[Spoil] EXEcutional - 229 # Intermacrocosm-surface II

จบช่วงตื่นเต้นเริ่มเข้าสู่ช่วงปริศนาใหม่กันอีกรอบ แถมตอนนี้มีแต่ตัวหนังสือให้อ่านกันยาวเลย


ต่อจากตอนที่แล้ว พวกกานดาหลบหนีฝูงมอนสเตอร์และ Solstice ในขณะที่หลบหนีนั้นเอง Solstice ก็สาดห่าฝนเพลิงไปทั่ว เหล่ามอนสเตอร์ที่อยู่เหนือกว่าพวกกานดาจึงต่างโดนฝนเพลิงจนเกิดระเบิดจนแสงวาบไปทั่ว

ด้านพวกกานดาที่เคลื่อนที่ลงได้ช้ากว่าความเร็วของสายฝนเปลงเพลิงของ Solstice ย่อมไม่รอดแน่ แต่จัสติสเรย์เอาตัวเองเข้าปกป้องทั้งกานดาและยานที่เหลืออีกสองลำจากห่าฝนเปลวเพลิงเป็นเหมือนโล่ทำให้ยานทั้งสองลำไม่โดนเปลวเพลิงยิงแม้แต่น้อย ถึงกระนั้นตัวจัสติสเรย์เองก็เริ่มแตกร้าวขึ้นเรื่อยๆจากการรับการโจมตีแถมก่อนหน้านี้ก็ยังรับการโจมตีของ Solstice แบบเต็มๆเพื่อปกป้องกานดามาแล้วด้วย

หลังจากนั้นห่าฝนเพลิงก็หยุดลง พวกกานดายังคงมุ่งลงไปที่พื้นน้ำต่อไปซึ่งตอนนี้ยังต้องใช้เวลาอีกครึ่งชั่วโมงแต่หากคิดเป็นระยะทางก็ถือว่าไกลมาก ทางพวกไวพจน์เมื่อเห็นว่าเริ่มหนีจากมอนสเตอร์จนไม่มีตัวไหนอยู่ใกล้ยานแล้ว ทุกคนจึงเข้ามาในยานเพื่อพักกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หลงเหลือมอนสเตอร์แล้วเพราะยังมีอีกกลุ่มใหญ่ยังคงตามมาอยู่

เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนในที่สุดพวกกานดาก็มาถึงผืนน้ำและดำลงผืนน้ำทันที ส่วนพวกมอนสเตอร์ที่ตามมาเมื่อเจอกับผืนน้ำก็หยุดตามไม่ดำลงมาด้วยและอยู่นิ่งที่ผืนน้ำ ล่องลอยราวกับกลุ่มเมฆเหนือผืนน้ำ

ผืนน้ำแห่งจักรวาล : ในเกม neo-universe ในจักรวาลจะมีผืนน้ำอยู่ที่ด้านล่างสุด ไม่มีสิ่งใดอยู่บนผืนน้ำไม่ว่าจะพื้นดินหรือมอนสเตอร์ แม้จะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเพลเยอร์มากเพราะสามารถลงไปเมื่อไรก็ได้ แต่ก็ไม่ได้มีความลึกลับด้อยไปกว่าดวงดาวหรือพื้นที่อันตรายใดๆ ดาวลาพิวต้าที่อยู่ใกล้ผืนน้ำมากที่สุด เพลเยอร์ที่ตกดาวหล่นลงไปถ้าไม่ตายก็ตายในน้ำอยู่ดี ดังนั้นในช่วงแรกๆจึงไม่มีใครสนใจ ต่อมามีนักผจญภัยลงไปสำรวจเพราะอาจมีขุมทรัพย์หรือดันเจี้ยนซ่อนอยู่ แต่ 98 ใน 100 คนเกมโอเวอร์ คนที่ดำลงลึกสุดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ก็ว่างเปล่า หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจสำรวจอีกเลย

ในเวลาต่อมา พวกกานดายังคงดำลงใต้น้ำเรื่อยๆ ส่วนกานดาตอนนี้กลับเข้ายานแล้วและรีบเล่าบอสที่ไปเจอด้วยความตื่นเต้นสุดๆ บอกเลยว่ามันน่ากลัวขนาดไหน อย่าว่าแต่ล่อมันเลยแค่ยืนเฉยๆก็จะตายแล้ว พอจะเล่าต่อว่าจัสติสเรย์หนีบช่วยไว้ก็พึ่งสังเกตเห็นสภาพของจัสติสเรย์ที่ร้าวไปหมดจนแทบจะพัง ส่วนพวกไวพจน์หรือแม้แต่วิริยาไม่เชื่อกานดาเพราะดูเวอร์ไปเลยคิดว่ากานดากลัวเกินไปเองเลยเหมือนเห็นมดเท่าช้าง คิดว่ากานดากลัวจนหัวหดเอง กานดาพอเห็นไม่เชื่อที่พูดกันก็เลยวาดให้ดูทันทีเลยเพื่อให้เห็นภาพและโฉมหน้าของมัน แต่ด้วยสกิลแห่งความจริงของวิชาศิลปะเกรด 1 เลยได้ภาพตัวพิลึกๆจนไวพจน์เห็นแล้วบอกเลยว่ากอบลินน่าเกรงขามกว่า ขนาดวันเดอร์แมนยังบอกกระบวนท่าเดียวก็หมอบแล้ว แม้หลายคนดูจะไม่ค่อยเชื่อที่กานดาเล่าแต่มีแต่มัจฉาที่เชื่ออยู่บ้างจากสภาพของจัสติสเรย์ที่พังได้ขนาดนี้ ทำให้คิดเลยว่าบอสที่ว่าต้องไม่ใช่ระดับปกติแน่

สรุปผลการหนี ยานเหลือ 2 ลำ เป็นยานของพวกกานดาเองและยานของกลุ่มอพยพอีกลำ โดนจมไป 1 ลำ ส่วนอีกลำที่ไปล่อบอสกับกานดาหายสาบสูญพร้อม 2 หน่อที่ไปด้วย

เวลาผ่านไปอีกพักใหญ่ พวกกานดาดำลงมาจนทุกอย่างมืดไปหมด ถึงอยู่ในน้ำจนใช้ความเร็วได้ไม่เท่าในอวกาศแต่ตอนนี้ดำลงมากว่า 10,000 กิโลเมตรแล้วจนคนอื่นเริ่มห่วงกันแล้วว่าดำลงมาไกลเกินจนท่าจะไม่ดี ไวพจน์เลยได้แซวกานดาว่าสงสัยจะตายอยู่ที่นี่แหงๆ กานดาเลยรนอีกรอบบอกเลยตายในความมืดไม่เอาด้วยสู้ให้มอนสเตอร์ฆ่าตายดีกว่า เจ้าเป็ดที่หนวกหูแต่อยู่ในร่างเป็ดเลยขึ้นป้ายบอกหนวกหูกับกานดาเลย

เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่ดำลงมานานแล้วก็ยังไม่เห็นอะไรเลย พลังงานของยานอพยพก็ใกล้หมดแล้วจนเริ่มคิดกันแล้วว่าจะเอาไงต่อ มัจฉาเห็นว่ายานอพยพคงไปต่อไม่ได้แล้วก็เลยบอกอย่างเสียใจที่ต้องให้กลุ่มอพยพสละยานแล้ว และเห็นว่าเหลือกันแค่นี้ด้วยเลยบอกให้ไปอยู่ลำเดียวเลยดีกว่า ทุกคนที่อยู่ในยานอพยพรวมถึงพวกกานดาจึงย้ายมายานของพวกกานดาทิ้งยานอีกลำและไปต่อ

หลังจากนั้นดำลงมาอีกครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ติดต่อกับใครไม่ได้ ซ้ำยังมีข่าวร้ายอีกเมื่อตอนนี้แผนที่และเรดาห์ใช้การไม่ได้แล้วทำให้ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน จะบนหรือล่างก็ไม่รู้ ไวพจน์รู้ได้ทันทีเลยว่าสถานการณ์ตอนนี้คือหลงทิศในความมืด ซึ่งการหลงทิศใต้น้ำโดยเฉพาะตอนที่ไม่มีแสงสว่างด้วยแล้วจะทำให้กำหนดทิศทางรอบๆไม่ออกเลย ทางคนคุมเรดาห์บอกเลยว่าตอนที่ยังดำไม่ลึกมากเรดาห์ยังใช้ได้อยู่แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ใช้ไม่ได้มาสักพักแล้ว ทางเจ้าเป็ดพูดเลยว่าเสียดายที่ไม่มีมอนสเตอร์ไม่งั้นคงแปลงร่างช่วยได้เยอะแล้ว แต่วิริยาพูดกับเจ้าเป็ดเลยว่าเหลิงใหญ่เชียว บอกเลยว่าเจ้าเป็ดอยากให้มัจฉาชมล่ะสิ เจ้าเป็ดพอเห็นว่าโดนรู้ทันเลยบอกวิริยายุ่งไปไกลๆเลยแต่ก็แอบเขินด้วย

แต่ไม่ว่ายังไงสรุปแล้วตอนนี้มัจฉาเห็นว่าสถานการณ์ไม่ต่างจากเดิมเท่าไร จะไปต่อหรือกลับก็มีอันตรายพอกัน มัจฉาเลยถามกานดาในฐานะหัวหน้ากลุ่มว่าจะเลือกเอายังไงต่อ ไวพจน์ถามมัจฉาว่าจะดีเหรอเมื่อกี้กานดาก็เกือบพาตายมารอบแล้ว มัจฉาบอกเอาน่ายังไงก็รอดมาแล้ว ทางกานดาเลยได้แต่เกาหัวอยู่จนไวพจน์ถามมัจฉาทำไมไม่ตัดสินใจแทนเลย รู้ๆอยู่ว่ากานดาคิดไม่ปรึกษาสมอง มัจฉาว่าเลยว่าพูดแรงไปแต่ก็แอบเห็นด้วย

ในความคิดของมัจฉา เมื่อกานดาตัดสินใจจะจบเกมก็ต้องไม่พาทุกคนไปตาย และด้วยไอเทมที่เธอมีอยู่ก็สามารถประยุกต์ให้กลับไปข้างบนได้ แต่มัจฉาตัดสินใจจะไม่บอกหากกานดาไม่ถาม แถมยังสบตาวิริยาเหมือนถามวิริยาจะช่วยรึเปล่า วิริยาก็นึ่งเฉยเหมือนกัน

กานดาที่คิดอยู่สักพักและดูจัสติสเรย์ในมืออีกครั้งและตัดสินใจได้แล้ว สิ่งที่กานดาพูดหลังจากตัดสินใจได้แล้วก็คือ... "ถามพวกนายว่าเอาไงดี" ทั้งไวพจน์และเจ้าเป็ดถึงกับอึ่งพูดไม่ออกกันเลย กานดาบอกของแบบนี้เขาตัดสินใจคนเดียวไม่ได้เลยบอกให้ช่วยกันคิดดีกว่า มัจฉาถึงกับใบ้ทั้งคำพูดและความคิดไปเลย

แต่จริงๆแล้วกานดาติดใจเรื่องที่จัสติสเรย์พาลงมาเหมือนมีบางอย่างอยู่ พอกานดาพูดแบบนี้ปุ๊บวิริยาก็บอกเห็นด้วยทันทีเพราะติดใจเหมือนกัน เพราะนอกจากพากานดาลงมาแล้วยังส่งสัญญาณให้คนในปาร์ตี้ลงมาด้วย กานดาจึงเริ่มมั่นใจว่าถ้าดำลงไปเรื่อยๆอาจเจออะไรบางอย่าง แต่ก็คิดได้เหมือนกันว่าแค่ช่วยทางหาหนีให้เฉยๆด้วย แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่จัสติสเรย์ขยับเอง ทางไวพจน์เลยพูดขึ้นว่าเกี่ยวข้องกับคอมมานเดอร์โหมดรึเปล่า โหมดพิเศษเฉพาะอาวุธ Event horizon ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร ด้วยเหตุนี้ไวพจน์เลยขอดูรายละเอียดของทั้งจัสติสเรย์และบุปผาสวรรค์ใหม่

ปรากฎว่าตอนนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นมาจริงๆคือ "Party member" "Star power" "commander mode" ทั้งสองอาวุธและยังเหมือนกันตรง "Star power" เป็น 0 และ "commander mode" เป็น off ยกเว้นที่ "Party member" ของจัสติสเรย์ที่เป็น 8 แต่ของบุปผาสวรรค์เป็น 0 ไวพจน์เลยทดลองให้ภัสสรรับกลุ่มอพยพเข้าปาร์ตี้ของภัสสรดู แต่ผลคือของบุปผาสวรรค์ยังคงเป็น 0 เหมือนเดิมเลยงงกันต่อเหมือนเดิม

ตอนนั้นเองที่คนขับยานเรียกให้ทุกคนมาดูนอกยานกันก่อน พอดูแล้วทุกคนก็เห็นว่าจากความมืดมิดเมื่อครู่ตอนนี้ด้านล่างของยานมีอะไรบางอย่างนอกจากความมืดอยู่ด้วย แต่ก็ยังมืดเกินไปจนดูยังไม่ออก เมื่อเจอสิ่งปริศนาแบบนี้แล้วไวพจน์เริ่มถามว่าจัสติสเรย์อยากให้ลงไปจริงๆเหรอ เพราะสิ่งที่เห็นอาจเป็น danger zone เหมือนดาวอันตรายที่เพลเยอร์อาศัยไม่ได้ หรือไม่ก็เป็นความมืดไร้ก้นบึ้งที่ดำดิ่งชั่วนิรันดร์ ขนาดวิริยาดูแล้วยังรู้สึกกลัว คนอื่นดูก็มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นไม่ใช่แผ่นดินแน่เพราะสภาพนั้นไม่คงที่เลย พอลองถามภัสสรว่าบุปผาสวรรค์มีปฎิกิริยาอะไรมั้ย ภัสสรบอกไม่มี ตอนนั้นเองที่วันเดอร์แมนเหมือนเห็นอะไรแวบๆแต่ทุกคนไม่เห็นเลยบอกตาฝาดแล้ว สุดท้ายทุกคนก็ไปกันต่อ

กานดา: ไปกันต่ออีกนิดนะ.. จัสติสเรย์

จบตอน


จบไปอีกตอน ตอนนี้ยังเดาไม่ออกเลยว่าอะไรที่อยู่ใต้ผืนน้ำแห่งจักรวาลนี้ คงต้องรอดูกันต่อไป

ภาพเดียวตอนนี้ เอาภาพสิ่งที่อยู่ใต้น้ำมาให้ดูและเดากันไปก่อน น่าจะเฉลยตอนหน้า(มั้ง)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่