ขอฝากถึงน้องๆ ที่กำลังเลือกเส้นทางชีวิต เข้ามหาวิทยาลัย ทุกๆ คนครับ

เอากันตรงๆ เลย อ้างอิงจากกระทู้ในเว็บเด็กดี ที่พูดถึงข้อจำกัดของการเรียนคณะ .. ใน ... มหาวิทยาลัย ^0^
ตัวผมเองไม่ได้อยู่คณะวิทยาศาสตร์นะครับ และก็ไม่ได้อยู่ในรั้วอุดมศึกษาเดียวกัน อยากให้เข้าใจว่าผมไม่มีเหตุผล หรือความจำเป็นต้องปกป้องสถาบันนี้ หรือสายวิชาชีพนี้

พูดถึงเลือกเส้นทางเดิน อาชีพในอนาคต แน่นอนครับ ทุกคนก็คงจะมองถึงอาชีพที่มั่นคง มีรายได้ดี มีเกิยรติในสังคม หลายๆ คนคงคิดทำนองว่าเราควรจะสอบเข้าคณะไหนดี มหาวิทยาลัยไหนที่ดังในด้านนั้น ก็คงจะเป็นผลดีต่อตัวเรา และอนาคตของเรา จบไปจะมีเงินเดือนสูง ดูสวยเท่ห์กันไปตามปกติของสังคมไทย ที่ปัจจุบันหลายๆ อย่างก็วัดคุณค่ากันที่มูลค่าของเงิน

แต่ในความเป็นจริง ชีวิตคนเรามันไม่ใช่แค่นั้นนะสิครับ มันยังอีกหลายอย่าง หลายปัจจัยที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของคนเราเป็นไปได้อย่างปกติสุข สมมติว่าน้องจบมาในคณะที่เงินเดือนสูงมาก อย่างเช่นแพทยศาสตร์ แต่สิ่งที่น้องต้องแลกมาคือเวลาที่ต้องอยู่บนวอร์ด รับผิดชอบต่อชีวิตคน ความกดดันต่อความผิดพลาด น้องรับมันได้มั้ย น้อง “ชอบ” มันมั้ย อุดมการณ์น้องคือการดูแลช่วยเหลือชีวิตคนหรือเปล่า พี่กล้าพูดได้เลย ว่าหลายคนที่ตั้งเป้าว่าจะทำงานเพียงเพื่อ”รายได้” เพียงอย่างเดียว เขาจะทำสิ่งนั้นได้ไม่นาน เพราะเมื่อไรที่แรงกระตุ้นจาก เงิน มันหมดไป ... .คนจำพวกที่มีเป้าหมายจากผลตอบแทน ก็จะหมดกำลังใจทำงาน เปรียบเสมือนรถหมดน้ำมัน และน้องก็ไม่มีกำลังใจจะลงไปเข็นด้วยตัวเองนะแหละ
ขณะเดียวกัน บางคนเป็นแพทย์เพราะอุดมการณ์ เพราะอุดมการณ์ที่จะช่วยเหลือคนที่ไม่มีโอกาสได้รักษา อุดมการณ์ที่จะเป็นแพทย์ที่ดีเพื่อพัฒนาสังคม คนแบบนี้ถามว่าเขาไม่สนรายได้เหรอ? ก็สนครับ แต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว เมื่อไรที่ไม่มีผลตอบแทนที่สูงค่านัก เขาก็ยังยืนยันที่จะยืนต่อในเส้นทางเดิม เพราะอุดมการณ์ของตัวเอง

ประเด็นก็คือ สุดท้ายแล้ว  คุณค่าของแต่ละอาชีพไม่ได้ขึ้นอยู่กับผลตอบแทนครับ แต่ขึ้นกับว่ามันมีขึ้นมาเพื่ออะไรต่างหาก

หากทั้งประเทศเรามีแต่แพทย์ ใครเอ่ย จะสร้างโรงพยาบาลให้แพทย์ทำการรักษา ใครเอ่ยจะช่วยแพทย์เข็นคนไข้ไปมาในโรงพยาบาล ใครล่ะที่จะทำก
อย่างผมเองเรียนในคณะวิศว ฯ และเพื่อนผมก็เรียนแพทย์อยู่ ทั้งผมและเพื่อนจะไม่มีองค์ความรู้ใดๆ เลยมาประกอบอาชีพ หากขาดซึ่งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็เกิดขึ้นเพราะนักวิทยาศาสตร์ หรือหมายถึงบุคคลผู้จบจากคณะวิทยาศาสตร์ ใช่มั้ย?

ขณะเดียวกัน คณะวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถทำให้ความรู้นั้นออกมาใช้ประโยชน์ได้ หากขาดซึ่งสายอาชีพอย่างวิศวกรรมศาสตร์ หรือ แพทยศาสตร์
แล้ววิศวกรจะทำงานได้อย่างไร หากไม่มีการดูแลบัญชีทางการเงิน และการประชาสัมพันธ์ผลงาน ซึ่งก็ต้องอาศัยคนที่จบจากบัญชี และศิลปศาสตร์

น้องเห็นมั้ย ว่าทุกๆ อาชีพเราพึ่งพาซึ่งกันและกัน ไม่มีใครหรอก ที่จะเหนือกว่าใคร
โลกนี้ก็เหมือนต้นไม้ขนาดใหญ่สักต้นครับ และทุกอาชีพต่างก็เป็นกิ่งก้านสาขา ที่จะดำรงให้ต้นไม้ เป็นต้นไม้อยู่ได้ หากขาดกิ่งใดไปสักกิ่งหนึ่ง โลกจะยังเป็นโลกที่สมบูรณ์อยู่ได้ยังไง ??

ถูกต้อง เงิน ผลตอบแทน เพื่อส่วนหนึ่งของการชี้คุณภาพชีวิต น้องจะกิน จะอยู่อย่างไร ขึ้นกับเงินที่น้องได้มา พี่ไม่เถียงน้องเลย แต่ความสุขของคนเราไม่ได้ขึ้นคุณภาพชีวิต น่ะครับ คนที่มีเงินหลายแสนล้าน แต่ไม่มีความสุข ต้องดิ้นรนรักษามันไว้ ก็มีมากมาย ขณะที่คนที่มีเงินน้อยนิด แต่ได้ใช้มันซื้อความสุขให้ตัวเอง กลับน่าอิจฉาซะกว่า

เพราะฉะนั้น น้องๆ ที่กำลังจะคิดถึงอาชีพ การเรียน หรือชีวิตของตัวเอง พี่อยากให้นึกถึงคำว่า  “ได้ทำงานที่รัก เหมือนมีเวลาพักไปทั้งชีวิต” ให้ดี ในมหาวิทยาลัย เวลาที่พี่สอนรุ่นน้อง พี่มักจะสอนให้น้องหาความสุข  และไม่เคยสอน ให้หาเงินเลย ^ ^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่