปี 1912 มีประชากร 13.8 ล้านคน นับแต่ปี 2,001 เป็นต้นมา การลงทุนด้าน IT ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในเมือง Raja hat ,Greater Kolkata ส่งผลให้โกลกัตตาเป็นเมือง ITเพียงเมืองเดียวในฝั่งตะวันออกของอินเดีย มีการเติบโตถึงปีละ 70% คิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ โดยมีเมือง IT ชื่อ Saltlake Sector 5 ซึ่งโด่งดังติดอันดับศูนย์ IT ระดับประเทศของอินเดีย โกลกัตตายังเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงินของภูมิภาคตะวันออกและอีสานของอินเดีย ทั้งนี้ตลาดหุ้นโกลกัตตาใหญ่เป็นอันดับสองรองจากมหานครมุมไบ
เช่นเดียวกับเมืองมุมไบและกรุงนิวเดลี โครงการก่อสร้างใหญ่ๆ โดยเฉพาะบ้านพักอาศัย และสำนักงานใหม่ๆ ผุดให้เห็นทุกวัน บริษัทชั้นนำหลายแห่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ เช่น บาจา ITC Ltd, Birla Corporation และ Domodar Valley Corporation,India Government Mint, Kolkata, Haldia Petrochemicals,Exide Industries, Hindustan Motors, Britannia Industries,CESC Limited, Coal India Limited, Damodar Valley Corporation, PwC India, Amconics International Ltd., RP Infosystems,Peerless Group, United Bank of India, UCO Bank และAllahabad
อันดับ 4 บังคาลอร์
GDP = 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อ 10 ปีก่อนบังคาลอร์เป็นสวรรค์ของผู้เกษียณอายุเนื่องจากยังมีความเป็นชนบทสูง และค่าครองชีพต่ำ เงินบำนาญสามารถเลี้ยงชีพไปได้ตลอดชีวิต แต่ปัจจุบันบังคาลอร์เป็นเมืองเศรษฐีใหม่และเศรษกิจขยายตัว 10 เท่าจากเดิม มีเศรษฐีใหม่มากมายไม่แพ้มุมไบ เดลี และเจนไน และที่สำคัญบังคาลอร์มีจำนวนครัวเรือนที่มีรายได้เกิน 1 ล้านรูปีมากที่สุดในอินเดีย ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เนื่องจากพื้นดินสูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 1 กิโลเมตร จึงเป็นที่นิยมของบริษัทต่างชาติเข้าไปตั้งอยู่ในเมืองนี้กว่า 2,000 แห่ง เป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย อุตสาหกรรมหลักของบังคาลอร์คือ IT และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น BPO เป็นเมือง IT อันดับ 1 ของอินเดีย จึงถูกขนานนามว่า Silicon Valley of India การจ้างงานส่วนใหญ่ในบังคาลอร์จึงเป็นบริษัทซอฟแวร์ข้ามชาติของอินเดียเอง และของต่างชาติ ธรุกิจ IT จึงส่งผลให้เกิดการเติบโตของธุรกิจหลายด้าน เช่น การก่อสร้าง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และการท่องเที่ยว บังคาลอร์มีนิคมธุรกิจซอฟแวร์อยู่ 3 แห่ง
ข้อมูล
http://sameaf.mfa.go.th/th/
อินเดียในมุมมองที่คุณไม่เคยรู้
อันดับ 1 มหานครมุมไบ
GDP =2.09 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
มุม ไบเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการท่องเที่ยว เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของอินเดีย มีขนาด GDP ใหญ่ที่สุดของประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นเมืองที่ติดอันดับ 10 เมืองธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
บริษัทข้าม ชาติจากทั่วโลกนิยมตั้งสำนักงานที่มุมไบ นอกจากนั้นบริษัทข้ามชาติชั้นนำของอินเดียก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ด้วย ได้แก่ Larsen and Toubro,Life Insurance Corporation of India (LIC),Tata Group, Godrej และ Reliance นอกจากนั้นมุมไบยังเป็นเมืองที่มีค่าเช่าสำนักงานแพงเป็นอันดับ 4 ของโลก มีตึกระฟ้าติดอันดับโลกอยู่มากมาย จึงมีผู้คนหลากหลายจากทั่วอินเดียมาทำงานอยู่ที่เมืองมุมไบแห่งนี้ ส่งผลให้มุมไบมีค่าครองชีพสูงที่สุดของประเทศ
อันดับ 2 กรุงนิวเดลี
GDP =5.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
กรุง นิวเดลี เมืองหลวงแห่งสาธารณรัฐอินเดีย มี GDP เป็นสัดส่วน 4.94% ของ GDP อินเดีย แม้ว่าย่านเศรษฐกิจจะไม่โด่งดังเหมือนมุมไบ แต่ย่านเศรษฐกิจอย่าง Connaught Place (เรียกย่อๆ ว่า CP) ของนิวเดลีก็เป็นย่านที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย โดยมีสำนักงานใหญ่ของบริษัทชั้นนำของอินเดียหลายบริษัทตั้งอยู่
อันดับ 3 โกลกัตตา
GDP =5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
โกลกัต ตา ชื่อเดิมคือ กัลกัตตา เป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอินเดียในสมัยการปกครองของอังกฤษ จนถึงปี 1912 มีประชากร 13.8 ล้านคน นับแต่ปี 2,001 เป็นต้นมา การลงทุนด้าน IT ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ในเมือง Raja hat ,Greater Kolkata ส่งผลให้โกลกัตตาเป็นเมือง ITเพียงเมืองเดียวในฝั่งตะวันออกของอินเดีย มีการเติบโตถึงปีละ 70% คิดเป็น 2 เท่าของค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ โดยมีเมือง IT ชื่อ Saltlake Sector 5 ซึ่งโด่งดังติดอันดับศูนย์ IT ระดับประเทศของอินเดีย โกลกัตตายังเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจ การค้า การเงินของภูมิภาคตะวันออกและอีสานของอินเดีย ทั้งนี้ตลาดหุ้นโกลกัตตาใหญ่เป็นอันดับสองรองจากมหานครมุมไบ
เช่นเดียวกับเมืองมุมไบและกรุงนิวเดลี โครงการก่อสร้างใหญ่ๆ โดยเฉพาะบ้านพักอาศัย และสำนักงานใหม่ๆ ผุดให้เห็นทุกวัน บริษัทชั้นนำหลายแห่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ เช่น บาจา ITC Ltd, Birla Corporation และ Domodar Valley Corporation,India Government Mint, Kolkata, Haldia Petrochemicals,Exide Industries, Hindustan Motors, Britannia Industries,CESC Limited, Coal India Limited, Damodar Valley Corporation, PwC India, Amconics International Ltd., RP Infosystems,Peerless Group, United Bank of India, UCO Bank และAllahabad
อันดับ 4 บังคาลอร์
GDP = 2.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อ 10 ปีก่อนบังคาลอร์เป็นสวรรค์ของผู้เกษียณอายุเนื่องจากยังมีความเป็นชนบทสูง และค่าครองชีพต่ำ เงินบำนาญสามารถเลี้ยงชีพไปได้ตลอดชีวิต แต่ปัจจุบันบังคาลอร์เป็นเมืองเศรษฐีใหม่และเศรษกิจขยายตัว 10 เท่าจากเดิม มีเศรษฐีใหม่มากมายไม่แพ้มุมไบ เดลี และเจนไน และที่สำคัญบังคาลอร์มีจำนวนครัวเรือนที่มีรายได้เกิน 1 ล้านรูปีมากที่สุดในอินเดีย ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เนื่องจากพื้นดินสูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 1 กิโลเมตร จึงเป็นที่นิยมของบริษัทต่างชาติเข้าไปตั้งอยู่ในเมืองนี้กว่า 2,000 แห่ง เป็นเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย อุตสาหกรรมหลักของบังคาลอร์คือ IT และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น BPO เป็นเมือง IT อันดับ 1 ของอินเดีย จึงถูกขนานนามว่า Silicon Valley of India การจ้างงานส่วนใหญ่ในบังคาลอร์จึงเป็นบริษัทซอฟแวร์ข้ามชาติของอินเดียเอง และของต่างชาติ ธรุกิจ IT จึงส่งผลให้เกิดการเติบโตของธุรกิจหลายด้าน เช่น การก่อสร้าง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และการท่องเที่ยว บังคาลอร์มีนิคมธุรกิจซอฟแวร์อยู่ 3 แห่ง
ข้อมูล http://sameaf.mfa.go.th/th/