เหตุเกิดวันที่ 4/3/2557 เวลาประมาณ 20.00น. ได้เดินเข้าไปซื้อไม้แขวนเสื้อ ในร้านทุกอย่าง20บาท ซึ่งเป็นพื้นที่เช่า ด้านหน้าห้างโลตัส กัลปพฤกษ์ ขณะที่กำลังจะจ่ายเงินได้ยินเสียงรถชนกันอย่างดังด้านทางเข้าลานจอดรถ ที่ติดถนนกัลปพฤกษ์ จึงหันไปดู พบว่ามีรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีเขียว ทะเบียน พค9103 ได้ขับมาอย่างเร็วมากๆๆ ด้วยความตกใจกลัวจึงทิ้งไม้แขวนเสื้อแล้วรีบวิ่งเพื่อที่จะเข้าห้าง แต่วิ่งไม่ทันค่ะ รถคันดังกล่าวได้พุ่งเข้าชนร้านอย่างแรง จนของในร้านพังลงมา และตัวฉันเองได้รับบาดเจ็บจากสินค้าในร้านหล่นใส่ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นสินค้าอะไรที่หล่นลงมา แต่หัวแตก และขาขวามีบาดแผลถลอก ช้ำ บวม ตั้งแต่ต้นขาถึงข้อเท้า ส่วนขาซ้ายบริเวณต้นขา และสะโพก มีรอยฟกช้ำและถลอกแค่2ที่ หลังจากเกิดเหตุ คนขับรถก็ไม่ยอมลงจากรถ ทั้งที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย อีกคนเป็นผู้หญิง ขาขวาหัก แต่ไม่มีเลือดออกบริเวณอื่น อีกคนเป็นผู้ชาย เท้าขวามีเลือดเพราะโดนล้อรถทับ (รองเท้ายังเป็นรอยล้อรถอยู่เลยค่ะ) และสะโพกด้านซ้ายมีแผลขนาดใหญ่พอสมควร อาจจะถูกแก้ว หรือของมีคม หลังจากเกิดเหตุ ฉันวิ่งเข้าไปในโลตัสทั้งที่เลือดไหลจากหัวอาบทั้งตัว และพยายามบอกพนักงานและคนที่กำลังจ่ายเงิน ว่ามีรถชนร้านค้าด้านนอกพัง และมีคนขาหัก แต่ไม่มีใครสนใจค่ะ ตอนนั้นบอกได้ประมาณ3คน จนมีผู้ชายคนนึงกำลังจะจ่ายเงินที่แคชเชียร์ เค้าได้ถามฉันว่าเกิดไรขึ้น จึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แล้วเค้าก็โทรบอกแฟนฉันว่า ฉันถูกรถชนอยู่โลตัส หลังจากนั้นมีพยาบาลคนนึงซึ่งออกเวรแล้วมาช่วยเช็ดเลือด และห้ามเลือดให้ พอมีสติจึงโทรไปหา พตท.ท่านนึงที่ สน.บางขุนเทียนและเล่าเรื่องให้ฟัง ผ่านไปเกือบ ชม. ตำรวจและกู้ภัยก็มาถึง ในช่วงที่เหตุการณ์ชุลมุนไม่มีใครเห็นว่าคนขับลงมาตอนไหน แต่มีลุงคนนึงอายุประมาณ 60ปี มาแสดงตัวว่าเป็นคนขับ และคันเร่งค้าง เบรคไม่ได้เลย หลังจากนั้นกู้ภัยได้เข้าแกะ พรบ. ออกจากหน้ารถและนำคนเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.บางมด
เมื่อถึงรพ.บางมด จนท.ได้เข็นเข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากซักประวัติเรียบร้อย
พยาบาล : ต้องสำรองจ่ายก่อนนะ แล้วไปเบิกพรบ.ทีหลัง
กู้ภัย. : ทำไมต้องสำรองจ่าย ให้พรบ. จัดการสิ
พยาบาล: ยังไงก็ต้องสำรองจ่ายเพราะตำรวจและคู่กรณีไม่มา
ฉัน. : โทรกลับไปยัง พตท.
แล้วตำรวจจึงโทรกลับมายังห้องฉุกเฉิน ว่ารักษาได้เลย คู่กรณีกำลังให้ปากคำอยู่ที่ สน. ระหว่างผู้บาดเจ็บทั้ง3คน นอนรอเฉยๆในห้องฉุกเฉิน 1ชม.กว่าๆ แล้วหมอจึงเขียนใบให้แต่ละคนไปเอกซเรย์ กลับลงจึงเย็บแผลให้ และฉีดยากันบาดทะยักให้ (เกือบเที่ยงคืนแล้วค่ะ เหตุเกิดตั้งแต่2ทุ่ม) หลังจากนั้นได้ยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ แล้วให้กลับบ้าน ไม่ให้นอนรพ. เพราะพรบ.ไม่พอ คนขับรถไม่พูดไรเลยค่ะ มีแต่ลูกสาวเค้า ขอโทษ แล้วบอกว่ามันเหตุสุดวิสัยจิงๆ แล้วเค้าก็เดินออกจากรพ.ไป ทั้งที่เพิ่งมาตอนเที่ยงคืน
อยากทราบว่าต้องเรียกร้องค่าทำขวัญเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมคะ ทำงานไม่ได้ 7 วัน ขาดรายได้ 10,400 บาท ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 4000ค่ะ
คดีรถชน ควรเรียกค่าทำขวัญเท่าๆหร่จึงจะเหมาะสมคะ
เมื่อถึงรพ.บางมด จนท.ได้เข็นเข้าห้องฉุกเฉิน หลังจากซักประวัติเรียบร้อย
พยาบาล : ต้องสำรองจ่ายก่อนนะ แล้วไปเบิกพรบ.ทีหลัง
กู้ภัย. : ทำไมต้องสำรองจ่าย ให้พรบ. จัดการสิ
พยาบาล: ยังไงก็ต้องสำรองจ่ายเพราะตำรวจและคู่กรณีไม่มา
ฉัน. : โทรกลับไปยัง พตท.
แล้วตำรวจจึงโทรกลับมายังห้องฉุกเฉิน ว่ารักษาได้เลย คู่กรณีกำลังให้ปากคำอยู่ที่ สน. ระหว่างผู้บาดเจ็บทั้ง3คน นอนรอเฉยๆในห้องฉุกเฉิน 1ชม.กว่าๆ แล้วหมอจึงเขียนใบให้แต่ละคนไปเอกซเรย์ กลับลงจึงเย็บแผลให้ และฉีดยากันบาดทะยักให้ (เกือบเที่ยงคืนแล้วค่ะ เหตุเกิดตั้งแต่2ทุ่ม) หลังจากนั้นได้ยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ แล้วให้กลับบ้าน ไม่ให้นอนรพ. เพราะพรบ.ไม่พอ คนขับรถไม่พูดไรเลยค่ะ มีแต่ลูกสาวเค้า ขอโทษ แล้วบอกว่ามันเหตุสุดวิสัยจิงๆ แล้วเค้าก็เดินออกจากรพ.ไป ทั้งที่เพิ่งมาตอนเที่ยงคืน
อยากทราบว่าต้องเรียกร้องค่าทำขวัญเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมคะ ทำงานไม่ได้ 7 วัน ขาดรายได้ 10,400 บาท ค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 4000ค่ะ