Turn Back Time With Tata Concert
ด้วยตัวเราเองก็เข้าใจข้อจำกัดหลายๆอย่างของตัวทาทา ทั้งเรื่องสุขภาพและอะไรหลายต่อหลายอย่างที่จะให้เฟอร์ฟอร์มของนางกลับมาพีคแบบสมัยคอนเสิร์ต Dhoom Dhoom ทัวร์ ซึ่งเราว่าคอนเสิร์ตนั้นเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตเธอแล้วจริงๆ
เอาล่ะกลับมาที่ Turn Back Time With Tata Concert คือมันถูกเล่าเรื่องด้วย Story แบบ Narrative ตั้งแต่วันแรกของการเปิดทางเป็นนักร้องของทาทาเปิดมาด้วยเพลงอย่าง One Night Only ซึ่งว่าก็ว่าเถอะเพลงมันดูไม่ค่อยมีพลังชอบกลถึงจะอัดเสียงเต็มๆแค่ไหนก็ตามแต่เรากลับรู้สึกว่าตัวทาทาข้างในนั้น "เหนื่อย" เอามากๆ (และจากการติดตาม IG ของเธอแล้ว ดูเหมือนเจ๊แกก็ซ้อมหนักมากและถี่ยิบก่อนขึ้นคอนเสิร์ต)
จากนั้นเพลงมันก็จะมาเป็นยุคแกรมมี่ (เอกลักษณ์ของคอนเสิร์ตนี้คือร้อง 1 หรือ 2 เพลง หยุดเข้าไปหายใจ 30 วิ หรือพักไปประมาณ 1 นาที หรือเอา VTR หรือ วิดีโอมาคั่น ซึ่งตรงนี้ก็ทำใจล่วงหน้าเอาไว้ประมาณนึงแล้วอยู่เหมือนกัน) แต่เราว่าอะไรวิธีการ Narative ชีวิตทาทาในคอนเสิร์ตนี้มันไม่สมูทเท่าไหร่ คือเล่าด้วยเพลงหรืออะไรก็แล้วแต่เพลงมันพิกลแปลกๆมากคือเดี๋ยวก็เพลงเร็ว เดี๋ยวก็เพลงช้า เดี๋ยวก็เชียร์อัพลุกขึ้นมาเต้น เดี๋ยวก็นั่งจ่อมอีกละ
เกสต์คนแรก พี่เจ (เบื่อมาก แต่ทำไงได้ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ) เพราะเพลงที่พี่แกร้อง เจ็บไปเจ็บมางี้ ฟังรอบที่ 40 ในรอบ 10 ปีจากการตามดูคอนเสิร์ตพี่แก ส่วนพาร์ทดูเอตคู่ก็ไม่มีอะไรให้จดจำนัก
ส่วนที่ชอบเพิ่งโพล่มาก็คือการทาทาเอาเพลงพี่เต๋อ (เรวัฒน์) ไม่ใช่นวพล อย่างสักวันจะได้ดีมา คือตอนภาพตัดมาเป็นพี่เต๋อแล้วขนลุกเกรียว ก่อนจะมาเข้าช่วงเพลงสมัยที่ทาทาแสดงภาพยนตร์และละครเพลงจากจักรยานสีแดง - รักแบบไม่ได้ และ(ฟินเป็นการส่วนตัว) จากปลายเทียนเพลง เก็บเอาไว้ให้เธอผู้เดียว
ก่อนจะโผล่มากับเพลงช็อต (ที่มีฉากแดนเซอร์เบี้ยนกัน) แต่สารภาพว่าไม่ชอบดนตรีที่ทำใหม่ในเวอร์ชั่นนี้แล้ว มันอิเลกทรอนิกส์เกินไป เต้นไม่ได้ เพลงถัดมาก็เอาน้องฮั่น The Star มาร้องอาโบเดเบ คู่กัน ฟิลลิ่งมันก็พิลึกๆอยู่ดี พาร์ทย้ายมา Sony Music นี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
อีกเพลงที่ชอบมากก็คือเพลง สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีหัวใจ ก่อนจะเข้า Part เพลงสากลที่คาดว่างบ 70% เอามาลงโปรดักชั่นตรงนี้หมดซึ่งก่อนเข้าช่วงนี้ก็เอาชื่อเพลงสากลฮอตๆ ขึ้นวิดีโอไว้เต็มไปหมดอาทิ Dhoom Dhoom, Sexy Naughty Bitchy, I Believe, Crush on you ,Mission is You, Ready for love, El nin yo, For you I Will, Suffocate, Cinderella, I Think of you, Come Rain Come Shine แถมอีกเพลงแบบหลืบมากโชว์ครั้งเดียวซิงเกิ้ลก็ไม่ออกอย่าง Let's Play แต่สุดท้ายก็ผิดหวังพอสมควร
เพราะชื่อเพลงทีมงานเอามาหลอกให้เรากรี๊ดอย่างเดียวฮ่ะ แต่ไม่ร้อง! เปิดมาซีนแรกกับ Ready for love อู้วหูว อลังการมากแล้วก็เดจาวูมาก ว่าซีนนี้มันมาจากคอนเสิร์ตบียอนเซ่นี่หว่า อ่ะโอเคไม่เป็นไร ทาทาร้องดี คนดูแถวหน้าก็นิ่งเป็นซากศพเพราะเพลงเต้นไม่ได้ - อ่ะจบเพลงนี้ไปที่ I Believe แดนเซอร์หายไป ฉากฟ้ามลัง ต่อกันด้วย Cinderella คนก็แหกปากร้องตามกระหึ่มแต่บัตรแพงก็ยังเงิบกันอยู่เพราะเพลงมันเต้นไม่ได้ไง ได้แต่โยกๆ จบเพลงนางก็เข้าไป ขึ้นวีทีอาร์มาจากอียิปต์เลยจ้า แต่พอเปิดซีนมาเท่านั้นแหละ ฮ่วยยยยย อลังการจริงงบ 10% มันมาอัดอยู่ในโชว์นี้หมดทั้งพลุ ทั้งไฟ ทั้ง CG และค่าจ้างนายแบบมาแก้ผ้าโชว์หุ่น พร็อพเพริบเอย (แต่ซีนนี้ก็ Inspiration มาจากคอนเสิร์ต Britney ตอนเพลง Gimme More ตอน Fame Fatal เปี๊ยบ) แต่เอาเป็นว่าให้อภัย อ่ะต่อๆ โชว์ต่อมาก็เป็น Sexy Naughty Bitchy คือก็ดูเพลินๆนางก็ยังถูลู่ถูกังกับแดนเซอร์ต่อไป จบเพลงนี้ El nin yo ก็มาเต็มสตรีม กรี๊ดกันคอพังเพราะทาทา ล้มลุกคลุกคลาน รูดเสา ไถเถือกเกลือกกิ้งกับพร็อพกับคน ไฟเฟย พุ่งก็จะปิดซีนด้วยการเทน้ำลงมาแบบใน MV อื้อหือ ตึ้งแล้วก็จบ Part เพลงสากลไป (ฮ่วยแล้วเพลงที่เหลือที่ขึ้น VTR ล่ะฟะ รอฟังอยู่นะโว้ย!!!!)
อ่ะนางกลับออกมาอีกทีพร้อมเมโลดี้คุ้นๆ อ่าวเฮ้ย ซักกะนิด - แมลง - อาโบเดเบ เพิ่งร้องไปเมื่อ 40 นาทีที่แล้วไม่ใช่เหรอ คือเมดเลย์แล้วนี่จะไล่กลับบ้านแล้วใช่มะ คือเอาจริงๆนะเราขอเรียกช่วงนี้ว่าเมดเลย์มักง่ายก็แล้วกัน (คือเหมือนมันเป็นสูตรสำเร็จของทุกค่ายที่ทำคอนเสิร์ตไปแล้วอ่ะว่า ตอนจบต้องเอาเพลงที่ร้องไปแล้วมารียูส โอเคถ้ามันเป็นคอนเสิร์ตแรกเราก็ยังอินนะ แต่ถ้ามันเกิดมีครั้งที่ 2 3 4 แบบที่เจ-ติ๊นา ในตระกูลนี้คือ เราจะเกิดอาการตายด้านทางอารมณ์ไปแบบถาวรไปเลยคือ จะไม่อินอะไรกับเพลงนั้นอีก ซึ่งน่าเศร้ามาก
ส่วนตัวคือไม่ติดอะไรเพราะบอกแล้วว่ามาดู ทาทา ไม่ว่านางจะเป็นยังไงอะไรก็เถอะ ก็คือชอบ No Matter What แต่เสียดายที่เพลงอีกเป็นกุรุสที่ดีๆ ที่อยากฟัง และไม่ได้ร้อง (อาทิ คนแบบฉัน - Dangerous - เพลงสากลที่ตัดซิงเกิ้ล แล้วไม่ร้อง หรือเพลงช้าอีกมากมาย - และเพลงอย่าง One Love และ Reach for the Star) คือ เสียดาย เสียดาย เสียดาย เสียดาย และเสียดาย เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตใหญ่อีกเมื่อไหร่ และคิดว่ายิ่งนานวันแค่ไหน ทาทาก็จะหยิบมาแต่เพลงฮิต ฮิต ฮิต แบบเดียวกับที่เจ - ติ๊นา เอามาหากินไปยันแก่
เศร้าใจ เศร้าใจ เศร้าใจ แต่ยังไงก็อยากให้ไปดูกันนะครับ บัตรรอบวันอาทิตย์ยังเหลืออยู่ เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้ดูเธอขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้อีกเมื่อไหร่
อ่านรีวิวแบบ Uncut Version ได้ที่ https://www.facebook.com/EntertainmentBite
[CR] รีวิวสรวลเสเฮฮากับ Turn Back Time With Tata Concert [B]
Turn Back Time With Tata Concert
ด้วยตัวเราเองก็เข้าใจข้อจำกัดหลายๆอย่างของตัวทาทา ทั้งเรื่องสุขภาพและอะไรหลายต่อหลายอย่างที่จะให้เฟอร์ฟอร์มของนางกลับมาพีคแบบสมัยคอนเสิร์ต Dhoom Dhoom ทัวร์ ซึ่งเราว่าคอนเสิร์ตนั้นเป็นงานที่ดีที่สุดในชีวิตเธอแล้วจริงๆ
เอาล่ะกลับมาที่ Turn Back Time With Tata Concert คือมันถูกเล่าเรื่องด้วย Story แบบ Narrative ตั้งแต่วันแรกของการเปิดทางเป็นนักร้องของทาทาเปิดมาด้วยเพลงอย่าง One Night Only ซึ่งว่าก็ว่าเถอะเพลงมันดูไม่ค่อยมีพลังชอบกลถึงจะอัดเสียงเต็มๆแค่ไหนก็ตามแต่เรากลับรู้สึกว่าตัวทาทาข้างในนั้น "เหนื่อย" เอามากๆ (และจากการติดตาม IG ของเธอแล้ว ดูเหมือนเจ๊แกก็ซ้อมหนักมากและถี่ยิบก่อนขึ้นคอนเสิร์ต)
จากนั้นเพลงมันก็จะมาเป็นยุคแกรมมี่ (เอกลักษณ์ของคอนเสิร์ตนี้คือร้อง 1 หรือ 2 เพลง หยุดเข้าไปหายใจ 30 วิ หรือพักไปประมาณ 1 นาที หรือเอา VTR หรือ วิดีโอมาคั่น ซึ่งตรงนี้ก็ทำใจล่วงหน้าเอาไว้ประมาณนึงแล้วอยู่เหมือนกัน) แต่เราว่าอะไรวิธีการ Narative ชีวิตทาทาในคอนเสิร์ตนี้มันไม่สมูทเท่าไหร่ คือเล่าด้วยเพลงหรืออะไรก็แล้วแต่เพลงมันพิกลแปลกๆมากคือเดี๋ยวก็เพลงเร็ว เดี๋ยวก็เพลงช้า เดี๋ยวก็เชียร์อัพลุกขึ้นมาเต้น เดี๋ยวก็นั่งจ่อมอีกละ
เกสต์คนแรก พี่เจ (เบื่อมาก แต่ทำไงได้ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ) เพราะเพลงที่พี่แกร้อง เจ็บไปเจ็บมางี้ ฟังรอบที่ 40 ในรอบ 10 ปีจากการตามดูคอนเสิร์ตพี่แก ส่วนพาร์ทดูเอตคู่ก็ไม่มีอะไรให้จดจำนัก
ส่วนที่ชอบเพิ่งโพล่มาก็คือการทาทาเอาเพลงพี่เต๋อ (เรวัฒน์) ไม่ใช่นวพล อย่างสักวันจะได้ดีมา คือตอนภาพตัดมาเป็นพี่เต๋อแล้วขนลุกเกรียว ก่อนจะมาเข้าช่วงเพลงสมัยที่ทาทาแสดงภาพยนตร์และละครเพลงจากจักรยานสีแดง - รักแบบไม่ได้ และ(ฟินเป็นการส่วนตัว) จากปลายเทียนเพลง เก็บเอาไว้ให้เธอผู้เดียว
ก่อนจะโผล่มากับเพลงช็อต (ที่มีฉากแดนเซอร์เบี้ยนกัน) แต่สารภาพว่าไม่ชอบดนตรีที่ทำใหม่ในเวอร์ชั่นนี้แล้ว มันอิเลกทรอนิกส์เกินไป เต้นไม่ได้ เพลงถัดมาก็เอาน้องฮั่น The Star มาร้องอาโบเดเบ คู่กัน ฟิลลิ่งมันก็พิลึกๆอยู่ดี พาร์ทย้ายมา Sony Music นี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
อีกเพลงที่ชอบมากก็คือเพลง สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีหัวใจ ก่อนจะเข้า Part เพลงสากลที่คาดว่างบ 70% เอามาลงโปรดักชั่นตรงนี้หมดซึ่งก่อนเข้าช่วงนี้ก็เอาชื่อเพลงสากลฮอตๆ ขึ้นวิดีโอไว้เต็มไปหมดอาทิ Dhoom Dhoom, Sexy Naughty Bitchy, I Believe, Crush on you ,Mission is You, Ready for love, El nin yo, For you I Will, Suffocate, Cinderella, I Think of you, Come Rain Come Shine แถมอีกเพลงแบบหลืบมากโชว์ครั้งเดียวซิงเกิ้ลก็ไม่ออกอย่าง Let's Play แต่สุดท้ายก็ผิดหวังพอสมควร
เพราะชื่อเพลงทีมงานเอามาหลอกให้เรากรี๊ดอย่างเดียวฮ่ะ แต่ไม่ร้อง! เปิดมาซีนแรกกับ Ready for love อู้วหูว อลังการมากแล้วก็เดจาวูมาก ว่าซีนนี้มันมาจากคอนเสิร์ตบียอนเซ่นี่หว่า อ่ะโอเคไม่เป็นไร ทาทาร้องดี คนดูแถวหน้าก็นิ่งเป็นซากศพเพราะเพลงเต้นไม่ได้ - อ่ะจบเพลงนี้ไปที่ I Believe แดนเซอร์หายไป ฉากฟ้ามลัง ต่อกันด้วย Cinderella คนก็แหกปากร้องตามกระหึ่มแต่บัตรแพงก็ยังเงิบกันอยู่เพราะเพลงมันเต้นไม่ได้ไง ได้แต่โยกๆ จบเพลงนางก็เข้าไป ขึ้นวีทีอาร์มาจากอียิปต์เลยจ้า แต่พอเปิดซีนมาเท่านั้นแหละ ฮ่วยยยยย อลังการจริงงบ 10% มันมาอัดอยู่ในโชว์นี้หมดทั้งพลุ ทั้งไฟ ทั้ง CG และค่าจ้างนายแบบมาแก้ผ้าโชว์หุ่น พร็อพเพริบเอย (แต่ซีนนี้ก็ Inspiration มาจากคอนเสิร์ต Britney ตอนเพลง Gimme More ตอน Fame Fatal เปี๊ยบ) แต่เอาเป็นว่าให้อภัย อ่ะต่อๆ โชว์ต่อมาก็เป็น Sexy Naughty Bitchy คือก็ดูเพลินๆนางก็ยังถูลู่ถูกังกับแดนเซอร์ต่อไป จบเพลงนี้ El nin yo ก็มาเต็มสตรีม กรี๊ดกันคอพังเพราะทาทา ล้มลุกคลุกคลาน รูดเสา ไถเถือกเกลือกกิ้งกับพร็อพกับคน ไฟเฟย พุ่งก็จะปิดซีนด้วยการเทน้ำลงมาแบบใน MV อื้อหือ ตึ้งแล้วก็จบ Part เพลงสากลไป (ฮ่วยแล้วเพลงที่เหลือที่ขึ้น VTR ล่ะฟะ รอฟังอยู่นะโว้ย!!!!)
อ่ะนางกลับออกมาอีกทีพร้อมเมโลดี้คุ้นๆ อ่าวเฮ้ย ซักกะนิด - แมลง - อาโบเดเบ เพิ่งร้องไปเมื่อ 40 นาทีที่แล้วไม่ใช่เหรอ คือเมดเลย์แล้วนี่จะไล่กลับบ้านแล้วใช่มะ คือเอาจริงๆนะเราขอเรียกช่วงนี้ว่าเมดเลย์มักง่ายก็แล้วกัน (คือเหมือนมันเป็นสูตรสำเร็จของทุกค่ายที่ทำคอนเสิร์ตไปแล้วอ่ะว่า ตอนจบต้องเอาเพลงที่ร้องไปแล้วมารียูส โอเคถ้ามันเป็นคอนเสิร์ตแรกเราก็ยังอินนะ แต่ถ้ามันเกิดมีครั้งที่ 2 3 4 แบบที่เจ-ติ๊นา ในตระกูลนี้คือ เราจะเกิดอาการตายด้านทางอารมณ์ไปแบบถาวรไปเลยคือ จะไม่อินอะไรกับเพลงนั้นอีก ซึ่งน่าเศร้ามาก
ส่วนตัวคือไม่ติดอะไรเพราะบอกแล้วว่ามาดู ทาทา ไม่ว่านางจะเป็นยังไงอะไรก็เถอะ ก็คือชอบ No Matter What แต่เสียดายที่เพลงอีกเป็นกุรุสที่ดีๆ ที่อยากฟัง และไม่ได้ร้อง (อาทิ คนแบบฉัน - Dangerous - เพลงสากลที่ตัดซิงเกิ้ล แล้วไม่ร้อง หรือเพลงช้าอีกมากมาย - และเพลงอย่าง One Love และ Reach for the Star) คือ เสียดาย เสียดาย เสียดาย เสียดาย และเสียดาย เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตใหญ่อีกเมื่อไหร่ และคิดว่ายิ่งนานวันแค่ไหน ทาทาก็จะหยิบมาแต่เพลงฮิต ฮิต ฮิต แบบเดียวกับที่เจ - ติ๊นา เอามาหากินไปยันแก่
เศร้าใจ เศร้าใจ เศร้าใจ แต่ยังไงก็อยากให้ไปดูกันนะครับ บัตรรอบวันอาทิตย์ยังเหลืออยู่ เพราะเราไม่รู้ว่าจะได้ดูเธอขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่แบบนี้อีกเมื่อไหร่
อ่านรีวิวแบบ Uncut Version ได้ที่ https://www.facebook.com/EntertainmentBite