จากวัดนักบุญอันนา สู่บ้านลุงโฮ ... นครพนม เมืองสงบ ริมฝั่งโขง

บ่ายจัดแล้ว ผมยังอยู่ที่วัดนักบุญอันนา หนองแสง ยืนคุยกับช่างรับเหมาที่มาบูรณะ อาคารที่วัดแห่งนี้ ช่างบอกว่า ทางวัดก็ทำไปเรื่อย ๆ ตามกำลังเงิน ที่ได้รับบริจาคมา หากใครสนใจจะร่วมบูรณะอาคารในวัด สามารถติดต่อบริจาคได้โดยตรง กับทางคุณพ่อเจ้าอาวาสได้โดยตรง

และเพราะเป็นช่วงบ่ายจัด ทำให้การถ่ายภาพโบสถ์ของวัด ทำได้ยากมาก เพราะมุมที่จะถ่าย เจอกับดวงอาทิตย์ดวงโต ก็เลยทำให้เก็บภาพได้ไม่มากอย่างที่คิดไว้ อีกอย่าง ผมต้องทำเวลา ที่จะปั่นจักรยาน ไปบ้านลุงโฮ ซึ่งอยู่ออกไปนอกเมืองอีกด้านหนึ่ง จะว่าไกลก็ไม่เท่าไร แต่เนื่องจากปั่นจักรยาน มาตั้งแต่ตะวันขึ้น จนนี่ตะวันใกล้จะตก สังขารเริ่มจะไม่อำนวยแล้ว

ทางไปบ้านลุงโฮ เป็นทางขึ้นเนินค่อนข้างยาว แม้ไม่สูงมากนัก แต่ก็กินแรงคนแก่ได้ไม่น้อย ดีว่า จักรยานที่น้อง ๆ ที่ the river ช่วยติดต่อหาเช่าให้ เป็นจักรยานที่ดีพอสมควร การทดเกียร์ให้เหมาะ ทำให้ไม่ต้องลงจูงให้เป็นที่อับอายผู้คน 5555

ถึงบ้านลุงโฮ ก็ใกล้ค่ำแล้ว เก็บภาพได้นิดเดียว คุยกับคุณพี่ผู้ชายได้อีกหน่อย คุณพี่ผู้หญิง ซึ่งเป็นรุ่นหลาน ของญาติลุงโฮ เข้ามาทักว่า เมื่อเช้าเห็นผมขี่จักรยาน ถ่ายรูปอยู่ที่ตลาดด้วย ... และบอกผมว่า ให้รีบกลับได้แล้ว เดี๋ยวจะค่ำ ตอนขี่กลับจะต้องผ่านป่าช้า ... พี่ผู้ชายบอกว่า ไม่ต้องกลัว ไม่อะไรหรอก แต่ผมเชื่อพี่ผู้หญิงมากกว่า ว่าควรจะกลับได้แล้ว หุ หุ

เรื่องราว ความเป็นมา ของบ้านลุงโฮ แห่งบ้านนาจอก ผมคงไม่ต้องกล่าวถึงตรงนี้นะ เพราะสามารถหาได้ทั่วไปทางเน็ตอยู่แล้ว แต่บ้านที่ตั้งอยู่ ณ เวลานี้ เป็นบ้านที่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ แทนบ้านเก่าที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงเค้าเดิมไว้เท่าที่จะทำได้ รวมทั้ง ต้นไม้ยืนต้นต่าง ๆ ที่บุคคลร่วมสมัย จำได้ ก็มีป้ายปักเอาไว้

เอาเป็นว่า ตามผมไปดู ด้วยรูป แล้วกันนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่