โรคไข้ดำ แดง หลายคนอาจจะรู้จักโรคนี้แล้ว แต่เราไม่รู้จัก อยากจะแชร์ประสบการณ์ไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคุณแม่ คุณพ่อ อีกหลายคน
เย็นวันพุธ น้องเป็นผื่นที่พุง ไม่คัน ไม่มีไข้ เลยคิดว่าคงไปเล่นซนแล้วแพ้อะไรมา
วันพฤหัส ผื่นเริ่มลามทั่วตัว แต่ยังไม่ขึ้นหน้า แต่คันมาก แต่ไม่มีไข้ ได้แต่บ่นปวดท้อง เป็นพักๆ ก็ให้กินยาแก้ปวดท้องไป เล่นซนกินได้ตามปกติ ย่าบอกว่าคงเป็นผีนส่าไข้ หรือไม่ก็คงไปโดนหนอนคันมา
ก็เอาคารามายทา
วันศุกร์ ผื่นยังไม่หาย แต่ยังไม่ขึ้นหน้า ยังบ่นปวดท้องอยู่ ปกติเวลาแพ้อะไร ทาคารายมายวันนึงก็หายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีไข้ เล่นซน กินได้ ตามปกติ ตกเย็น เริ่มตัวรุมๆ เอาพาราให้กิน เราเริ่มหาข้อมูลทาง Internet แล้วว่าผื่นอะไร เริ่มจากส่าไข้ ผื่นส่าไข้ ไม่คันหนิ ตัดไป ผื่นแพ้ยา เพราะยาแก้ปวดท้องที่กินนี่เปิดมานานแล้ว เกินหกเดือนเก็บไว้ในตู้เย็น เลยโทรไปรพ.ถามเภสัช เภสัชบอกว่าไม่น่าจะใช้แพ้ยา ถ้าแพ้ต้องเป็นตั้งแต่คราวที่แล้วที่กิน แล้วเภสัชก็บอกว่าให้ทิ้งยากไป
ยาไม่ควรเก็บเกินหกเดือน เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย หาต่อไป ผื่นคาวาซากินหรือเปล่า ดูแล้วก็ไม่ใช่อีก แต่เราไม่ได้หา ผื่นโรคไข้อีดำ อีแดง เพราะเราไม่รู้จักโรคนี้ เราเลยคิดว่าเดี๋ยวเช้า เราต้องพาน้องไปหาหมอแล้ว สามวันแล้วไม่หาย
เช้าวันเสาร์รีบตื่นมา ผื่นลามขึ้นหน้าแล้ว ปากแดงมาก เค้าก็ยังบ่นปวดท้องอยู่ แล้วเค้าก็บอกว่า วันนี้พาหนูไปหาหมอนะ ปกติเค้าจะเป็นเด็กกลัวรพ. กลัวหมอมาก แต่นี่ร้องไปหาเอง วันเสาร์หมอประจำไม่เข้ารพ. เลยต้องเปลี่ยนไปรพ.เอกชนแถวบ้าน ได้ข้อมูลจากเพื่อนมาก่อนหน้านี้ว่า รพ.นี้ หมอเด็กต้องเป็นคนไหน โทรเชครพ.หมอเข้ากี่โมง หมอเข้าแปดโมง รีบอาบน้ำแต่งตัว ถึงรพ. แปดครึ่ง ก็ลงทะเบียน ระบุหมอ ชั่งน้ำหนัก วัดไข้ ไข้ 38.9 สูงมาก
พยาบาลถามว่ากินยาลดไข้มาหรือยัง เลยบอกว่ายังไมได้กิน พยาบาลพาไปเช็ดตัว แล้วให้กินยาลดไข้ นั่งรอหมอได้ตรวจเก้าโมง
หมอก็ถามอาการ ก็บอกว่าเป็นผืนคัน หมอถามว่ามีไอ คลื่นไส้ อาเจียนมั้ย บอกว่าไม่มี มีแต่บ่นปวดท้อง แล้วก็เมื่อวานเย้นไข้ขึ้น หมอบอกว่าวันนี้ไข้สูงเลย
หมอก็ดู ตา คอ ลิ้น แต่น้องแลบลิ้นไม่สุด หมอบอกดูไม่ชัด แล้วก็ไปฟังปอด แล้วก็มาดูผื่นที่ขา หมอก็ถามว่าคันมั้ย บอกว่าคันมาก หมอบอกถ้าคันก็ชัด แล้วหมอก็ขอดูลิ้นอีกที หมอบอกว่าคอเริ่มแดง ลิ้นเริ่มเป็นสตรอเบอรี่แล้ว หมอก็อธิบายโรคให้ฟังว่า เชื้อแบคทีเรียตัวนี้จะทำปฏิกิริยาสองอย่างคือ 1. ทำให้เกิดผื่นคัน 2. ทำให้ปวดท้อง ถ้าเด็กมีลมในท้องเยอะๆ ก็จะทำให้ลำไส้อักเสบ คลื่นไส้ อาเจียนได้ หมอเคาะท้องบอกมีลมเยอะ ถ้าเด็กมีลมเยอะๆ ก็จะทำให้น้อง คลืนไส้ อาเจียน ได้ แล้วน้องเป็นในช่วงโรคระบาด บอกหมอว่าตอนแรกคิดว่าเป็นส่าไข้ หมอบอกว่า ถ้าส่าไข้ต้องเป็นไข้ก่อนแล้วค่อยเป็นผื่น แต่นี่น้องเป็นผื่นก่อน แล้วถึงเป็นไข้
หมอบอกว่าภาษาชาวบ้านเรียกว่าโรคไข้ดำ แดง ภาษาการแพทย์ คือ Scarlet fever ติดกันทางน้ำลาย หรือ ไอ จาม รดใส่กัน แต่น้องยังไม่ได้เข้ารรพ.เลย ไปติดมาจากไหนเนีย หมอบอกว่าถ้าผืนยังไม่ยุบให้เก็บตัวในบ้านอาทิตย์นึง ไม่งั้นจะไปติดเด็กคนอืน ก็จะติดวนเวียนกันอยู่แบบนี้
หมอบอกว่าถ้ากินยาสองวันแล้วผืนไม่ยุบ หรือว่า มีอาการคลืนไส้ อาเจียน ให้กลับมาตามหมอนัด แต่ถ้ายุบแล้วก็ไม่ต้องมา
หมอก็ถามว่าที่บ้านมียาอะไรบ้าง บอกมีแต่พารา 120 mg หมอบอกควรกิน 250 mg
หมอก็จ่ายย่าฆ่าเชื้อ, ยาแก้แพ้ แก้คัน เพราะเป็นทั้งตัว ทาอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่,ยาแก้ปวดท้อง ส่วนพาราหมอบอกให้ใช้ที่บ้าน
หมอบอกว่า น้องยังร่าเริง กินได้ เล่นได้ ไม่ต้อง admit
หลังจากกินยาไปเมือวาน วันนี้ผืนเริ่มหายเกือบหมดแล้ว ที่หน้าก็ไม่มีแล้ว ยังเหลือเป็นบางที่ แล้วอาการคันอีกนิดหน่อย
มีรูปประกอบนะคะ เป็นผืนแบบนี้ทั้งตัว ถ่ายไว้เมือวานรูปอาจจะไม่ชัด
แชร์ประสบการณ์โรคดำ แดง ของเ็ด็ก 3 ขวบในบ้านคะ
เย็นวันพุธ น้องเป็นผื่นที่พุง ไม่คัน ไม่มีไข้ เลยคิดว่าคงไปเล่นซนแล้วแพ้อะไรมา
วันพฤหัส ผื่นเริ่มลามทั่วตัว แต่ยังไม่ขึ้นหน้า แต่คันมาก แต่ไม่มีไข้ ได้แต่บ่นปวดท้อง เป็นพักๆ ก็ให้กินยาแก้ปวดท้องไป เล่นซนกินได้ตามปกติ ย่าบอกว่าคงเป็นผีนส่าไข้ หรือไม่ก็คงไปโดนหนอนคันมา
ก็เอาคารามายทา
วันศุกร์ ผื่นยังไม่หาย แต่ยังไม่ขึ้นหน้า ยังบ่นปวดท้องอยู่ ปกติเวลาแพ้อะไร ทาคารายมายวันนึงก็หายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีไข้ เล่นซน กินได้ ตามปกติ ตกเย็น เริ่มตัวรุมๆ เอาพาราให้กิน เราเริ่มหาข้อมูลทาง Internet แล้วว่าผื่นอะไร เริ่มจากส่าไข้ ผื่นส่าไข้ ไม่คันหนิ ตัดไป ผื่นแพ้ยา เพราะยาแก้ปวดท้องที่กินนี่เปิดมานานแล้ว เกินหกเดือนเก็บไว้ในตู้เย็น เลยโทรไปรพ.ถามเภสัช เภสัชบอกว่าไม่น่าจะใช้แพ้ยา ถ้าแพ้ต้องเป็นตั้งแต่คราวที่แล้วที่กิน แล้วเภสัชก็บอกว่าให้ทิ้งยากไป
ยาไม่ควรเก็บเกินหกเดือน เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย หาต่อไป ผื่นคาวาซากินหรือเปล่า ดูแล้วก็ไม่ใช่อีก แต่เราไม่ได้หา ผื่นโรคไข้อีดำ อีแดง เพราะเราไม่รู้จักโรคนี้ เราเลยคิดว่าเดี๋ยวเช้า เราต้องพาน้องไปหาหมอแล้ว สามวันแล้วไม่หาย
เช้าวันเสาร์รีบตื่นมา ผื่นลามขึ้นหน้าแล้ว ปากแดงมาก เค้าก็ยังบ่นปวดท้องอยู่ แล้วเค้าก็บอกว่า วันนี้พาหนูไปหาหมอนะ ปกติเค้าจะเป็นเด็กกลัวรพ. กลัวหมอมาก แต่นี่ร้องไปหาเอง วันเสาร์หมอประจำไม่เข้ารพ. เลยต้องเปลี่ยนไปรพ.เอกชนแถวบ้าน ได้ข้อมูลจากเพื่อนมาก่อนหน้านี้ว่า รพ.นี้ หมอเด็กต้องเป็นคนไหน โทรเชครพ.หมอเข้ากี่โมง หมอเข้าแปดโมง รีบอาบน้ำแต่งตัว ถึงรพ. แปดครึ่ง ก็ลงทะเบียน ระบุหมอ ชั่งน้ำหนัก วัดไข้ ไข้ 38.9 สูงมาก
พยาบาลถามว่ากินยาลดไข้มาหรือยัง เลยบอกว่ายังไมได้กิน พยาบาลพาไปเช็ดตัว แล้วให้กินยาลดไข้ นั่งรอหมอได้ตรวจเก้าโมง
หมอก็ถามอาการ ก็บอกว่าเป็นผืนคัน หมอถามว่ามีไอ คลื่นไส้ อาเจียนมั้ย บอกว่าไม่มี มีแต่บ่นปวดท้อง แล้วก็เมื่อวานเย้นไข้ขึ้น หมอบอกว่าวันนี้ไข้สูงเลย
หมอก็ดู ตา คอ ลิ้น แต่น้องแลบลิ้นไม่สุด หมอบอกดูไม่ชัด แล้วก็ไปฟังปอด แล้วก็มาดูผื่นที่ขา หมอก็ถามว่าคันมั้ย บอกว่าคันมาก หมอบอกถ้าคันก็ชัด แล้วหมอก็ขอดูลิ้นอีกที หมอบอกว่าคอเริ่มแดง ลิ้นเริ่มเป็นสตรอเบอรี่แล้ว หมอก็อธิบายโรคให้ฟังว่า เชื้อแบคทีเรียตัวนี้จะทำปฏิกิริยาสองอย่างคือ 1. ทำให้เกิดผื่นคัน 2. ทำให้ปวดท้อง ถ้าเด็กมีลมในท้องเยอะๆ ก็จะทำให้ลำไส้อักเสบ คลื่นไส้ อาเจียนได้ หมอเคาะท้องบอกมีลมเยอะ ถ้าเด็กมีลมเยอะๆ ก็จะทำให้น้อง คลืนไส้ อาเจียน ได้ แล้วน้องเป็นในช่วงโรคระบาด บอกหมอว่าตอนแรกคิดว่าเป็นส่าไข้ หมอบอกว่า ถ้าส่าไข้ต้องเป็นไข้ก่อนแล้วค่อยเป็นผื่น แต่นี่น้องเป็นผื่นก่อน แล้วถึงเป็นไข้
หมอบอกว่าภาษาชาวบ้านเรียกว่าโรคไข้ดำ แดง ภาษาการแพทย์ คือ Scarlet fever ติดกันทางน้ำลาย หรือ ไอ จาม รดใส่กัน แต่น้องยังไม่ได้เข้ารรพ.เลย ไปติดมาจากไหนเนีย หมอบอกว่าถ้าผืนยังไม่ยุบให้เก็บตัวในบ้านอาทิตย์นึง ไม่งั้นจะไปติดเด็กคนอืน ก็จะติดวนเวียนกันอยู่แบบนี้
หมอบอกว่าถ้ากินยาสองวันแล้วผืนไม่ยุบ หรือว่า มีอาการคลืนไส้ อาเจียน ให้กลับมาตามหมอนัด แต่ถ้ายุบแล้วก็ไม่ต้องมา
หมอก็ถามว่าที่บ้านมียาอะไรบ้าง บอกมีแต่พารา 120 mg หมอบอกควรกิน 250 mg
หมอก็จ่ายย่าฆ่าเชื้อ, ยาแก้แพ้ แก้คัน เพราะเป็นทั้งตัว ทาอย่างเดียวคงเอาไม่อยู่,ยาแก้ปวดท้อง ส่วนพาราหมอบอกให้ใช้ที่บ้าน
หมอบอกว่า น้องยังร่าเริง กินได้ เล่นได้ ไม่ต้อง admit
หลังจากกินยาไปเมือวาน วันนี้ผืนเริ่มหายเกือบหมดแล้ว ที่หน้าก็ไม่มีแล้ว ยังเหลือเป็นบางที่ แล้วอาการคันอีกนิดหน่อย
มีรูปประกอบนะคะ เป็นผืนแบบนี้ทั้งตัว ถ่ายไว้เมือวานรูปอาจจะไม่ชัด