“เฉินฮุ่ยหลิน” นักแสดงชื่อดังปรากฏตัวอย่างมั่นใจในงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธอเองอย่าง Horseplay ที่กรุงปักกิ่ง งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อค่อนข้างมากหลังเห็นรอยแผลขนาดยาวที่หน้าผากของนักแสดงสาวไม่ต่างจากตัวละครแฮร์รี พอตเตอร์ เลยทีเดียว
เฉินฮุ่ยหลิน นักแสดงวัย 41 ปี ชาวฮ่องกง ได้ระบุถึงสาเหตุที่มารอยแผลกลางหน้าผากของเธอว่า เกิดจากโดนกระจกบาดขณะที่เธอไม่ทันระวังชนเข้ากับกระจกขณะกำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า
โดยเฉินฮุ่ยหลิน ได้ย้อนถึงเหตุการณ์วันนั้นด้วยว่า “แม้ว่ามันจะเจ็บมากๆ แต่ฉันก็ไม่ไปหาหมอค่ะ ฉันแค่พยายามห้ามเลือดด้วยตัวเองไม่ให้มันไหลออกมาเยอะ”
โดยเธอยังเผยต่อไปด้วยว่าเธอต้องอดทนกับความเจ็บปวดและไม่ร้องไห้ออกมาเพราะว่าต้องการให้เรื่องนี้เป็นการสอนลูกชายไปในตัวด้วย ให้กล้าหาญอดทน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องรอยแผลมากเท่าใดนัก
“ฉันก็กลัวนะคะว่ามันอาจจะเป็นรอยแผลเป็น แต่อย่างไรก็ ฉันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ฉันยังต้องอยู่ที่จีนเพื่อโปรโมทหนังต่อไปแล้วก็กลับไปฮ่องกงอาทิตย์หน้าค่ะ”
แม้จะเกิดอุบัติเหตุจนหวิดเสียโฉม แต่เจ้าตัวก็ยังอารมณ์ขันมองโลกในแง่ดี โดยกล่าวปิดท้ายว่า “ยังไงฉันก็หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะโด่งดังแดงเดือด เหมือนกับหน้าผากฉันนะคะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000030951
“เฉินฮุ่ยหลิน” หวิดเสียโฉมกระจกบาดหน้าเจ้าตัวไม่หวั่นออกงานโชว์แผลยาว
“เฉินฮุ่ยหลิน” นักแสดงชื่อดังปรากฏตัวอย่างมั่นใจในงานเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเธอเองอย่าง Horseplay ที่กรุงปักกิ่ง งานนี้ได้รับความสนใจจากสื่อค่อนข้างมากหลังเห็นรอยแผลขนาดยาวที่หน้าผากของนักแสดงสาวไม่ต่างจากตัวละครแฮร์รี พอตเตอร์ เลยทีเดียว
เฉินฮุ่ยหลิน นักแสดงวัย 41 ปี ชาวฮ่องกง ได้ระบุถึงสาเหตุที่มารอยแผลกลางหน้าผากของเธอว่า เกิดจากโดนกระจกบาดขณะที่เธอไม่ทันระวังชนเข้ากับกระจกขณะกำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า
โดยเฉินฮุ่ยหลิน ได้ย้อนถึงเหตุการณ์วันนั้นด้วยว่า “แม้ว่ามันจะเจ็บมากๆ แต่ฉันก็ไม่ไปหาหมอค่ะ ฉันแค่พยายามห้ามเลือดด้วยตัวเองไม่ให้มันไหลออกมาเยอะ”
โดยเธอยังเผยต่อไปด้วยว่าเธอต้องอดทนกับความเจ็บปวดและไม่ร้องไห้ออกมาเพราะว่าต้องการให้เรื่องนี้เป็นการสอนลูกชายไปในตัวด้วย ให้กล้าหาญอดทน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่ได้กังวลเรื่องรอยแผลมากเท่าใดนัก
“ฉันก็กลัวนะคะว่ามันอาจจะเป็นรอยแผลเป็น แต่อย่างไรก็ ฉันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ฉันยังต้องอยู่ที่จีนเพื่อโปรโมทหนังต่อไปแล้วก็กลับไปฮ่องกงอาทิตย์หน้าค่ะ”
แม้จะเกิดอุบัติเหตุจนหวิดเสียโฉม แต่เจ้าตัวก็ยังอารมณ์ขันมองโลกในแง่ดี โดยกล่าวปิดท้ายว่า “ยังไงฉันก็หวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะโด่งดังแดงเดือด เหมือนกับหน้าผากฉันนะคะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9570000030951