ออกเดินทางจากฟุคุโอกะมุ่งตรงสู่ทาคายาม่า เมืองที่เหงาที่สุดเท่าที่เดินทางกันมาในทริปนี้
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่
http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ
http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า
http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน
http://ppantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ
http://ppantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ
http://ppantip.com/topic/31816493
ออกจากฟุคุโอกะ เนื่องจากต้องนั่งรถไฟกว่าหกชั่วโมง เลยติดของฝากฟุคุโอกะมาลองดูค่ะ
มันคือไข่ปลาค็อดของขึ้นชื่อค่ะ ที่ฟุคุเอาสิ่งนี้มาทำทุกอย่าง แม้แต่ครัวซองขั้นเทพก็ยังมีหน้าปลาค็อด เลยลองเอามาราดข้าวกินดูค่ะ
เผ็ดๆ เค็มๆ ค่ะ (ข้างๆ คือไก่คาราเกะ) ถือว่ารอดไปอีกมื้อ นั่งรถไฟมานาน ถึงสถานีทาคายาม่าค่ะ
เป็นเมืองเล็กๆ ที่ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอย่างดีค่ะ ออกมาหน่อยก็จะเจอ tourist information center
มีโบรชัวร์ภาษาไทยด้วยนะคะ เข้าไปหยิบกันได้ ออกมาแล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ถนนเพื่อเอากระเป๋าไปฝากที่พักก่อนค่ะ
มุ่งหน้าไปที่โทมารุเกสท์เฮาท์ค่ะ คืนนี้เราพักอย่างยาจกอีกครั้งในห้อง ดอร์มหญิง...ใช้ได้ค่ะ มีฮีทเตอร์อย่างดีห้องอาบน้ำก็โอเค แถมคืนนี้คือ คริสมาสต์อีฟ!!! มีปาร์ตี้ค่ะ แต่ตอนนี้เรารีบออกไปดูเมืองก่อนจะค่ำ
เมืองนี้ก็ "เดิน" อีกแล้วค่ะ เดินๆๆๆๆ รู้ตัวอีกทีก็รอบเมืองล่ะ 555
ไปดูเมืองเก่าอันขึ้นชื่อก่อนค่ะ เป็นบรรดาเรือนไม้กับถนนโบราณ อธิบายไม่ถูก ตามไปดูรูปรายทางกันดีกว่าค่ะ (จะดีกว่าถ้าได้ไปดูของจริง
)
บ้านไม้ทั้งนั้น
It's a Christmas's time
ซารุโบะโบะ สัญลักษณ์ของเมืองนี้ พรุ่งนี้เช้าเราจะไปศาสเจ้าซารุโบะโบะกัน
ต้องเดินฝ่าหิมะอีกแล้วค่ะ เดินๆ ไปก็เจอคนไทยในเมืองนี้เยอะมาก
หนาวๆ ก็คว้าสิ่งนี้มาได้ไม้นึงค่ะ รสชาติน่ะหรือ
คิดว่าคงไม่ถูกปากคนไทยและคนใส่ฟันปลอมเท่าไรนะคะ
ยิ่งเดินยิ่งหนาว แถมเหงาเอามากๆ เลยค่ะ อาจเป็นเพราะเพิ่งโบกมือลาเพื่อนกลับมาเที่ยวคนเดียวอีกครั้ง ภาพเลยอาจจะดูหดหู่ไปหน่อยนะคะ
ไปถึงสะพานแดงอันเลื่องชื่อ และ...."ปิด".....อีกแล้วค่ะพี่น้อง อย่างว่ามาหน้าหนาวต้องทำใจ ได้แต่สะพานเขียวมาค่ะ
เดินไปไกลหน่อย กึ่งๆ ขึ้นเขาก็จะมีกลุ่มวัดต่างๆ รวมตัวกันอยู่ค่ะ ในหน้าร้อนก็จะมีเส้นทาง Tracking ด้วย แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว รีบกลับกันดีกว่าค่ะ
โบกมือลากลับมาที่พักค่ะ ไปปาร์ตีกันดีกว่า เป็นบุฟเฟต์คนละห้าร้อยเย็นเท่านั้น มีเพื่อนๆ ของโฮสมากินข้าวกันค่ะ เชิญแขกไปด้วยแต่ต้องเตรียมเครื่องดื่มไปเอง ทำให้ได้รู้ว่าค่ะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระป๋องที่นี่...ถูกกว่านมอีกค่ะ
สงสัยจริงๆ ว่าคนญี่ปุ่นไม่เป็นตับแข็งกันหรือยังไง
มีเด็กๆ วิ่งกระจองอแงกันจัง ไปนอนล่ะค่ะ
เช้ามาเราไปที่ศาลเจ้าซารุโบโบะก่อนเลย
ข้างในมีต้มไม้ใหญ่ ไม่ทราบอายุ แต่น่าจะนานนะคะ
ที่มีชื่อเสียงคือสิ่งนี้ค่ะ งดงาม...
บอกลงทาคายาม่าค่ะ ตามแผนของเราคือจะนั่งรถบัสไปมัทสึโมโตะและค่อยต่อรถไฟไปคาวากูชิโกะค่ะ แต่ก็ยังทริปหนึ่งที่ตัดสินใจอยู่นานว่าจะไปดีหรือไม่...แล้วก็คุ้มค่าที่มาจนบอกได้เลยว่า สักวันเราจะกลับไปอีก...ที่นี่ค่ะ
....ชินโฮตาเกะ....
การเดินทางก็คล้ายๆ อะโสะเลยค่ะ คือค่ารถบัสขาไปเกือบสองพัน ขากลับ รวมทั้งค่าเคเบิล ตกประมาณหกพันค่ะ แต่เขาจะมีโปรโมชั่นขายข้างๆ กัน คือแพ็คเแกจห้าพัน รถบัสชินโฮตาเกะฟรีพาสสองวัน ค่าเคเบิล และค่าออนเซ็นที่ฮิรายุออนเซ็นค่ะ
แต่เราจะ complicate กว่านั้น อะฮ้า....จากการศึกษาโนฮิบัสอย่างลึกซึ้ง ทำให้ได้พบว่า เราสามารถลงจากชินโฮตาเกะไปเปลี่ยนบัสที่ฮิรายุออนเซ็นไปมัทสึโมโตะได้เลยโดยไม่ต้องวกกลับเข้าทาคายาม่า ด้วยทางนี้ทำให้เรามีเวลาพอที่จะขึ้นชินโฮตาเกะค่ะ
ศึกษาได้จาก
http://www.nouhibus.co.jp/english/matsumoto.html นะคะ
การเดินทางก็เริ่มจากสถานีค่ะ นั่งไปสักพักก็จะถึงฮิรายุออนเซ็น แต่เราจะยังไม่ลงค่ะ นั่งไปสุดทางชินโฮตาเกะโรปเวย์เลย
ที่บอกว่าเสียดายเพราะความจริงระหว่างทางมีอะไรให้เที่ยวเยอะค่ะ เช่นลานสกี หรือออนเซ็นที่ต้องนั่งเคเบิลขึ้นไปเป็นปากปล่องเขาให้เราแช่ ถ้าแก้ได้จะอยู่ที่ทาคายาม่าอีกหนึ่งวันเพื่อใช้พาสให้คุ้มค่ะ เพราะที่พักก็ดี ไม่แพงและใกล้สถานี แต่พลาดไปล่ะ ก็มุ่งหน้าขึ้นไปเลยค่ะ
ชั้นแรกค่ะ เดี๋ยวเราต้องไปต่อกระเช้าอีกชั้น อันนี้ล่ะค่ะ
ขึ้นไปถึงเป็นพาโนรามาวิวของท้องฟ้าสีฟ้ากับขุนเขาขาวสะอาดค่ะ
มีพร็อพให้ด้วย คนญี่ปุ่นเค้าก็ดีนะคะ เอากล้องเราถ่ายให้แล้วขออนุญาติเราก่อนใช้กล้องเขาถ่าย ลงมาข้างล่างก็แล้วแต่ค่ะว่าจะเอาหรือเปล่า
ระวังอย่าเพลินนะคะ เพราะกระเช้าสองชั้นมีเวลาขึ้นลงที่ค่อนข้างนาน ไม่อย่างนั้นอาจจะตกรถบัสได้ ว่าแล้วเราก็ลงมาแวะที่ฮิรายุออนเซ็นค่ะ
มีเวลาประมาณยี่สิบนาทีก่อนรถไปมัทสึโมโตะจะมา เอาไงดีๆๆ กระโดดปุ๋ง! ค่ะ
เป็นออนเซ็นกลางแจ้งค่ะ ตัวร้อนๆ ในน้ำแต่หน้าหนาวตากลม 555 อันนี้แอบถ่ายมาค่ะ
รีบลงรีบขึ้นแล้วกระโดดขึ้นรถบัสค่ะ ลงมัทสิโมโตะแล้วเราจะเข้าคาวากูชิโกะกันตอนหน้า วันที่เจ็ดแล้วนะคะ
แต่เนื่องจากจันทร์ถึงศุกร์นั้น จขกท. จะยุ่งมากตั้งแต่เจ็ดโมงถึงสามทุ่มเลยค่ะ ทำให้อาจจะไม่ได้มาลงต่อให้ จะพยายามแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็มาต่อกันอาทิตย์หน้านะคะ คาวากูชิโกะ แวะกินปลาไหลแถวอาซากุสะแล้วเราจะตีเหนือขึ้นฮอกไกโดกันแล้วค่ะ
[CR] @@ ลุยเดี่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ไปให้ไกลต้องเอาให้คุ้ม (15 days 14 nights) @@ ตอนที่ 6 Takayama - Shin-Hotake
ใครอยากเริ่มตั้งต้นการเดินทางกัน ไปที่ http://ppantip.com/topic/31803274
ตอนที่ 1 มัทสึโมโตะ http://ppantip.com/topic/31812434
ตอนที่ 2 ชิราคาว่า-คานาซาว่า http://ppantip.com/topic/31807590
ตอนที่ 3 เป็บปุ - ยุฟุอิน http://ppantip.com/topic/31812384
ตอนที่ 4 อะโสะ - คุมาโมโตะ http://ppantip.com/topic/31816159
ตอนที่ 5 ฟุคุโอกะ http://ppantip.com/topic/31816493
ออกจากฟุคุโอกะ เนื่องจากต้องนั่งรถไฟกว่าหกชั่วโมง เลยติดของฝากฟุคุโอกะมาลองดูค่ะ
มันคือไข่ปลาค็อดของขึ้นชื่อค่ะ ที่ฟุคุเอาสิ่งนี้มาทำทุกอย่าง แม้แต่ครัวซองขั้นเทพก็ยังมีหน้าปลาค็อด เลยลองเอามาราดข้าวกินดูค่ะ
เผ็ดๆ เค็มๆ ค่ะ (ข้างๆ คือไก่คาราเกะ) ถือว่ารอดไปอีกมื้อ นั่งรถไฟมานาน ถึงสถานีทาคายาม่าค่ะ
เป็นเมืองเล็กๆ ที่ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอย่างดีค่ะ ออกมาหน่อยก็จะเจอ tourist information center
มีโบรชัวร์ภาษาไทยด้วยนะคะ เข้าไปหยิบกันได้ ออกมาแล้วเราก็มุ่งหน้าไปที่ถนนเพื่อเอากระเป๋าไปฝากที่พักก่อนค่ะ
มุ่งหน้าไปที่โทมารุเกสท์เฮาท์ค่ะ คืนนี้เราพักอย่างยาจกอีกครั้งในห้อง ดอร์มหญิง...ใช้ได้ค่ะ มีฮีทเตอร์อย่างดีห้องอาบน้ำก็โอเค แถมคืนนี้คือ คริสมาสต์อีฟ!!! มีปาร์ตี้ค่ะ แต่ตอนนี้เรารีบออกไปดูเมืองก่อนจะค่ำ
เมืองนี้ก็ "เดิน" อีกแล้วค่ะ เดินๆๆๆๆ รู้ตัวอีกทีก็รอบเมืองล่ะ 555
ไปดูเมืองเก่าอันขึ้นชื่อก่อนค่ะ เป็นบรรดาเรือนไม้กับถนนโบราณ อธิบายไม่ถูก ตามไปดูรูปรายทางกันดีกว่าค่ะ (จะดีกว่าถ้าได้ไปดูของจริง )
บ้านไม้ทั้งนั้น
It's a Christmas's time
ซารุโบะโบะ สัญลักษณ์ของเมืองนี้ พรุ่งนี้เช้าเราจะไปศาสเจ้าซารุโบะโบะกัน
ต้องเดินฝ่าหิมะอีกแล้วค่ะ เดินๆ ไปก็เจอคนไทยในเมืองนี้เยอะมาก
หนาวๆ ก็คว้าสิ่งนี้มาได้ไม้นึงค่ะ รสชาติน่ะหรือ คิดว่าคงไม่ถูกปากคนไทยและคนใส่ฟันปลอมเท่าไรนะคะ
ยิ่งเดินยิ่งหนาว แถมเหงาเอามากๆ เลยค่ะ อาจเป็นเพราะเพิ่งโบกมือลาเพื่อนกลับมาเที่ยวคนเดียวอีกครั้ง ภาพเลยอาจจะดูหดหู่ไปหน่อยนะคะ
ไปถึงสะพานแดงอันเลื่องชื่อ และ...."ปิด".....อีกแล้วค่ะพี่น้อง อย่างว่ามาหน้าหนาวต้องทำใจ ได้แต่สะพานเขียวมาค่ะ
เดินไปไกลหน่อย กึ่งๆ ขึ้นเขาก็จะมีกลุ่มวัดต่างๆ รวมตัวกันอยู่ค่ะ ในหน้าร้อนก็จะมีเส้นทาง Tracking ด้วย แต่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว รีบกลับกันดีกว่าค่ะ
โบกมือลากลับมาที่พักค่ะ ไปปาร์ตีกันดีกว่า เป็นบุฟเฟต์คนละห้าร้อยเย็นเท่านั้น มีเพื่อนๆ ของโฮสมากินข้าวกันค่ะ เชิญแขกไปด้วยแต่ต้องเตรียมเครื่องดื่มไปเอง ทำให้ได้รู้ว่าค่ะ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระป๋องที่นี่...ถูกกว่านมอีกค่ะ สงสัยจริงๆ ว่าคนญี่ปุ่นไม่เป็นตับแข็งกันหรือยังไง
มีเด็กๆ วิ่งกระจองอแงกันจัง ไปนอนล่ะค่ะ
เช้ามาเราไปที่ศาลเจ้าซารุโบโบะก่อนเลย
ข้างในมีต้มไม้ใหญ่ ไม่ทราบอายุ แต่น่าจะนานนะคะ
ที่มีชื่อเสียงคือสิ่งนี้ค่ะ งดงาม...
บอกลงทาคายาม่าค่ะ ตามแผนของเราคือจะนั่งรถบัสไปมัทสึโมโตะและค่อยต่อรถไฟไปคาวากูชิโกะค่ะ แต่ก็ยังทริปหนึ่งที่ตัดสินใจอยู่นานว่าจะไปดีหรือไม่...แล้วก็คุ้มค่าที่มาจนบอกได้เลยว่า สักวันเราจะกลับไปอีก...ที่นี่ค่ะ
....ชินโฮตาเกะ....
การเดินทางก็คล้ายๆ อะโสะเลยค่ะ คือค่ารถบัสขาไปเกือบสองพัน ขากลับ รวมทั้งค่าเคเบิล ตกประมาณหกพันค่ะ แต่เขาจะมีโปรโมชั่นขายข้างๆ กัน คือแพ็คเแกจห้าพัน รถบัสชินโฮตาเกะฟรีพาสสองวัน ค่าเคเบิล และค่าออนเซ็นที่ฮิรายุออนเซ็นค่ะ
แต่เราจะ complicate กว่านั้น อะฮ้า....จากการศึกษาโนฮิบัสอย่างลึกซึ้ง ทำให้ได้พบว่า เราสามารถลงจากชินโฮตาเกะไปเปลี่ยนบัสที่ฮิรายุออนเซ็นไปมัทสึโมโตะได้เลยโดยไม่ต้องวกกลับเข้าทาคายาม่า ด้วยทางนี้ทำให้เรามีเวลาพอที่จะขึ้นชินโฮตาเกะค่ะ
ศึกษาได้จาก http://www.nouhibus.co.jp/english/matsumoto.html นะคะ
การเดินทางก็เริ่มจากสถานีค่ะ นั่งไปสักพักก็จะถึงฮิรายุออนเซ็น แต่เราจะยังไม่ลงค่ะ นั่งไปสุดทางชินโฮตาเกะโรปเวย์เลย
ที่บอกว่าเสียดายเพราะความจริงระหว่างทางมีอะไรให้เที่ยวเยอะค่ะ เช่นลานสกี หรือออนเซ็นที่ต้องนั่งเคเบิลขึ้นไปเป็นปากปล่องเขาให้เราแช่ ถ้าแก้ได้จะอยู่ที่ทาคายาม่าอีกหนึ่งวันเพื่อใช้พาสให้คุ้มค่ะ เพราะที่พักก็ดี ไม่แพงและใกล้สถานี แต่พลาดไปล่ะ ก็มุ่งหน้าขึ้นไปเลยค่ะ
ชั้นแรกค่ะ เดี๋ยวเราต้องไปต่อกระเช้าอีกชั้น อันนี้ล่ะค่ะ
ขึ้นไปถึงเป็นพาโนรามาวิวของท้องฟ้าสีฟ้ากับขุนเขาขาวสะอาดค่ะ
มีพร็อพให้ด้วย คนญี่ปุ่นเค้าก็ดีนะคะ เอากล้องเราถ่ายให้แล้วขออนุญาติเราก่อนใช้กล้องเขาถ่าย ลงมาข้างล่างก็แล้วแต่ค่ะว่าจะเอาหรือเปล่า
ระวังอย่าเพลินนะคะ เพราะกระเช้าสองชั้นมีเวลาขึ้นลงที่ค่อนข้างนาน ไม่อย่างนั้นอาจจะตกรถบัสได้ ว่าแล้วเราก็ลงมาแวะที่ฮิรายุออนเซ็นค่ะ
มีเวลาประมาณยี่สิบนาทีก่อนรถไปมัทสึโมโตะจะมา เอาไงดีๆๆ กระโดดปุ๋ง! ค่ะ
เป็นออนเซ็นกลางแจ้งค่ะ ตัวร้อนๆ ในน้ำแต่หน้าหนาวตากลม 555 อันนี้แอบถ่ายมาค่ะ
รีบลงรีบขึ้นแล้วกระโดดขึ้นรถบัสค่ะ ลงมัทสิโมโตะแล้วเราจะเข้าคาวากูชิโกะกันตอนหน้า วันที่เจ็ดแล้วนะคะ
แต่เนื่องจากจันทร์ถึงศุกร์นั้น จขกท. จะยุ่งมากตั้งแต่เจ็ดโมงถึงสามทุ่มเลยค่ะ ทำให้อาจจะไม่ได้มาลงต่อให้ จะพยายามแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็มาต่อกันอาทิตย์หน้านะคะ คาวากูชิโกะ แวะกินปลาไหลแถวอาซากุสะแล้วเราจะตีเหนือขึ้นฮอกไกโดกันแล้วค่ะ