ในช่วงเวลาค่ำหลังจาก เดินเล่นชมรอบ ๆ เมืองแล้ว คงถึงเวลาที่กล่าวราตรีสวัสดิ์ ..แต่ทำไมหนอ เราถึงยังหลับไม่ลง และในเมื่อหลับไม่ลง คงต้องหาเพื่อนคุย มองซ้ายมองขวาแล้ว ทั้งห้องพักเห็นอยู่คนเดียว คือเราเองพร้อมกลอนประตูที่ล็อกได้ 3 จากบนลงล่าง ... ก็เลยตัดสินใจส่งเมลและรูปภาพไปที่ ประเทศอเมริกาให้ใครบางคนได้รับรู้เรื่องราวของเรา และนี่คือข้อดีของเชียงคานค่ะ คือทุกทีมี WIFI เพราะฉะนั้นถึงเราอยากจะพักผ่อนเราก็ยังคงอยากให้ใครบางคนและเพื่อน ๆ ได้รับรู้ว่าเรายังไม่ได้หายไปไหน ระหว่างเล่าเรื่องราวไป ก็ยังบอกคนทางนู้นว่า เธอต้องออนไลน์ไว้นะ ฉันจะได้ไม่เหงา ( เผลอตัวออกคำสั่งไปนิดนึงแต่ไม่เป็นไรหรอกคะเพราะถึงเขาบ่นกลับมาป็นภาษาอังกฤษ เราก็แกล้งอ่านไม่ออกและไม่เข้าใจในบางครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ) เพื่อนตอบกลับมาว่า เธออย่ากระโดดลงไปในแม่น้ำนะ...และเราก็เผลอหลับ ตื่นมาอีกครั้งก็ตี 5 เลยจัดการอาบน้ำแต่งตัวลงมารอตักบาตรข้าวเหนียวซึ่งให้ทางคุณลุงและคุณป้าเจ้าของที่พักจัดเตรียมให้ พอลงมาที่ถนนด้านหน้าที่พัก สายตาเลือบมองเห็น ฝั่งตรงข้ามแม่ค้าแสนสวยกำลังตั้งหน้าตั้งตาปิ้งข้าวจี่ ส่วนเราก็ตั้งหน้าเดินตรงไปเตาข้าวจี่ พร้อมซื้อข้าวจี่ไว้สำหรับตักบาตรและทานเองด้วย วันนี้แม่ค้าคนสวยบอกว่า งาดำหมดเราเลยได้ทานข้าวจี่ผสมสาหร่ายร้อน ๆ อร่อยมากค่ะ
ละเมื่อถึงเวลาตักบาตรข้างเหนียวได้มาถึง ความสงบในจิตใจได้พัดผ่านเข้ามาถึงเราเมื่อการเดินทางมาถึงของธรรมมะ.... และนั่นคือช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในเชียงคานสำหรับเรา...............
หลังจากตัดบาตรข้าวเหนียวเสร็จ เราก็กระโดดขึ้นรถสกายแล็ปที่เราจองไว้แล้วพร้อมน้องต้นคนขับผู้น่ารัก เพื่อที่จะได้ไปทันขึ้นภูทอก
และเมื่อเราไปถึงภูทอก เราก็ซื้อบัตรและรอต่อคิว ซึ่งเราเจอกับคณะทัวร์จากใต้พอดี ทุกคนยิ้มแย้มและพูดคุยกัน รวมทั้งเราก็ส่งยิ้มให้ด้วย จนบางท่านอาจจะคิดว่าทีมเดียวกันแต่เปล่าเลย เรามาคนเดียว
หลังจากภูทอก เราไปที่แก่งคุดคู้ ระหว่างที่เรากำลังเดินชมความงามของแก่ง เราเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นเวลานาน และทำให้เราคิดไปว่า เธออาจจะมีเรื่องทุกข์ใจ และเมื่อเวลาผ่านไปเธอเดินตรงมาที่เราและพูดว่า
ขอโทษค่ะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ อยู่ที่นี่มานานแต่ไม่เคยถ่ายรูปที่ตรงนี้เลย
เราตอบกลับไปว่าได้ค่ะ และเราพูดคุยกันอีกนิดหน่อย
เมื่อเธอเดินจากไป หลังจากการพูดคุย ทำให้เราคิดไปว่า...เมื่อความทุกข์พัดผ่านเข้ามาสู่ช่วงชีวิตของคนเรา สิ่งทีทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นคือ การยอมรับมันอย่างมั่นคง......และออกเดินทางสู่การผจญภัยของชีวิตใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น...
และหลังจากนั้นเราซื้อหาของฝากเป็นมะพร้าวแก้วแสนอร่อยและเดินทางชมวัดต่าง ๆ ก่อนกลับที่พัก
กลับเข้าที่พักแล้วเตรียมตัวออกไปเดินเล่นและหาของอร่อย ๆ รับประทาน และเข้านอนเพื่อเดินทางกลับโคราช ถิ่นที่จากมาก จาก โคราช พัทยา เลย เชียงคาน และโคราช ขอขอบคุณหลานรักที่ทำให้อานตี้ของหลานได้ท่องเที่ยวดังใจหวังเสมอมาและตลลอดไป
รัก อานตี้ของหลาน
ปล.ภาพถ่ายตัวเองแบบที่เห็น Selfie ( การถ่ายรูปตัวเอง ) เนื่องด้วยเราไปคนเดียวก็เลยไม่มีช่างภาพเป็นของตัวเองและเพื่อต้องการเก็บความทรงจำไว้ selfie ก็เลยเกิดขึ้นกับเราด้วย
ขอบคุณค่ะ
รอยยิ้มของเด็ก ๆ ผ่านร้านกาแฟแสนสวย
สถานที่รอบ ๆ
ตักบาตรข้าวเหนียว
เตรียมตัวตักบาตร
ภูทอก
ต้องถ่ายภาพที่นี่เมื่อถึงภูทอก
แก่งคุดคู้
หญิงสาว
ของฝากและรถสกายแล็ปคู่ใจ
วัดในเชียงคาน
วัดในเชียงคาน
นั่งพักผ่อน
เสื้อที่ซื้อมาจากเชียงคาน
จากหุ่นก็มาที่ตัวเรา ซื้อเสร็จวันรุ่งขึ้นเราก็ใส่และกลับไปที่ร้านเพื่อขอบคุณเจ้าของร้าน ที่ทำให้เราสวยขึ้นเมื่อใส่เสื้อที่พวกเขาขาย
ทานก๋วยเตี๋ยวของโปรด
ร้านนวดแผนไทยแสนสบาย
เขียนโปสการ์ดถึงตัวเอง
ซื้อของฝาก
สถานที่ที่ทุกคนต้องมอง
สถานที่แสนสวย
ป้ายบอกเส้นทาง
เชียงคาน
ร้านเสื้อของหนุ่มน้อย
วงดนตรแสนน่ารัก
โปสการ์ด
กลับแล้วค่ะ
[CR] รอยยิ้มที่เชียงคาน ตอน 2 เพียงเธอที่เชียงคาน
ละเมื่อถึงเวลาตักบาตรข้างเหนียวได้มาถึง ความสงบในจิตใจได้พัดผ่านเข้ามาถึงเราเมื่อการเดินทางมาถึงของธรรมมะ.... และนั่นคือช่วงเวลาที่งดงามที่สุดในเชียงคานสำหรับเรา...............
หลังจากตัดบาตรข้าวเหนียวเสร็จ เราก็กระโดดขึ้นรถสกายแล็ปที่เราจองไว้แล้วพร้อมน้องต้นคนขับผู้น่ารัก เพื่อที่จะได้ไปทันขึ้นภูทอก
และเมื่อเราไปถึงภูทอก เราก็ซื้อบัตรและรอต่อคิว ซึ่งเราเจอกับคณะทัวร์จากใต้พอดี ทุกคนยิ้มแย้มและพูดคุยกัน รวมทั้งเราก็ส่งยิ้มให้ด้วย จนบางท่านอาจจะคิดว่าทีมเดียวกันแต่เปล่าเลย เรามาคนเดียว
หลังจากภูทอก เราไปที่แก่งคุดคู้ ระหว่างที่เรากำลังเดินชมความงามของแก่ง เราเหลือบไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำเป็นเวลานาน และทำให้เราคิดไปว่า เธออาจจะมีเรื่องทุกข์ใจ และเมื่อเวลาผ่านไปเธอเดินตรงมาที่เราและพูดว่า
ขอโทษค่ะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ อยู่ที่นี่มานานแต่ไม่เคยถ่ายรูปที่ตรงนี้เลย
เราตอบกลับไปว่าได้ค่ะ และเราพูดคุยกันอีกนิดหน่อย
เมื่อเธอเดินจากไป หลังจากการพูดคุย ทำให้เราคิดไปว่า...เมื่อความทุกข์พัดผ่านเข้ามาสู่ช่วงชีวิตของคนเรา สิ่งทีทำได้ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นคือ การยอมรับมันอย่างมั่นคง......และออกเดินทางสู่การผจญภัยของชีวิตใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น...
และหลังจากนั้นเราซื้อหาของฝากเป็นมะพร้าวแก้วแสนอร่อยและเดินทางชมวัดต่าง ๆ ก่อนกลับที่พัก
กลับเข้าที่พักแล้วเตรียมตัวออกไปเดินเล่นและหาของอร่อย ๆ รับประทาน และเข้านอนเพื่อเดินทางกลับโคราช ถิ่นที่จากมาก จาก โคราช พัทยา เลย เชียงคาน และโคราช ขอขอบคุณหลานรักที่ทำให้อานตี้ของหลานได้ท่องเที่ยวดังใจหวังเสมอมาและตลลอดไป
รัก อานตี้ของหลาน
ปล.ภาพถ่ายตัวเองแบบที่เห็น Selfie ( การถ่ายรูปตัวเอง ) เนื่องด้วยเราไปคนเดียวก็เลยไม่มีช่างภาพเป็นของตัวเองและเพื่อต้องการเก็บความทรงจำไว้ selfie ก็เลยเกิดขึ้นกับเราด้วย
ขอบคุณค่ะ
รอยยิ้มของเด็ก ๆ ผ่านร้านกาแฟแสนสวย
สถานที่รอบ ๆ
ตักบาตรข้าวเหนียว
เตรียมตัวตักบาตร
ภูทอก
ต้องถ่ายภาพที่นี่เมื่อถึงภูทอก
แก่งคุดคู้
หญิงสาว
ของฝากและรถสกายแล็ปคู่ใจ
วัดในเชียงคาน
วัดในเชียงคาน
นั่งพักผ่อน
เสื้อที่ซื้อมาจากเชียงคาน
จากหุ่นก็มาที่ตัวเรา ซื้อเสร็จวันรุ่งขึ้นเราก็ใส่และกลับไปที่ร้านเพื่อขอบคุณเจ้าของร้าน ที่ทำให้เราสวยขึ้นเมื่อใส่เสื้อที่พวกเขาขาย
ทานก๋วยเตี๋ยวของโปรด
ร้านนวดแผนไทยแสนสบาย
เขียนโปสการ์ดถึงตัวเอง
ซื้อของฝาก
สถานที่ที่ทุกคนต้องมอง
สถานที่แสนสวย
ป้ายบอกเส้นทาง
เชียงคาน
ร้านเสื้อของหนุ่มน้อย
วงดนตรแสนน่ารัก
โปสการ์ด
กลับแล้วค่ะ