ใครมีวิธีแนะนำต่างๆ เชิญเลยนะครับ แบ่งปันความรู้ ความคิด
ส่วนตัวผมนะครับ
1. ประสบการณ์ครับ
ประสบการณ์ทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา จะสามารถช่วยให้เราตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ดีขึ้น
ขัดเกลากรอบความคิดของเรา (mind set)* ให้หลักแหลมได้ตลอดเวลา
เคยสังเกตุเห็นเพื่อนบางคนไหมครับ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาจะเก่งไปหมดเสียทุกอย่าง
ตามที่ผมคิดนะครับ เป็นเพราะกระบวนการคิดของของเขา ถูกขัดเกลามาอย่างดี
ขัดเกลามาจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ทั้งดี และ ไม่ดี ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้
เขาสามารถตัดสินใจได้ว่า ทำแบบนี้ แล้วผลจะออกมาเป็นแบบนี้ๆๆ ทั้งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
เราสังเกตุจากตัวเราเองก็ได้ครับ สมมติว่าเราไม่เก่งวิชาอะไรเลย แล้วเรามาเก่งสักวิชานึง
เช่นคณิตศาสตร์ เราจะลองไปเรียนกับวิชาอื่นๆ ที่เป็นวิชาคำณวน เช่น ฟิสิกข์ หรือบางทีอาจเป็นวิชาอื่นๆก็ได้
ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการคำณวน
เราจะพบว่าเราสามารถเข้าใจวิชาอื่นได้ดีขึ้นหรือเก่งขึ้น ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย
เหมือนกับเราเรียนวิชานึงตอนเด็ก แล้วพอเป็นผู้ใหญ่เรากลับทำวิชานั้นได้ดีขึ้นมาก ทั้งที่ไม่ได้เรียนอีก
เพราะอะไรหรือครับ เพราะเรามี"กระบวนการคิด"เพิ่มเข้ามาในหัวของเราไง เราจึงสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
ผมเลยคิดว่าการทำสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา และทำสิ่งนั้นจนชำนาญ จะช่วยเพิ่มศักยภาพของสมองได้ครับ
มีอีกวิธีนึงที่ผมคิดอยู่คือการฝึกทำหลายๆเรื่อง พร้อมกัน จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับสมองของเรา
เช่น เราหัดแต่งเพลง แต่งไปแต่งมาก้ไม่เพราะสักที เราอาจใช้เวลานี้ไปทำอย่างอื่นที่ช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมา
เช่นวาดรูป หรือ ทำอาหารจานใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วเราลองกลับมาแต่งเพลงอีกครั้งดู เราจะรู้สึกว่าความคิดมันมาก
ขึ้นเพราะเราได้ขยายกรอบความคิดของเราให้กว้างขึ้น ไม่ได้เคร่งเครียดกับเพลงเพียงอย่างเดียว
2.การอ่านหนังสือ
หลายคนคงเลือกตอบวิธีนี้ เพราะทันทีที่เราหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เราจะได้ความรู้ทันที เหมือนกับเราจะฉลาดขึ้น มันก็ใช่ครับ
เพราะหนังสือเปิดประตูสู่โลกกว้างจริงๆเหมือนที่เขาบอกกัน แต่เอาจริงๆแล้วถ้าเรามัวแต่อ่านหนังสือเราจะมีแต่ความรู้ครับ
ที่เราอยากให้มันเกิดกับตัวเราจริงที่น่าจะเป็นความคิด/กระบวนการคิดเสียมากกว่า (มีหนังสือหลายเล่มครับที่ให้ความคิด เช่น หนังสือคุยกับประ
ภาส ) ความคิดที่ได้จากหนังสือ กับ ความคิดที่ได้จากประสบการณ์จริงแตกต่างกันมากครับ เพราะคุณอยู่ในประสบ
การณ์จริงความรู้สึกจริง บรรยากาศจริง ความกลัวจริง ความตึงเครียดจริง ความดีใจจริง เช่น อ่านหนังสือ พูดที่ชุมชนบบใดไม่ให้ประหม่า
ผมว่าอ่านหนังสือแบบนี้ร้อยรอบก็ไม่ทำให้หายประหม่าจริงๆหรอกครับ ออกไปพูดเองน่าจะดีกว่า (เคยเห็นหลายๆคนอ่านหนังสือ
แบบนี้แล้วคิดว่าตนเองพร้อมแล้วครับ เอาเข้าจริงก็ยังสั่นอยู่ )
อีกปัญหานึงที่เกิดจากการอ่านหนังสือแล้วไม่รู้สึกว่าได้ความรู้ก็คือ ความรู้มันเกินครับ คือความรู้มันมากเกินไปแต่เราไม่รู้จะ
จัดการกับมันอย่างไร ( แนวความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ) เหมือนกับเราเทนํ้าลงไปในแก้วบนนึงจนเต็ม แล้วเรายังเทลงไปอีก
มันก็ล้นออกครับมันไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว เราจะต้องทำการขยายแก้วครับ ก็คือการฝึกสมองของเรานั่นแหละ ฝึกให้คิดได้ว่าเราจะ
จัดการกับความรู้ที่เข้ามาอย่างไร คือเราต้องฝึกกระบวนการคิดของเราควบคู่ไปกับการเพิ่มความรุ้นั่นเองครับ
3. อ่านพวกคำคม / อารมณ์ขัน
ยิ่งถ้าคุณมีความสามารถด้านอารมณ์ขันแล้ว เวลาพูดคำคมที่ฉลาดสุดๆกับตลกสุดๆ ด้วย
คุณแทบจะเป็นอัจฉริยะเลยครับ ประมาณว่าคิดได้ไงวะ เพราะมันสื่อได้ถึงความคิดความฉลาดของคุณได้ด้วยครับ
สองอย่างนี้นอกจากจะทำให้คุณเจ๋งแล้ว ยังเป็นการเพิ่มไหวพริบให้กับตัวคุณได้มากๆครับ คุณอาจลองฝึกโดยการคิดคำคมหรือมุขตลก แล้วจดลง
ในโน้ตส่วนตัวของคุณ จดไปจดมาแล้วกลับมาอ่านซํ้าแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการเพิ่มทักษะได้ครับ เป็นการเพิ่มกระบวนการคิดด้วย แล้วความคิดของคุณจะ
ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ
ผมเขียนไม่ค่อยเก่งนะครับ ต้องขออภัย เด๋วจะมาเพิ่มเติมครับ
เราจะฉลาดหลักแหลมได้อย่างไรครับ ?
ส่วนตัวผมนะครับ
1. ประสบการณ์ครับ
ประสบการณ์ทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา จะสามารถช่วยให้เราตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ดีขึ้น
ขัดเกลากรอบความคิดของเรา (mind set)* ให้หลักแหลมได้ตลอดเวลา
เคยสังเกตุเห็นเพื่อนบางคนไหมครับ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาจะเก่งไปหมดเสียทุกอย่าง
ตามที่ผมคิดนะครับ เป็นเพราะกระบวนการคิดของของเขา ถูกขัดเกลามาอย่างดี
ขัดเกลามาจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา ทั้งดี และ ไม่ดี ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้
เขาสามารถตัดสินใจได้ว่า ทำแบบนี้ แล้วผลจะออกมาเป็นแบบนี้ๆๆ ทั้งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน
เราสังเกตุจากตัวเราเองก็ได้ครับ สมมติว่าเราไม่เก่งวิชาอะไรเลย แล้วเรามาเก่งสักวิชานึง
เช่นคณิตศาสตร์ เราจะลองไปเรียนกับวิชาอื่นๆ ที่เป็นวิชาคำณวน เช่น ฟิสิกข์ หรือบางทีอาจเป็นวิชาอื่นๆก็ได้
ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการคำณวน
เราจะพบว่าเราสามารถเข้าใจวิชาอื่นได้ดีขึ้นหรือเก่งขึ้น ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย
เหมือนกับเราเรียนวิชานึงตอนเด็ก แล้วพอเป็นผู้ใหญ่เรากลับทำวิชานั้นได้ดีขึ้นมาก ทั้งที่ไม่ได้เรียนอีก
เพราะอะไรหรือครับ เพราะเรามี"กระบวนการคิด"เพิ่มเข้ามาในหัวของเราไง เราจึงสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น
ผมเลยคิดว่าการทำสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา และทำสิ่งนั้นจนชำนาญ จะช่วยเพิ่มศักยภาพของสมองได้ครับ
มีอีกวิธีนึงที่ผมคิดอยู่คือการฝึกทำหลายๆเรื่อง พร้อมกัน จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับสมองของเรา
เช่น เราหัดแต่งเพลง แต่งไปแต่งมาก้ไม่เพราะสักที เราอาจใช้เวลานี้ไปทำอย่างอื่นที่ช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ออกมา
เช่นวาดรูป หรือ ทำอาหารจานใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แล้วเราลองกลับมาแต่งเพลงอีกครั้งดู เราจะรู้สึกว่าความคิดมันมาก
ขึ้นเพราะเราได้ขยายกรอบความคิดของเราให้กว้างขึ้น ไม่ได้เคร่งเครียดกับเพลงเพียงอย่างเดียว
2.การอ่านหนังสือ
หลายคนคงเลือกตอบวิธีนี้ เพราะทันทีที่เราหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน เราจะได้ความรู้ทันที เหมือนกับเราจะฉลาดขึ้น มันก็ใช่ครับ
เพราะหนังสือเปิดประตูสู่โลกกว้างจริงๆเหมือนที่เขาบอกกัน แต่เอาจริงๆแล้วถ้าเรามัวแต่อ่านหนังสือเราจะมีแต่ความรู้ครับ
ที่เราอยากให้มันเกิดกับตัวเราจริงที่น่าจะเป็นความคิด/กระบวนการคิดเสียมากกว่า (มีหนังสือหลายเล่มครับที่ให้ความคิด เช่น หนังสือคุยกับประ
ภาส ) ความคิดที่ได้จากหนังสือ กับ ความคิดที่ได้จากประสบการณ์จริงแตกต่างกันมากครับ เพราะคุณอยู่ในประสบ
การณ์จริงความรู้สึกจริง บรรยากาศจริง ความกลัวจริง ความตึงเครียดจริง ความดีใจจริง เช่น อ่านหนังสือ พูดที่ชุมชนบบใดไม่ให้ประหม่า
ผมว่าอ่านหนังสือแบบนี้ร้อยรอบก็ไม่ทำให้หายประหม่าจริงๆหรอกครับ ออกไปพูดเองน่าจะดีกว่า (เคยเห็นหลายๆคนอ่านหนังสือ
แบบนี้แล้วคิดว่าตนเองพร้อมแล้วครับ เอาเข้าจริงก็ยังสั่นอยู่ )
อีกปัญหานึงที่เกิดจากการอ่านหนังสือแล้วไม่รู้สึกว่าได้ความรู้ก็คือ ความรู้มันเกินครับ คือความรู้มันมากเกินไปแต่เราไม่รู้จะ
จัดการกับมันอย่างไร ( แนวความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด ) เหมือนกับเราเทนํ้าลงไปในแก้วบนนึงจนเต็ม แล้วเรายังเทลงไปอีก
มันก็ล้นออกครับมันไม่สามารถใส่ได้อีกแล้ว เราจะต้องทำการขยายแก้วครับ ก็คือการฝึกสมองของเรานั่นแหละ ฝึกให้คิดได้ว่าเราจะ
จัดการกับความรู้ที่เข้ามาอย่างไร คือเราต้องฝึกกระบวนการคิดของเราควบคู่ไปกับการเพิ่มความรุ้นั่นเองครับ
3. อ่านพวกคำคม / อารมณ์ขัน
ยิ่งถ้าคุณมีความสามารถด้านอารมณ์ขันแล้ว เวลาพูดคำคมที่ฉลาดสุดๆกับตลกสุดๆ ด้วย
คุณแทบจะเป็นอัจฉริยะเลยครับ ประมาณว่าคิดได้ไงวะ เพราะมันสื่อได้ถึงความคิดความฉลาดของคุณได้ด้วยครับ
สองอย่างนี้นอกจากจะทำให้คุณเจ๋งแล้ว ยังเป็นการเพิ่มไหวพริบให้กับตัวคุณได้มากๆครับ คุณอาจลองฝึกโดยการคิดคำคมหรือมุขตลก แล้วจดลง
ในโน้ตส่วนตัวของคุณ จดไปจดมาแล้วกลับมาอ่านซํ้าแก้ไขเพิ่มเติมเป็นการเพิ่มทักษะได้ครับ เป็นการเพิ่มกระบวนการคิดด้วย แล้วความคิดของคุณจะ
ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ
ผมเขียนไม่ค่อยเก่งนะครับ ต้องขออภัย เด๋วจะมาเพิ่มเติมครับ