สักวา แต่เก่าก่อน ย้อนเวลา มีตำนาน ชายเลี้ยงลา มาเล่าขาน
เมืองสินธร นครเม่า เก่าโบราณ พวกชาวบ้าน ย่านชนบท อดอยากจริง
เมื่อมีข้าว เหล่าชาวนา มาจำนำ ต้องชอกช้ำ เพราะคำหลอก พวกกลอกกลิ้ง
ประชานิยม ถมเงินไป ให้พวกปลิง เสียดายยิ่ง ทิ้งเงินไป ให้คนโกง
มีชาวนา ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งยากไร้ จำนำไป ไม่ได้เงิน เยินตายโหง
ยังโชคดี ที่เลี้ยงลา อยู่ในโรง หากขายได้ หายใจโล่ง โปร่งสบาย
พ่อกับลูก จึงผูกลา มาตัวหนึ่ง เอาเชือกขึง เดินดึงลา เพื่อมาขาย
มีเป้าหมาย เมืองสินธร เป็นจุดปลาย มีนักปราชญ์ มาทักทาย ชายชาวนา
ปราชญ์ถามไถ่ ว่าทำไม โง่อย่างนี้ ใยไม่ขี่ ขึ้นหลังลา ไปเลยหนา
เดินก็เหนื่อย เมื่อยตุ้ม คุ้มมั้ยนา จึงให้ลูก ขึ้นขี่ลา บิดาเดิน
อีกสักพัก เจอคนแก่ แกเห็นเข้า ก็ด่าเอา เจ้าเด็กบ้า ด่าจนเขิน
ลูกเวรกรรม เจ้าทำไม ให้พ่อเดิน เจ้าเพลิดเพลิน พ่อเดินเหนื่อย เมื่อยคนเดียว
พ่อเลยขึ้น ขี่หลังลา ขึ้นมาด้วย สองคนนั่ง หลังลาย้วย ฮ่วย ! หวาดเสียว !!
พวกรักสัตว์ เดินผ่านมา ด่าเลยเชียว ใยแกล้งลา จนหน้าเขียว เซี้ยวจริงๆ
พ่อกับลูก ถูกตัดพ้อ ทรมานสัตว์ แสนอึดอัด กลัดกลุ้มใจ ไม่อาจนิ่ง
แบบนี้คง ต้องแบกลา อย่าประวิง สองพ่อลูก แบกลาวิ่ง ยิ่งกลุ้มใจ
โอ้ตาเถร เวรกรรม เจอลำธาร มีสะพาน แต่แคบเหลือ เหงื่อก็ไหล
ต้องแบกลา พยายาม ข้ามโดยไว ลื่นไถล ลาตกไป ในลำธาร !!!
จึงคิดว่า ถ้าเรานี้ มีใจมั่น ไม่หวาดหวั่น สั่นตามใคร ได้หวาน ๆ
ใจไม่เหวี่ยง ตามเสียงเชียร์ ไม่เสียงาน คงชื่นบาน งานสำเร็จ เสร็จดั่งใจ
หุ้นคุณค่า ปัจจัยดี มีปันผล ต้องอย่าบ่น อดทนยื้อ ถือให้ไหว
มีเสียงเชียร์ ให้เขี่ยทิ้ง ชิ่งหนีไป ช่างปะไร อย่าไหวหวั่น อย่าสั่นตาม
ไม่หยั่งงั้น ท่านจะซึ้ง ถึง “รู้งี้ ” มันไม่ดี คำนี้หนา อย่าทวงถาม
ถ้าโลเล เฉไฉไป ไม่ได้ความ อย่าครั่นคร้าม ห้ามหวั่นไหว ได้แน่เอย
วันนี้ยาวอีกแล้วครับ คงไม่ต้อง wrap up สรุป moral ของกลอนแล้วนะครับ
เมื่อวานนี้ อเมริกา ยุโรป เขี๋ยวปี๋ เช้านี้ญี่ปุ่นก็เขียวปี๋
แถมเรื่องในประเทศก็คงจะยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน
ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อค ปู่ไทยก็น่าจะเขียวอยู่หรอกนะครับ
แต่ระวังให้ดีด้วยนะครับ ปู่เราตอนหลังนี่ชอบสวนกระแส
โชคดีทุกท่านนะครับ
<[^_^]> สักวา แต่เก่าก่อน ย้อนเวลา.....มีตำนาน ชายเลี้ยงลา มาเล่าขาน
เมืองสินธร นครเม่า เก่าโบราณ พวกชาวบ้าน ย่านชนบท อดอยากจริง
เมื่อมีข้าว เหล่าชาวนา มาจำนำ ต้องชอกช้ำ เพราะคำหลอก พวกกลอกกลิ้ง
ประชานิยม ถมเงินไป ให้พวกปลิง เสียดายยิ่ง ทิ้งเงินไป ให้คนโกง
มีชาวนา ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งยากไร้ จำนำไป ไม่ได้เงิน เยินตายโหง
ยังโชคดี ที่เลี้ยงลา อยู่ในโรง หากขายได้ หายใจโล่ง โปร่งสบาย
พ่อกับลูก จึงผูกลา มาตัวหนึ่ง เอาเชือกขึง เดินดึงลา เพื่อมาขาย
มีเป้าหมาย เมืองสินธร เป็นจุดปลาย มีนักปราชญ์ มาทักทาย ชายชาวนา
ปราชญ์ถามไถ่ ว่าทำไม โง่อย่างนี้ ใยไม่ขี่ ขึ้นหลังลา ไปเลยหนา
เดินก็เหนื่อย เมื่อยตุ้ม คุ้มมั้ยนา จึงให้ลูก ขึ้นขี่ลา บิดาเดิน
อีกสักพัก เจอคนแก่ แกเห็นเข้า ก็ด่าเอา เจ้าเด็กบ้า ด่าจนเขิน
ลูกเวรกรรม เจ้าทำไม ให้พ่อเดิน เจ้าเพลิดเพลิน พ่อเดินเหนื่อย เมื่อยคนเดียว
พ่อเลยขึ้น ขี่หลังลา ขึ้นมาด้วย สองคนนั่ง หลังลาย้วย ฮ่วย ! หวาดเสียว !!
พวกรักสัตว์ เดินผ่านมา ด่าเลยเชียว ใยแกล้งลา จนหน้าเขียว เซี้ยวจริงๆ
พ่อกับลูก ถูกตัดพ้อ ทรมานสัตว์ แสนอึดอัด กลัดกลุ้มใจ ไม่อาจนิ่ง
แบบนี้คง ต้องแบกลา อย่าประวิง สองพ่อลูก แบกลาวิ่ง ยิ่งกลุ้มใจ
โอ้ตาเถร เวรกรรม เจอลำธาร มีสะพาน แต่แคบเหลือ เหงื่อก็ไหล
ต้องแบกลา พยายาม ข้ามโดยไว ลื่นไถล ลาตกไป ในลำธาร !!!
จึงคิดว่า ถ้าเรานี้ มีใจมั่น ไม่หวาดหวั่น สั่นตามใคร ได้หวาน ๆ
ใจไม่เหวี่ยง ตามเสียงเชียร์ ไม่เสียงาน คงชื่นบาน งานสำเร็จ เสร็จดั่งใจ
หุ้นคุณค่า ปัจจัยดี มีปันผล ต้องอย่าบ่น อดทนยื้อ ถือให้ไหว
มีเสียงเชียร์ ให้เขี่ยทิ้ง ชิ่งหนีไป ช่างปะไร อย่าไหวหวั่น อย่าสั่นตาม
ไม่หยั่งงั้น ท่านจะซึ้ง ถึง “รู้งี้ ” มันไม่ดี คำนี้หนา อย่าทวงถาม
ถ้าโลเล เฉไฉไป ไม่ได้ความ อย่าครั่นคร้าม ห้ามหวั่นไหว ได้แน่เอย
วันนี้ยาวอีกแล้วครับ คงไม่ต้อง wrap up สรุป moral ของกลอนแล้วนะครับ
เมื่อวานนี้ อเมริกา ยุโรป เขี๋ยวปี๋ เช้านี้ญี่ปุ่นก็เขียวปี๋
แถมเรื่องในประเทศก็คงจะยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน
ถ้าไม่มีอะไรพลิกล็อค ปู่ไทยก็น่าจะเขียวอยู่หรอกนะครับ
แต่ระวังให้ดีด้วยนะครับ ปู่เราตอนหลังนี่ชอบสวนกระแส
โชคดีทุกท่านนะครับ