อันนี้เป็นความเห็นนะค่ะ ไม่เคยขายเครื่องสำอางค์และแต่งหน้าไม่เป็นด้วยค่ะ แต่มีความเห็นค่ะ

#ขณะทำงานอยู่ที่ร้าน
ถ้ามีฝีมือแต่งหน้ารับแต่งหน้าไปด้วยเลยค่ะโดยใช้เครื่องสำอางค์ที่ร้านเรามีค่ะ
ถ้าฝีมือไม่ใช่ระดับเทพ เน้นแต่งเบาๆราคาปานกลาง เน้นกลุ่มลูกค้านักเรียนนักศึกษาหรือคนทุนน้อย เพราะคุณ จขกท ไม่ได้ขายของแบรนด์เนม(ซึ่งปกติผู้หญิงเราเรื่องความสวยถึงไหนถึงกันค่ะ เงินเดือน15,000แต่เครื่องสำอางค์ฉันลิปสตกิราคา2,000แป้งพัฟราคา3,000เป็นแบบนี้ยืนยันว่า80%up) เออ พล่ามยาวต่อมาจะมาพูดกัน

ข้อดี: 1.ร้านแต่งหน้าราคาย่อมเยาว์ปัจจุบันมีน้อยมากนอกจากร้านทำผมหรือซาลอนเล็กๆ
2.เป็นการนำเสนอสินค้าเหมือนการทดลองใช้สินค้า โดยที่เราไม่ได้แจกให้ใช้ฟรี
3.เป็นการโปรโมทร้านแบบปากต่อปาก "นี่ๆเทอร้านเครื่องสำอางค์เปิดใหม่ใกล้ตลาดเค้ารับแต่งหน้าราคาถูกด้วยเธอ" "จริงหรอเทอ จะไปงานแต่งอยู่พอดี แต่งหน้าไม่เป็น ไปร้านนี้ดีกว่า"
4.แต่งหน้าลูกค้าแต่งที่ร้านเลย แต่งไปเฝ้าร้านไป
5.คนไทยนิสัยขี้เกรงใจค่ะ มักจะซื้ออะไรติดมือไปหลังแต่งหน้าเล็กๆน้อย
6.เพิ่มการโปรโมทผ่านเฟสบุ๊ค รีวิวการแต่งหน้าจากผลิตภัณฑ์ ทำแบบห้องโต๊ะเครื่องแป้งอะค่ะ

ข้อเสีย:
1.เมื่อสักวันเมื่อวันนันวันที่ร้านเราโด่งดังเป็นที่ต้องการมาถึงคุณจะต้องหาลูกจ้างมาเพิ่ม (เสียเงินประจำอีกเดือนละหลายพันบาท)
2.ถ้าเลือกใช้เครื่องสำอางค์ผิด ใช้แล้วไม่สวย หรือ ใช้แล้วลูกค้าแพ้หน้าเป็นสิว ซวยค่ะ ซวย บ่นปากต่อปากอีกเช่นกัน แถมบ่นเร็วกว่าเดิมอีก


#เวลาว่าง ไปขายของตลาดนัด

อันนี้ต้องกล้าๆหน่อยนะค่ะอย่ากลัวค่ะอย่ากลัว ท่องไว้ "เหนื่อยต้องทนเกิดเป็นคนต้องสู้"
ตลาดนัดแถวร้านมีแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ เราเจ้าใหม่แต่ได้เปรียบกว่าเค้าเยอะที่เรามีร้านประจำใกล้ๆตลาด ลูกค้าย่อมเชื่อถือมากกว่าอยู่แล้วค่ะ


#ขายของผ่านเฟสบุ๊ค

#หาตัวแทนขายแบบไม่ต้องเสียเงินเดือนให้ หักแค่ค่าคอมมิสชั่น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อชิ้นพอค่ะ เช่นขายมาสคาร่ารุ่นแพลทตินั่มได้หนึ่งอันพี่ให้10บาท รุ่นซิลเวอร์พี่ให้5บาท/หนึ่งชิ้น
แล้วใครที่จะเป็นตัวแทน???+!-@3$
.--เน้นนักเรียนนักศึกษานี่แหละค่ะ ไปโรงเรียนเจอเพื่อน ขายของเล็กๆน้อยๆ ได้รายได้ระหว่างเรียนเป็นค่าขนม เด็กปลื้มค่ะ
-ข้อเสีย : เด็กๆไม่มีทุนซื้อเครื่องสำอางค์เราไปขายหรอกค่ะ  เค้าจะเอาของไปก่อนแล้วค่อยขาย กรณีนี้มีเด็กที่ชิ่งเยอะค่ะ
-แก้ปัญหา หาเด็กๆน้องๆที่ไว้ใจที่สนิทกัน บ้านอยู่ใกล้กันยิ่งดีค่ะะกำไรเท่าไร เดี๋ยวเด็กพวกนี้จัดการเปิดร้านเองซะเลย

สิ่งอื่นๆที่คุณต้องพึงระวัง
#ยิ้มแย้มแจ่มใส
#ขายเครื่องสำอางค์ต้องแต่งหน้าให้ดูสวยอยู่ตลอดเวลา
#เวลาสินค้าหมดปฏิเสธแบบมีชั้นเชิงไม่ให้ลูกค้าเกลียด แนะนำสิค้าอย่างอื่นแทน ท่าเห็นท่าทีลูกค้าไม่พอใจจัดโปรโมชั่นแถมซะเลย
#เวลาลูกค้าเข้าร้าน ยิ้ม "แล้วพูดว่า เชิญเลือกได้ตามสบายเลยนะค่ะ มีอะไรสอบถามได้นะค่ะ" ห้ามลืมพูดแม้แต่คนเดียว เหนื่อยก็ห้ามลืม ห้ามบ่น ห้ามหุบยิ้ม ไม่ต้องเข้าไปประชิดลูกค้าแบบตัวติดเป็นปลิงเป็นตังเม รอสักพักจึงเข้าไปหา ถ้าเค้าเดินหนีให้คิดไว้ว่า#เค้าแสดงท่าทีอย่างเปิดเผยให้เห็นแล้วว่า ไม่ได้จะซื้ออันนี้นะ ขอดูอันอื่นก่อนได้มั้ย # เดินห่างๆเลยค่ะ กลับไปนั่งทีเดิม ดิฉันก็เป็นค่ะ บางทีรำคาญBAที่ห้างมากเลย
จะไปซื้อแป้งพัฟ แต่เห็นลิปอันอื่นสวยดีก็แค่ขอดูหน่อย ไม่ได้หมายความว่าลูกค้าจะซื้อนะค่ะ แค่ขอดูค่ะ แล้วก็กลับไปคิดอีกทีว่าจะซื้อมั้ย เพราะฉะนั้นกรณีนี้ ไม่ต้องอวยหรือคะยั้นคะยอให้ซื้อมากนะค่ะ แค่แนะนำพอ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่เครื่องสำอาค์มีตุนกันอยู่แล้วทุกคนค่ะ ก่อนมาร้านเครื่องสำอางค์ที่ไม่ได้อยู่ในห้างทุกคนมีเป้าหมายแล้วค่ะว่าจะซื้ออะไร##

สิ่งที่สำคัญ #อย่ากลัวเหนื่อยแต่ควรกลัวคือร้านไปไม่รอด~~~~~~~~

สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้ ขายมา14วันเจอปัญหาแบบนี้นี่จิ๊บๆค่ะ