.....ฟุตบอลลีกต่างประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากแฟนบอลในเมืองไทย ก็ยังคงปฏิเสธไม่ได้ ว่า พรีเมียร์ลีก คือลีกที่คอลูกหนังเมืองไทยให้ความสนใจมากที่สุด และฤดูกาล 2013-14 ก็มีบรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้น 4ทีมดังขวัญใจมหาชน อย่าง แมน ซิตี้ เชลซี ลิเวอร์พูล อาเซน่อล ก็ทำผลงานได้คู่คี่สูสีหายใจรดต้นคอกัน
ซึ่งถ้าเบียดกันใกล้เกินกว่านี้อีกหน่อย คงได้เสียเป็นผัวเมียกันแน่นอน และผ่านมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว
เกจิ อาจารย์ ยังเกากบาลกันยิกๆ ไม่กล้าฟันธงว่าทีมใดจะคว้าถ้วยไปในท้ายที่สุดได้
ไอ้ทีมที่ลุ้นแชมป์ก็ลุ้นกันไป
ส่วนไอ้ที่ลุ้นให้ทีมที่มีอดีตยิ่งใหญ่
เกาะอันดับเจ็ดไว้ เพื่อเป็นกลุ่มหัวแถวทีมกลางตารางท่ามกลางเสียงขบขันของผองเพื่อน ก็ว่ากันไป
แต่ฤดูกาลนี้ ถ้าติดตามความเคลื่อนไหวของทีมต่างๆมาตลอด จะเห็นได้ว่า มีเหตุการณ์หลายอย่างที่มีสีสันอยู่ไม่น้อย ผมเลยขอรวบรวมมาวิจารณ์เพื่อแต่งแต้มอารมณ์ให้ได้อ่านกัน ในวันที่ไม่มีแมทเตะของสโมสรอังกฤษ ............................อ๋อ ลืมไป คืนนี้มีนัด ที่ โอลิเปียกอส เปิดบ้านรอเชือด ทีม.........เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ เพราะขนาดแฟนๆของทีมนี้เอง ยังหันไปเชียร์มวยกันมากกว่า เห็นตะโกนกันทุกวันว่า
คอยมวย คอยมวย
คำว่า OVER แปลตามพจนานุกรม ฉบับไทยอังกฤษและสุภาษิตสอนหญิง(อันหลังไม่เกี่ยวแต่แค่อยากเขียนนะครับ) มีความหมายว่า มาก ,เกิน ,เหนือและฤดูกาล 2013-14 ก็มีหลายๆสิ่ง ที่
OVER “เกิน”กว่าความคาดหมายของคนทั่วไปอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผมจะจัดตามความรู้สึกของผมเอง ดังนี้
หลายๆดีลการซื้อขายในพรีเมียร์ โดยเฉพาะทีมใหญ่และทีมอดีตเคยยิ่งใหญ่ ค่อนข้างน่าแปลกใจไม่น้อย
1.ดีล
ฮวน มาตาร์ไม่อยากเป็นหางสิงห์ เลือกชิ่งๆไปเป็นหางหมา(หัวก็ไม่ได้เป็น) การที่มูริญโญ่ไม่พอใจนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร2ปีซ้อน นั้นก็น่าแปลกใจแล้ว แต่การที่แมนยูสิ้นไร้ไม้ตอก ถึงการไปอ้วนวอนคนที่เคยป่วนทีมตัวเอง เพื่อแย่งชิงสตาร์หมายเลขหนึ่งของทีมอย่าง รูนีย์ น่าแปลกใจกว่า ไม่รู้มันสมองฝั่งเพชรของโคตรกุนซืออย่างเดวิด มอยคิดได้อย่างไร ซึ่งโอเค ค่าตัว 37 ล้านปอนด์ก็เหมาะสมกับชื่อชั้นของมาต้า แต่การจับเพลย์เมคเกอร์เบอร์ต้นๆของลีก ไปยืนฉีก
เกาไข่ไร้ประโยชน์อยู่ริมเส้นแบบทุกวันนี้ นั้นก็เกินความความหมายของแฟนบอล
2.
ดีล ซัวเรส กับ 40ล้าน+1ปอนด์ ด้วยราคาที่อาเซน่อลยื่นมาให้ลิเวอร์พูลพิจารณาเพื่อเป็นค่าตัวของ “
คิงส์เหยิน” ทำให้ John W. Henry เจ้าของทีมถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พร้อมสบถมาเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงเสียงของสมบัติ เมธีนีว่า “
อ่า...มันช่าง บัดซับจริงๆเลยยยยย” และนั้นทำให้ทัพปืนโตพลาดโอกาสที่จะคว้าศูนย์หน้าชั้นเยี่ยมไปร่วมทีม เพราะการล้อเล่นโง่ๆ กับ ดีลที่ OVER ค่าตัวแค่ ปอนด์เดียว
3.
ดีล โอซิล เป็นการซื้อขายบิ๊คเนมที่น่าแปลกใจในฤดูกาลนี้เมื่อทีมขี้ตืดอย่างอาเซนอลยอมแคะกระปุกทุ่มซื้อ “
นักเตะอัมพฤกษ์ทางใจ” ด้วยจำนวนมากมายจนกลายเป็นสถิติสโมสร แม้ค่าตัว 42 ล้านปอนด์จะไม่สูงเกินจริงจากการกระชากตัวแอชซิสอันดับหนึ่งของมาดริดมาร่วมทีม แต่ 42 ล้านปอนด์ดูจะสูงเกินไป กับการลงทุนเพื่อนักเตะที่สภาพจิตใจเปราะบาง เซ็นซิทีฟอ่อนไหวง่ายกับคำวิจารณ์ และแบกรับความกดดันไม่ไหวจนแพ้ใจตัวเองฟอร์มแผ่วไปดื้อๆ
และน่าจะดีกว่าไหม หากนำเงิน 42 ล้านปอนด์นี้ไปแก้จุดอ่อนถาวรของอาเซน่อลคือแก้ปัญหา “
โรคเดี้ยง”ของนักเตะ เอาเศษเสี้ยวเงินบางส่วนของค่าตัวโอซิล มาจ้างเทรนเนอร์ฝีมือดี จากค่าย
เกียรติบ้านช่อง หรือ
หนองกี่พาหุยุทธก็ได้ มารักษาโรคขาแข้งอ่อน กระดูกเปาะตอนปลายฤดูกาลที่เจอมาตลอด หรือไม่ก็เปลี่ยนสปอนเซอร์ไปเลย จาก อมิเรตส์ แอร์ไลน์ ไปเป็นพวก
โสมเกาหลีตราตั๋งกุยจับ หรือยา
สมุนไพรตราหมอเส็ง นักเตะจะได้มีวิตามินครบถ้วน ไม่ใช่เดี๋ยวเดี้ยง เดี๋ยวเจ็บ แบบทุกวันนี้
4.
ดีล โมฮัมเหม็ด ซาเล่ห์ 16 ล้านปอนด์ถือว่าไม่มากสำหรับทีมเงินถังอย่าเซลซี แต่ดีล นี้เกินความคาดหมายที่ว่า “
เมิงกล้าจ่ายเงิน 16 ล้านเพื่อเอาไปนั่งปรับโครงสร้างกระดูกสันหลังที่ม้านั่งสำรองหรือ” คำในไฮไลท์บอกความในใจผมไปหมดแล้ว กลัวใจจริงๆกับชายที่ชื่อ มูริญโญ่ แค่หวังตัดกำลังคู่แข้ง ถึงกลับส่งมาต้าที่ตัวเองเห็นว่ากำลังจะดับไปบ่อนทำลายผี แถมยังปาดหน้าหงส์ด้วยการซื้อแข้งมานั่งสำรอง
5.
เงินค่าเหนื่อย 300000 ปอนด์ต่อวีค เพื่อแลกกับลายเซ็นต่อสัญญาของ รูนีย์ นั้นอาจเป็นจุดเริ่มของหายนะทางการเงินของสโมสร และเป็นจุดที่ต่อรองได้ยากหากต้องการเสริมนักเตะสตาร์ดังจากทีมอื่นเข้ามาร่วมทีม เอาง่ายๆแค่ 2 นักเตะดังที่มีข่าวพัวพันกับแมนยูในช่วงนี้ อย่าง โทนี่ โคลส จะเรียกร้องค่าเหนื่อยเท่าไรหากจะย้ายมาอยู่แมนยู แล้วนักเตะดังอย่าง คาวานี่ที่แมนยูหมายมั่นปั้นมืออยากได้อีกล่ะ จะต้องจ่ายเท่าไร เพราะรูนีย์ จัดเป็นนักเตะโอเวอร์เรท ที่ยกย่องกันเองจนเกินฝีตีน บ้างก็บอกเป็นศูนย์หน้าระดับเดียวกับ เมสซี โรนัลโด้ สลาตัน แต่ทุกวันนี้ ยังยิงประตูได้น้อยกว่า สากกะเบือ อย่างชิรูด์ ประโยชน์ต่อทีมก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร เพราะจำนวนการแอชซิสของชิรูด์(7)ก็ไม่ได้ถูกรูนีย์(10)ทิ้งห่างมากนัก ดีลนี้ถือเป็น
Deal OverRate ที่จ่ายเงินเกินความสามารถนักเตะ
ป.ล.อาจจะสาระบ้าง อาจจะจิกกัดบ้าง ก็ถือเป็นการบลัฟกันขำๆนะครับ อย่าจริงจังซีเรียสแสดงความเห็นจนถึงขั้นเกลียดชังกันเลย ขอบคุณครับ
ปากดีวิจารณ์ 5 ปรากฏการณ์ OVER DEAL ใน FA Premier League
ไอ้ทีมที่ลุ้นแชมป์ก็ลุ้นกันไป
ส่วนไอ้ที่ลุ้นให้ทีมที่มีอดีตยิ่งใหญ่ เกาะอันดับเจ็ดไว้ เพื่อเป็นกลุ่มหัวแถวทีมกลางตารางท่ามกลางเสียงขบขันของผองเพื่อน ก็ว่ากันไป
แต่ฤดูกาลนี้ ถ้าติดตามความเคลื่อนไหวของทีมต่างๆมาตลอด จะเห็นได้ว่า มีเหตุการณ์หลายอย่างที่มีสีสันอยู่ไม่น้อย ผมเลยขอรวบรวมมาวิจารณ์เพื่อแต่งแต้มอารมณ์ให้ได้อ่านกัน ในวันที่ไม่มีแมทเตะของสโมสรอังกฤษ ............................อ๋อ ลืมไป คืนนี้มีนัด ที่ โอลิเปียกอส เปิดบ้านรอเชือด ทีม.........เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ เพราะขนาดแฟนๆของทีมนี้เอง ยังหันไปเชียร์มวยกันมากกว่า เห็นตะโกนกันทุกวันว่า คอยมวย คอยมวย
คำว่า OVER แปลตามพจนานุกรม ฉบับไทยอังกฤษและสุภาษิตสอนหญิง(อันหลังไม่เกี่ยวแต่แค่อยากเขียนนะครับ) มีความหมายว่า มาก ,เกิน ,เหนือและฤดูกาล 2013-14 ก็มีหลายๆสิ่ง ที่ OVER “เกิน”กว่าความคาดหมายของคนทั่วไปอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผมจะจัดตามความรู้สึกของผมเอง ดังนี้
หลายๆดีลการซื้อขายในพรีเมียร์ โดยเฉพาะทีมใหญ่และทีมอดีตเคยยิ่งใหญ่ ค่อนข้างน่าแปลกใจไม่น้อย
1.ดีล ฮวน มาตาร์ไม่อยากเป็นหางสิงห์ เลือกชิ่งๆไปเป็นหางหมา(หัวก็ไม่ได้เป็น) การที่มูริญโญ่ไม่พอใจนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร2ปีซ้อน นั้นก็น่าแปลกใจแล้ว แต่การที่แมนยูสิ้นไร้ไม้ตอก ถึงการไปอ้วนวอนคนที่เคยป่วนทีมตัวเอง เพื่อแย่งชิงสตาร์หมายเลขหนึ่งของทีมอย่าง รูนีย์ น่าแปลกใจกว่า ไม่รู้มันสมองฝั่งเพชรของโคตรกุนซืออย่างเดวิด มอยคิดได้อย่างไร ซึ่งโอเค ค่าตัว 37 ล้านปอนด์ก็เหมาะสมกับชื่อชั้นของมาต้า แต่การจับเพลย์เมคเกอร์เบอร์ต้นๆของลีก ไปยืนฉีกเกาไข่ไร้ประโยชน์อยู่ริมเส้นแบบทุกวันนี้ นั้นก็เกินความความหมายของแฟนบอล
2.ดีล ซัวเรส กับ 40ล้าน+1ปอนด์ ด้วยราคาที่อาเซน่อลยื่นมาให้ลิเวอร์พูลพิจารณาเพื่อเป็นค่าตัวของ “คิงส์เหยิน” ทำให้ John W. Henry เจ้าของทีมถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พร้อมสบถมาเป็นภาษาไทยด้วยสำเนียงเสียงของสมบัติ เมธีนีว่า “อ่า...มันช่าง บัดซับจริงๆเลยยยยย” และนั้นทำให้ทัพปืนโตพลาดโอกาสที่จะคว้าศูนย์หน้าชั้นเยี่ยมไปร่วมทีม เพราะการล้อเล่นโง่ๆ กับ ดีลที่ OVER ค่าตัวแค่ ปอนด์เดียว
3.ดีล โอซิล เป็นการซื้อขายบิ๊คเนมที่น่าแปลกใจในฤดูกาลนี้เมื่อทีมขี้ตืดอย่างอาเซนอลยอมแคะกระปุกทุ่มซื้อ “นักเตะอัมพฤกษ์ทางใจ” ด้วยจำนวนมากมายจนกลายเป็นสถิติสโมสร แม้ค่าตัว 42 ล้านปอนด์จะไม่สูงเกินจริงจากการกระชากตัวแอชซิสอันดับหนึ่งของมาดริดมาร่วมทีม แต่ 42 ล้านปอนด์ดูจะสูงเกินไป กับการลงทุนเพื่อนักเตะที่สภาพจิตใจเปราะบาง เซ็นซิทีฟอ่อนไหวง่ายกับคำวิจารณ์ และแบกรับความกดดันไม่ไหวจนแพ้ใจตัวเองฟอร์มแผ่วไปดื้อๆ
และน่าจะดีกว่าไหม หากนำเงิน 42 ล้านปอนด์นี้ไปแก้จุดอ่อนถาวรของอาเซน่อลคือแก้ปัญหา “โรคเดี้ยง”ของนักเตะ เอาเศษเสี้ยวเงินบางส่วนของค่าตัวโอซิล มาจ้างเทรนเนอร์ฝีมือดี จากค่าย เกียรติบ้านช่อง หรือ หนองกี่พาหุยุทธก็ได้ มารักษาโรคขาแข้งอ่อน กระดูกเปาะตอนปลายฤดูกาลที่เจอมาตลอด หรือไม่ก็เปลี่ยนสปอนเซอร์ไปเลย จาก อมิเรตส์ แอร์ไลน์ ไปเป็นพวก โสมเกาหลีตราตั๋งกุยจับ หรือยาสมุนไพรตราหมอเส็ง นักเตะจะได้มีวิตามินครบถ้วน ไม่ใช่เดี๋ยวเดี้ยง เดี๋ยวเจ็บ แบบทุกวันนี้
4.ดีล โมฮัมเหม็ด ซาเล่ห์ 16 ล้านปอนด์ถือว่าไม่มากสำหรับทีมเงินถังอย่าเซลซี แต่ดีล นี้เกินความคาดหมายที่ว่า “เมิงกล้าจ่ายเงิน 16 ล้านเพื่อเอาไปนั่งปรับโครงสร้างกระดูกสันหลังที่ม้านั่งสำรองหรือ” คำในไฮไลท์บอกความในใจผมไปหมดแล้ว กลัวใจจริงๆกับชายที่ชื่อ มูริญโญ่ แค่หวังตัดกำลังคู่แข้ง ถึงกลับส่งมาต้าที่ตัวเองเห็นว่ากำลังจะดับไปบ่อนทำลายผี แถมยังปาดหน้าหงส์ด้วยการซื้อแข้งมานั่งสำรอง
5.เงินค่าเหนื่อย 300000 ปอนด์ต่อวีค เพื่อแลกกับลายเซ็นต่อสัญญาของ รูนีย์ นั้นอาจเป็นจุดเริ่มของหายนะทางการเงินของสโมสร และเป็นจุดที่ต่อรองได้ยากหากต้องการเสริมนักเตะสตาร์ดังจากทีมอื่นเข้ามาร่วมทีม เอาง่ายๆแค่ 2 นักเตะดังที่มีข่าวพัวพันกับแมนยูในช่วงนี้ อย่าง โทนี่ โคลส จะเรียกร้องค่าเหนื่อยเท่าไรหากจะย้ายมาอยู่แมนยู แล้วนักเตะดังอย่าง คาวานี่ที่แมนยูหมายมั่นปั้นมืออยากได้อีกล่ะ จะต้องจ่ายเท่าไร เพราะรูนีย์ จัดเป็นนักเตะโอเวอร์เรท ที่ยกย่องกันเองจนเกินฝีตีน บ้างก็บอกเป็นศูนย์หน้าระดับเดียวกับ เมสซี โรนัลโด้ สลาตัน แต่ทุกวันนี้ ยังยิงประตูได้น้อยกว่า สากกะเบือ อย่างชิรูด์ ประโยชน์ต่อทีมก็ไม่แตกต่างกันเท่าไร เพราะจำนวนการแอชซิสของชิรูด์(7)ก็ไม่ได้ถูกรูนีย์(10)ทิ้งห่างมากนัก ดีลนี้ถือเป็น Deal OverRate ที่จ่ายเงินเกินความสามารถนักเตะ
ป.ล.อาจจะสาระบ้าง อาจจะจิกกัดบ้าง ก็ถือเป็นการบลัฟกันขำๆนะครับ อย่าจริงจังซีเรียสแสดงความเห็นจนถึงขั้นเกลียดชังกันเลย ขอบคุณครับ