เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนวานนี้เพื่อนของผมพวกพี่ๆทั้งหลายได้ชวนผมไป งานวันเกิด ซึ่งทีแรกผมนั้นไม่คิดว่าจะไป
เพราะทานข้าวแล้ว แต่ก็นึกอย่างไรไม่ทราบ ก็บอกแม่ว่า ยืมรถยนต์ไปงานวันเกิด แปป 4ทุ่มก็กลับละ
ระหว่างงาน ไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีมูลเหตุ ส่อแววว่าจะมีเรื่องเลยด้วย
หลังจาก แมนยูโดน นำ2-0 เจ้าภาพงาน ก็เข้าไปนอน ระหว่างนั้น ผมก็กลับบ้าน
ได้ซัก 10 นาที เรื่องก็มาเลย
เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ของฝ่ายพี่ คนบ้านผม เค้าได้เอาโฉนดที่ดิน มาไว้ที่น้าของผม โดยที่ พี่ของผมไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
ในส่วนนี้มีเรื่อง ของเงิน เกือบ 5แสนได้ โดยที่ตอนนี้ โฉนดไปอยู่กับเฮีย อีกคนนึง
ประกอบกับ พี่ เค้าคิดว่า น้าของผม จะยึดที่ของเค้าไป ทำให้เค้าไม่พอใจ เพราะ บอกผ่อนกันมาหลายครั้ง เรื่องจะคืนโฉนดให้
ด้วยความที่เค้า เห็น ผมขับรถยนต์ใหม่มา ทำให้เค้าคิดไปว่า บ้านผมก็มีเงินทำไมถึงไม่มา เอาโฉนดที่ดินมาให้เขา คืนสักที
ขณะนั้นเมา เหล้าด้วยทำให้ อารมณ์ฟุ้ง พุ่งมาถึงหน้าบ้านน้าผม โดยได้แสดงความเจตจำนงตามนี้
1 เมื่อไหร่ถึง จะคืน โฉนด มาสักที ตอนนี้กูโดนเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ ตามมาจะยึดรถอยู่แล้ว เพราะยังผ่อนไฟแนนซ์ไม่หมด
2 เอา โฉนด กูไปไว้กี่บาท กูต้องการทราบ แล้วไม่คิดจะเอาออกมาให้กูหรือไง บ้านกูเดือดร้อนมาก
3 อยากได้ ที่กูนัก เอาไปเลย แล้วต่อไปนี้ระวังชีวิตตัวเองใว้ให้ดี กูถึอว่า ตายไปแล้ว
4 ในเมื่อ บอกว่า กำลังดำเนินการเพราะตอนนี้ ทางนี้ก็ขาดแคลนเงิน กำลังไกล่เกลี่ยกันอยู่
แล้วทำไม หลานของ ซึ่งเป็นผมนั่นเอง ถึงมีรถยนต์ขับ ทั้งที่ งานที่ผมทำนั้นเป็นงานที่ไม่มีหลักแหล่ง
หลังจากนั้น พวกผู้ใหญ่บ้านผม ได้โทรไปหา ตำรวจ ร้อยเวร ผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้ามาระงับอาการ
เนื่องจาก ตอนนี้พี่ เขาไม่ฟังใครแล้ว
หลังจากมีตำรวจและสายตรวจมาถึง เขาได้ปีนขึ้นไป บนแทงก์น้ำ ประปาหมุ่บ้าน แถมยังทำตัวเหมือนคนจะฆ่าตัวตาย
ผมเห็นแบบนี้เข้าไป ผมทำอะไรไม่ถูกครับ ไม่คิดว่าพี่ คนนั้นเค้าจะทำกับผมได้ถึงขนาดนี้
เรื่อง ทรัพย์สินเงินทอง มันไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ ขนาด พี่น้อง ที่เคยไปเสี่ยงชีวิตด้วยกัน ยังไม่ไว้หน้าผมเลย
ส่วนสาเหตุ ผมว่าน่าจะมาจาก ที่พี่เค้าเห็นผม ขับรถยนต์ มานั่นแระ
คุณคิดว่า ผมควรจะเข้าไป บอกดีหรือไม่ว่า รถคันนี้มันเป้นรถ ของแม่ผม ซึ่งมันเป็นคนละส่วนกับน้าผม
เพราะไม่ได้ถือกระเป๋าเดียวกันเลย แถมเวลาพี่เค้าพาล เค้าไม่ควรใช้ว่าจาแบบนี้กับคนทั้งบ้านผมแบบนี้
พี่เค้าสนิทกับผมได้ประมาณ 5ปี ละครับ แต่รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เด็ก แต่เพราะเค้าคิดว่าผมเป็นลูกแหง่
ทำให้เค้าเข้าใจผมผิดมาตลอด มาถึงวันนี้ เค้าก็ยังจะมาเข้าใจผิดอีก ว่าครอบครัวผมต้องการที่ดินของเค้า
ระหว่าง พี่ คนบ้านเดียวกันที่สนิทมาก กับน้าที่เป็นญาติของเรา เราควรเข้าข้างฝ่ายไหนดี
เพราะทานข้าวแล้ว แต่ก็นึกอย่างไรไม่ทราบ ก็บอกแม่ว่า ยืมรถยนต์ไปงานวันเกิด แปป 4ทุ่มก็กลับละ
ระหว่างงาน ไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีมูลเหตุ ส่อแววว่าจะมีเรื่องเลยด้วย
หลังจาก แมนยูโดน นำ2-0 เจ้าภาพงาน ก็เข้าไปนอน ระหว่างนั้น ผมก็กลับบ้าน
ได้ซัก 10 นาที เรื่องก็มาเลย
เรื่องมันมีอยู่ว่า แม่ของฝ่ายพี่ คนบ้านผม เค้าได้เอาโฉนดที่ดิน มาไว้ที่น้าของผม โดยที่ พี่ของผมไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
ในส่วนนี้มีเรื่อง ของเงิน เกือบ 5แสนได้ โดยที่ตอนนี้ โฉนดไปอยู่กับเฮีย อีกคนนึง
ประกอบกับ พี่ เค้าคิดว่า น้าของผม จะยึดที่ของเค้าไป ทำให้เค้าไม่พอใจ เพราะ บอกผ่อนกันมาหลายครั้ง เรื่องจะคืนโฉนดให้
ด้วยความที่เค้า เห็น ผมขับรถยนต์ใหม่มา ทำให้เค้าคิดไปว่า บ้านผมก็มีเงินทำไมถึงไม่มา เอาโฉนดที่ดินมาให้เขา คืนสักที
ขณะนั้นเมา เหล้าด้วยทำให้ อารมณ์ฟุ้ง พุ่งมาถึงหน้าบ้านน้าผม โดยได้แสดงความเจตจำนงตามนี้
1 เมื่อไหร่ถึง จะคืน โฉนด มาสักที ตอนนี้กูโดนเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ ตามมาจะยึดรถอยู่แล้ว เพราะยังผ่อนไฟแนนซ์ไม่หมด
2 เอา โฉนด กูไปไว้กี่บาท กูต้องการทราบ แล้วไม่คิดจะเอาออกมาให้กูหรือไง บ้านกูเดือดร้อนมาก
3 อยากได้ ที่กูนัก เอาไปเลย แล้วต่อไปนี้ระวังชีวิตตัวเองใว้ให้ดี กูถึอว่า ตายไปแล้ว
4 ในเมื่อ บอกว่า กำลังดำเนินการเพราะตอนนี้ ทางนี้ก็ขาดแคลนเงิน กำลังไกล่เกลี่ยกันอยู่
แล้วทำไม หลานของ ซึ่งเป็นผมนั่นเอง ถึงมีรถยนต์ขับ ทั้งที่ งานที่ผมทำนั้นเป็นงานที่ไม่มีหลักแหล่ง
หลังจากนั้น พวกผู้ใหญ่บ้านผม ได้โทรไปหา ตำรวจ ร้อยเวร ผู้ใหญ่บ้าน ให้เข้ามาระงับอาการ
เนื่องจาก ตอนนี้พี่ เขาไม่ฟังใครแล้ว
หลังจากมีตำรวจและสายตรวจมาถึง เขาได้ปีนขึ้นไป บนแทงก์น้ำ ประปาหมุ่บ้าน แถมยังทำตัวเหมือนคนจะฆ่าตัวตาย
ผมเห็นแบบนี้เข้าไป ผมทำอะไรไม่ถูกครับ ไม่คิดว่าพี่ คนนั้นเค้าจะทำกับผมได้ถึงขนาดนี้
เรื่อง ทรัพย์สินเงินทอง มันไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ ขนาด พี่น้อง ที่เคยไปเสี่ยงชีวิตด้วยกัน ยังไม่ไว้หน้าผมเลย
ส่วนสาเหตุ ผมว่าน่าจะมาจาก ที่พี่เค้าเห็นผม ขับรถยนต์ มานั่นแระ
คุณคิดว่า ผมควรจะเข้าไป บอกดีหรือไม่ว่า รถคันนี้มันเป้นรถ ของแม่ผม ซึ่งมันเป็นคนละส่วนกับน้าผม
เพราะไม่ได้ถือกระเป๋าเดียวกันเลย แถมเวลาพี่เค้าพาล เค้าไม่ควรใช้ว่าจาแบบนี้กับคนทั้งบ้านผมแบบนี้
พี่เค้าสนิทกับผมได้ประมาณ 5ปี ละครับ แต่รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เด็ก แต่เพราะเค้าคิดว่าผมเป็นลูกแหง่
ทำให้เค้าเข้าใจผมผิดมาตลอด มาถึงวันนี้ เค้าก็ยังจะมาเข้าใจผิดอีก ว่าครอบครัวผมต้องการที่ดินของเค้า