เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของชีวิตผมอยาก.....

เกริ่นก่อนนะครับ ผมอายุ จะย่างเข้า 20 อีกปีสองปีข้างหน้า  ชีวิตของผมอิสระเสรีสุดๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ปัญหาครอบครัวก็มีบ้าง ผมขอบอกตรงนี้ไว้เลยว่า ผมเป็นคนที่เกเร คนหนึ่ง ผมรู้สึกว่า ชีวิตผมลองสิ่งดี และไม่ดีมาเยอะมากๆ ทั้งเพื่อน *ยา เหล้า ผู้หญิง อุบัติเหตุ ที่เกือบตายมา 2 หน แถมต้องเสียเพื่อนรักไป
ไปเพราะอุบัติเหตุ ตรงนี้แหละครับ ที่ทำให้ผมเข้าใจโลก มากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่า รูป รส กลิ่น เสียง ที่ผมสัมผัสมา นั้นมันหลอกลวง มันเป้นแค่ความสุขชั่วคราว และบางครั้งก็มีความทุกข์แถมมาด้วย  ทุกวันนี้ ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นกับ สิ่งที่ผมบอกไว้ข้างบนแล้ว* ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ มันก็แค่นั้น... มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ภายนอกก็ดูสวยงาม ภายในเมื่อเฉาะเนื้อหนังมังสาออก ก็เหมือนกันทุกคน...
......ผมอยากจะบวชครับเคยคิดไว้เมื่อ 2-3 ปีมาแล้วว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ผมจะบวชไม่สึกครับ   ผมตั้งใจว่า สักอายุ 30 คงเก็บเงินได้สักก้อน ผมอยากจะถามท่านๆว่า  ประเทศไหนที่สงบ เหมาะแก่การแสวงธรรม ในใจผมคิดไว้ว่าจะไปทิเบตครับ  ..... ขอบพระคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ขออนุโมทนากับ จขกท ด้วยครับ. ขออนุญาติเล่าเรื่องเก่าๆของผมให้ฟังนะครับ
  ตอนผมหนุ่มๆก็เคยคิดเหมือนกับ จขกท แหละครับ ลองมาหมดทุกอย่างตามที่ จขกท บอก
คิดว่าตัวเองเข้าใจโลกมากขึ้น เข้าใจว่าทุกสิ่งมันเป็นอนิจจัง ทุกข์ อนัตตา แต่แล้ววันหนึ่งผมได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง
ผมรักเธอมากและเธอก็รักผมเช่นกัน เราสองคนสัญญากันว่าจะอยู่ร่วมทุกร่วมสุขกันไปจนวันตาย
แต่เธอก็มาจากผมไป ไปมีแฟนใหม่ ผมทุกใจ เจ็บปวดสุดๆ  พอถึงตรงนี้จึงรู้ตัวว่าใอ่สิ่งที่เราคิดว่าเราเข้าใจแล้วนั้น
มันไม่ใช้เลย ผมยังไม่เข้าใจอะไรเลย มันเป็นความเข้าใจแค่ผิวเผิน จนได้ประสบกับตัวเอง จึงได้รู้ว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไร
จริงอย่างที่คำว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ สิบมือคลำไม่เท่าทำเอง พอโดนเองจึงร้อง "ออเจ็บมันเป็นอย่างนี้"
ตอนนี้ผมก็ยังมีความคิดที่จะบวชเหมือนกันครับ แต่ติดตรงที่ภาระเยอะ ถ้าภาระเบาบางหรือหมดลงแล้วก็คงจะบวชศึกษาพระธรรมดีกว่าครับ.
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
..ถ้าจะบวช  ...ประเทศไทยนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว สำหรับคนไทย  โดยเฉพาะวัดป่ากรรมฐานทางภาคอีสาน ยอดเยี่ยมมากๆ  มีหลายร้อยวัด..

..คุณคิดจะไปธิเบตทำไม ...จะบ้าหรือ ??... ที่นั่นหนาวตลอดปีตลอดชาติ  อุณหภูมิติดลบต่ำกว่าจุดน้ำแข็ง  และอยู่ภายใต้การปกครองของจีนแดง  โดยบีบคั้นกดขี่มากมาย   ไม่เห็นข่าวหรือ  พระธิเบตต้องฆ่าตัวตาย  เผาตัวตายประท้วงรัฐบาลจีนอยู่บ่อยๆ  รายสุดท้าย ข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อน มีพระธิเบตเผาตัวตายไปอีกศพ เพื่อประท้วงการขดขี่ของรัฐบาลจีน  วัดในธิเบตทุกๆวัด  ต้องเอารูปของจอมโหดเหมาเจ๋อตุงมาตั้งเคียงคู่กับพระประธานในโบสถ์  เพื่อให้พระกราบไหว้ไปพร้อมๆกับการกราบพระพุทธรูป  ถ้าวัดไหนแอบไปปลดรูปของเหมาเจ๋อตุงออก  พระในวัดนั้นจะโดนลงโทษอย่างแรง  อาจจะถึงขั้นประหารชีวิต  หรือเฆี่ยนจนแทบตาย หรือจับไปขังคุกเป็นเวลานานๆหลายๆปี ...

..สมัยที่กองทัพคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋ดตุงบุกไปยึดประเทศธิเบต  ก็ฆ่าพระ เผาทำลายล้างวัด จนแทบหมดสิ้น  ที่ตอนนั้นมีวัดทั่วประเทศธิเบตเกือบหมื่นวัด  เหลือมาถึงตอนนี้ไม่ถึง ๑๐ วัด  โดนกองทัพแดงเผา ทำลายไปแทบเกลี้ยงกว่า ๙ พันวัด...ในประเทศจีนตอนนั้น วัดวาอาราม พระ  โดนกองทัพแดง ของเหมาเจ๋อตุง เผา ทำลายไปแทบหมดประเทศ ทำนองเดียวกัน.... ผลงานการฆ่าคนของเหมาเจ๋อตุง  คือ ทั้งการปฏิวัติวัฒนธรรม และการปฏิวัติทางเศรษฐกิจ  ได้สังหารคนจีนไปกว่า ๘๐ ล้านคน หลักฐานบางแห่งระบุว่า ถึง ๑๕๐ ล้านคน....เหมาเจ๋อตุงคือจอมโหดแห่งโลกนี้โดยแท้ ไม่มีใครเทียบได้  ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติทั้งมวล ... ถ้าคุณไปบวชที่ธิเบต  นอกจากคุณต้องเรียนภาษาธิเบต และต้องปรับตัวให้เคยชินกับอากาศที่หนาวสุดๆนั่นแล้ว  คุณต้องอดทนต่อการโดนกดขี่จากรัฐบาลจีนด้วย  ตลอดเวลา  และจะไม่มีป่าเขาที่คุณจะไปหาวิเวกเที่ยวธุดงค์ได้  ป่าไม้ ต้นไม้ หาแทบไม่เจอเลย  เพราะมีแต่เขาโล้น แห้ง  ทุ่งหญ้าหยอมๆแหยมๆ  หิมะ   และความหนาวอันสุดโหด

...เมืองไทย  นี่แหละเหมาะกับการบวชปฏิบัติธรรมที่สุด  คุณลองไปตระเวณเที่ยวดูตามวัดป่ากรรมฐานทางอีสาน สายหลวงปู่มั่น  คุณจะเจอวัดป่าที่ดีมากๆ หลายๆวัด  เหมาะสมต่อการฝึกภาวนา  มีครูบาอาจารย์ที่บรรลุคุณธรรมสูงๆ มากพอควร  คือ ท่านสามารถรู้ใจว่าคุณกำลังคิดอะไร  หรือแอบไปทำอะไรที่ไหนมา  โดยไม่มีใครบอก  แต่ท่านจะสามารถรู้ได้เอง... คุณลองไปดูซี ..แต่อย่างน้อย ถ้าคุณอยากจะไปบวชจริงๆ คุณต้องลองไปฝึกเป็นคนวัด  ถือศีล ๘  ปรนนิบัติรับใช้พระ  ฝึกอดทนต่อการสั่งสอน ดุด่า ต่างๆนานาก่อนสักนานๆหลายๆเดือน  ถ้าผ่านได้ค่อยขอบวชกับท่าน...

..การจะบวชได้นานหรือตลอด  คุณต้องฝึกให้จิตใจผ่านเรื่องกามราคะให้ได้  คือ ต้องฝึกพิจารณามองผู้หญิงให้เป็นอสุภะให้ได้   เช่น มองเห็นยายแก่อายุ ๙๐ ร่างกายดูอัปลักษณ์ขี้เหร่ กับ เห็นนางงาม อายุ ๑๘ ..มองให้เห็นว่า ๒ คนนี้ มีความสวยงามเท่ากัน หรือ อีกมุมหนึ่ง มองให้เห็นว่า ๒ คนนี้ มีความอัปลักษณ์ขี้เหร่ เท่ากัน...ถ้าคุณสามารถมองได้แบบนั้น  คุณจะบวชได้อย่างสบาย นานๆ จะฝึกธรรมะได้เจริญไปเรื่อยๆๆ และอาจจะบวชไปได้ตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่