ในวงการเพลง นอกจากการทำเพลง ทำอัลบั้ม ที่ชื่อศิลปิน มักจะเป็นผู้ขับร้องเองในกรณีศิลปินเดี่ยว หรือเป็นนักร้องนำในกรณีวงดนตรีนั้น ก็ยังมีอีกจำพวกหนึ่ง ที่เจ้าของผลงาน ทำหน้าที่แต่งเพลงออกมา แล้วกระจายทุกเพลง หรือบางเพลงต่อให้คนอื่น ๆ ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวในเพลงด้วยเสียงร้องได้ดีกว่า คัดสรรนักดนตรีมาช่วยเรียบเรียงเพลง จนเป็นอัลบั้ม ซึ่งรูปแบบนี้เราคงเห็นได้ชัดเจน และง่ายสุด จากงานอัลบั้มเต็มทุกอัลบั้มของ บอย โกสิยพงษ์ และมีอีกหลายศิลปิน ที่ทำลักษณะคล้ายกัน เช่น โปรเจกต์ Sleepless Society ของหนึ่ง ณรงค์วิทย์, โปรเจกต์ Love maker by am.pm. ของสองนักแต่งเพลง แม็ค-ปิง รวมทั้งงานเดี่ยวของ แม็ค ศรัณย์ ที่อัลบั้มจะตามมาในอนาคต, Synkornize, Studiotomo, Sleeper1, Save Da Last Piece, เอิ้น พิยะดา ฯลฯ หรือขนาดแสตมป์ อภิวัชร์ ก็เคยคิดจะทำแบบนี้ใน Million Ways To Write Part 1 ซึ่งข้อดีของงานแนวนี้ คือ การเปิดกว้างในเรื่องนักร้อง นักดนตรี แนวเพลงมากขึ้น ทำให้มีผู้บอกเล่าเรื่องราวได้เหมาะสม หลากหลายขึ้น อัลบั้มเดียวกัน สามารถสร้างเรื่องราว เล่าจากคนวัยใด เพศใด บุคลิกแบบใด ก็ได้
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น เจ้าของนามแฝงว่า
Hui United ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น หรือ
Hui United เป็นศิลปินหน้าใหม่ จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ (คณะเดียวกันกับผู้เขียน แต่พี่ฮุยเป็นรุ่นพี่ห่างกันอยู่หลายปีมาก จึงไม่เคยเจอกันมาก่อน) ทำงานด้านซอฟท์แวร์มา 16 ปี ก่อนจะตัดสินใจพักงานออกมาตามความฝันของตัวเอง คือการเล่นดนตรีและแต่งเพลง เจ้าตัวใช้เวลาในการเขียนเพลง ทำอัลบั้มอยู่สองปี โดยระหว่างทางก็มีรุ่นพี่ฝีมือดีมาช่วยให้คำแนะนำ ทั้ง บรรณ สุวรรณโณชิน (ที่ควบตำแหน่งโปรดิวซ์ในอัลบั้มนี้ 3 เพลง), และ บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งรายหลังมีส่วนช่วยทั้งคำแนะนำ ความคิดเห็นติชม แรงกระตุ้น และกำลังใจ กับฮุยเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากคำขอบคุณในปกอัลบั้ม จนในที่สุดอัลบั้มนี้ก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โดยมีรูปแบบอย่างที่กล่าวไปในย่อหน้าแรก คือ ฮุยเขียนเองทุกเพลง โดยวิธีการเขียนเพลงได้แรงบันดาลใจจากยอดฝีมือยุค 80-90 ทั้งประภาส ชลศรานนท์, ศุ บุญเลี้ยง, บอย โกสิยพงษ์ ผสมกับประสบการณ์ชีวิตของตน รวมทั้งรับหน้าที่ Co-Producer แต่ไม่ได้ร้องเอง โดยให้นักร้องมาช่วยให้เสียงภาษาไทยหลายคน คนละ 1-3 เพลง มีโปรดิวเซอร์ 3 คนได้แก่ บรรณ สุวรรณโณชิน, โดม ดุษฎีเชษฐากุล (วง Cookie & Cream) และ มิตร-สามิตร ดิษฐสูงเนิน (วง Cairotera และเป็น Sound Engineer ของ LOVEiS) มาช่วยแบ่ง ๆ กันเรียบเรียงเพลงในอัลบั้ม ทำกันเอง โปรโมทเอง ไม่มีสังกัด
Will You Marry Me? เพลงแบบ Bossa แต่งจากความรู้สึก ความทรงจำในตอนที่พบ รัก และแต่งงานกับภรรยา ถ้าคิดว่าเพลง ลูกอม เกร่อไป ลองหยิบเพลงนี้ไปใช้ในงานแต่งงานของคุณก็ได้นะ ท่อนฮุคที่บรรยายฉากขอแต่งงานได้เรียบง่าย และชัดเจนมาก ทำให้นึกถึง พี่จิก ประภาส หรือรุ่นน้องอย่าง แสตมป์ อภิวัชร์ ที่มีวิธีการเขียนเนื้อเพลงบรรยายภาพเหตุการณ์ชัดเจนแบบนี้เช่นกัน ต่อด้วย
ความสุขของฉัน ที่ยังฉลาดในการบรรยายภาพ การใช้เสียงนักร้องหญิง (จิ๋ว-วรรณิภา วงศ์จารุกร) มาร้อง ทำให้นึกภาพแม่บ้าน ที่ตื่นมาเตรียมอาหาร และข้าวของให้คุณพ่อบ้าน ที่กำลังจะตื่นไปทำงาน และช่วยนวดให้ เวลาคุณพ่อบ้านกลับมาบ้านด้วยอาการเมื่อยล้า ดนตรียังฟังสบายโรแมนติก ต่อเนื่องจากเพลงแรก และยังคงบรรยากาศนี้จนถึงเพลง
Hua Hin on my mind ที่คงไว้ด้วยดนตรีแบบ Bossa พูดถึงหัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฮุยไปบ่อย ๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก ถ้าตั้งใจฟังเอาเนื้อเพลง จะพบว่าบรรยายถึงหัวหินได้ทั้งบรรยากาศสถานที่ และความรู้สึก หรือถ้าฟังเอาทำนองเรื่อย ๆ ก็ติดหู เสียงร้องของ ธีรวีร์ ปุณณะภุม จากวง 32 October ก็เพราะ ฟังเพลินดี และน่าจะเป็นเพลงที่หลายคนอาจคุ้นหู โดยเฉพาะคนที่ฟัง Fat Radio เพราะเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้เปิดทางคลื่นนี้
แก้วใจ เป็นเพลงที่ใช้เสียงผู้หญิงถ่ายทอดอีกเพลงในอัลบั้มนี้ โดยถ่ายทอดในมุมของคนเป็นแม่ บรรยายความรู้สึกที่มีต่อลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลก เสียงของ จิ๋ว วรรณิภา ที่ร้อง 2 เพลงในอัลบั้มนี้ไพเราะมาก จนไม่น่าเชื่อเช่นกัน ที่เธอไม่ค่อยมีผลงานเพลงมากเท่าไร มีไลน์กีตาร์เพราะ ๆ จาก วุฒิ วงศ์สรรเสริญ (The Begins) ดนตรีจะต่างจากเพลงก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังไม่ค่อยฉีกอารมณ์ออกมาจาก 3 เพลงแรกนัก ต่อด้วย
Happy Song จังหวะแบบ Reggae เพลิน ๆ ขยับจังหวะขึ้นมาบ้าง พูดถึงความสุข ที่บางทีไม่ต้องไปหาไกล หรือใหญ่เกินตัว แค่เรื่องเล็ก ๆ ทำให้ยิ้มได้ก็พอ ร้องโดย ถิรวัฒน์ ศรีสุรางค์ หรือ อิฐ Cookie & Cream ที่หลายคนอาจคุ้นจากช่วง ดันดาราใน ตี 10
Loss เพลงแนว Blues มีโซโล่กีตาร์ Blues จัด ๆ เสียงคีย์บอร์ดแบบวินเทจเล็กน้อย คล้าย ๆ เสียงจาก Rhodes Piano เป็นเพลงอกหักเพลงเดียวในอัลบั้ม พูดถึงคนที่ไม่รักษาความรักตัวเองให้ดี แล้วมารู้สึกผิดเมื่อสายไป ร้องโดย ต๋อง The Begins ที่ปกติจะคุ้นชินกับเสียงร้องเพลงแนว Disco แบบ The Bee Gees บีบเสียงแหลมเล็ก พอมาร้องเพลงนี้ที่ร้องเต็มเสียง ก็เป็นอีกแบบที่ไพเราะไม่แพ้กัน หากเทียบกับ 5 เพลงแรก เพลงนี้ฉีกแนวออกมาอย่างหักดิบเล็กน้อย แต่ถ้ามองเฉพาะเพลง เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยม ด้วยคำร้องทำนอง เสียงร้อง และดนตรีที่เรียบเรียงโดยมิตร Cairotera เป็นเพลงที่ชอบสุดเพลงหนึ่งในอัลบั้มนี้
มือถือของเธอ Pop Rock จังหวะสนุกสนาน ในยุคนี้เราคงเริ่มชินกับเพลงที่แต่งยั่วล้อคนที่ก้มหน้าก้มตากดมือถือ ทั้ง โอมจงเงย ของแสตมป์ หรือ ระบายเฉยๆ ของ Room39 เพลงนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น** เพลงเล่าถึงคนที่นั่งรถไฟฟ้า (ชัดเจนด้วยเสียงสถานี นานา ฮาๆ) เอาแต่ก้มหน้ากดมือถือ ว่าควรจะเงยหน้าขึ้นมาดูรอบตัวบ้าง เพราะอาจจะมีคนบนรถที่อยากทำความรู้จัก หรืออาจเจอเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจเกิดขึ้นก็ได้
อาสา เพลงที่แต่งให้เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อหลายปีก่อน เพื่อขอบคุณ และเชิดชูอาสาสมัครทุกท่าน ที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่โดยรวมทั้งเพลงไม่ค่อยเด่นนัก
กรุงเทพ เป็นเพลง Pop จังหวะกลาง พูดถึงคนที่ต้องจากกรุงเทพบ้านเกิด ไปทำงานต่างจังหวัด อย่างสายงานวิศวกรรมที่ฮุยเรียนจบมา ก็มีหลายคนที่ต้องจากกรุงเทพ ไปทำงานที่โรงงาน หรือนิคมต่างจังหวัด ไกลบ้าน เป็นอีกเพลงจากเสียงร้องของ อิฐ ตี 10 สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดด้วย
Natural Wonder อีกเพลงที่เด่นเรื่องบรรยายให้เห็นภาพชัดเจน ย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เราเคยเจอตอนเด็ก ๆ ทั้งไมยราพหุบใบ ต้อยติ่งที่ระเบิดเวลาโดนน้ำ ที่พอเราโตมา แม้จะพบว่ามันเป็นเรื่องที่อธิบายได้ แต่ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอสิ่งนี้ตอนเยาว์วัย ก็ทำให้เรารู้สึกดี ทั้งเนื้อหาเพลงที่ฮุยแต่ง และดนตรีที่เรียบเรียงโดย บรรณ สุวรรณโณชิน ชวนนึกถึงเพลง นิทานหิ่งห้อย ของเฉลียง ที่แม้ Natural Wonder จะไม่คมคาย ไม่ติดหูเท่า นิทานหิ่งห้อยที่พี่จิก ประภาส เขียน แต่สองเพลงนี้ก็มีแง่งามคล้ายคลึงกัน แถมท้ายอัลบั้มด้วย
Hua Hin on my mind ฉบับบรรเลง ที่มีเสียงคีย์บอร์ดมาแทนเสียงร้อง เรียบเรียงโดยบรรณ สุวรรณโณชิน
แนวเพลงในอัลบั้มนี้ มีผสมกันทั้งเพลงเบาสบายเพลิน ๆ โรแมนติก เป็น Easy Listening ทั้ง Bossanova, Reggae, Pop, Acoustic และแนวเพลงที่หนักขึ้นมาหน่อย มีจังหวะ มีเสียงกีตาร์ไฟฟ้าเข้ามาผสมทั้ง Blues, Pop Rock แม้จะโดดเด่น จนเพลงหลัง ๆ ในอัลบั้มกลายเป็นเนือยลงไปอย่างน่าใจหาย (ประกอบกับ 3 เพลงท้าย ก็ไม่เด่นหรือติดหูเองด้วย) แต่ก็ยังไม่หลุดจากความเป็น Easy Listening มากนัก เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่ เป็นเรื่องรอบตัวของฮุยแทบทั้งสิ้น ทั้งคน เหตุการณ์ หรือ สถานที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ศิลปินและนักแต่งเพลงหน้าใหม่หลายคน มักจะหยิบมาเล่า เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัว เห็นภาพง่าย เขียนบรรยายได้ง่าย แต่สิ่งที่ฮุยแตกต่างจากศิลปินหน้าใหม่คนอื่น ๆ คือวัยวุฒิ และแนวคิดในการเล่าเรื่อง เนื่องจากเริ่มทำอัลบั้มนี้ในวัยขึ้นเลข 4 ทำให้มุมมองต่อเรื่องราวพวกนี้ ดูเป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน สุขุมขึ้น ผสมกับวิธีการเขียนเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากทั้งประภาส ชลศรานนท์, ศุ บุญเลี้ยง, บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงที่เจนจัดทั้งแนวคิด การเขียนเพลงให้เห็นภาพ คำที่ใช้ และสัมผัสในเพลง ซึ่งหายากเหลือเกิน ในนักแต่งเพลงบางส่วนของวงการเพลงช่วงนี้
ทำให้ได้งานเพลงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากศิลปินหน้าใหม่ ที่เพิ่งมีผลงานเพลงจริงจังอัลบั้มแรก
อาจมีเนือยบ้าง ไม่ติดหูบ้าง แผ่วปลายบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นงานอัลบั้ม Easy Listening ที่น่าสนใจครับ
เพลงแนะนำ
Will You Marry Me?, Hua Hin on my mind, Loss, มือถือของเธอ
Hui United : Hui United (Album: 1)
Hui United คือ ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น
โปรดิวเซอร์
บรรณ สุวรรณโณชิน (เพลงที่ 2, 3, 10)
โดม ดุษฎีเชษฐากุล (เพลงที่ 1, 5, 7, 8, 9)
และ สามิตร ดิษฐสูงเนิน (เพลงที่ 4, 6)
เนื้อร้อง / ทำนอง / โปรดิวเซอร์ร่วม
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น
[SR] <<Review>> Hui United : Hui United (Album: 1)
ในวงการเพลง นอกจากการทำเพลง ทำอัลบั้ม ที่ชื่อศิลปิน มักจะเป็นผู้ขับร้องเองในกรณีศิลปินเดี่ยว หรือเป็นนักร้องนำในกรณีวงดนตรีนั้น ก็ยังมีอีกจำพวกหนึ่ง ที่เจ้าของผลงาน ทำหน้าที่แต่งเพลงออกมา แล้วกระจายทุกเพลง หรือบางเพลงต่อให้คนอื่น ๆ ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวในเพลงด้วยเสียงร้องได้ดีกว่า คัดสรรนักดนตรีมาช่วยเรียบเรียงเพลง จนเป็นอัลบั้ม ซึ่งรูปแบบนี้เราคงเห็นได้ชัดเจน และง่ายสุด จากงานอัลบั้มเต็มทุกอัลบั้มของ บอย โกสิยพงษ์ และมีอีกหลายศิลปิน ที่ทำลักษณะคล้ายกัน เช่น โปรเจกต์ Sleepless Society ของหนึ่ง ณรงค์วิทย์, โปรเจกต์ Love maker by am.pm. ของสองนักแต่งเพลง แม็ค-ปิง รวมทั้งงานเดี่ยวของ แม็ค ศรัณย์ ที่อัลบั้มจะตามมาในอนาคต, Synkornize, Studiotomo, Sleeper1, Save Da Last Piece, เอิ้น พิยะดา ฯลฯ หรือขนาดแสตมป์ อภิวัชร์ ก็เคยคิดจะทำแบบนี้ใน Million Ways To Write Part 1 ซึ่งข้อดีของงานแนวนี้ คือ การเปิดกว้างในเรื่องนักร้อง นักดนตรี แนวเพลงมากขึ้น ทำให้มีผู้บอกเล่าเรื่องราวได้เหมาะสม หลากหลายขึ้น อัลบั้มเดียวกัน สามารถสร้างเรื่องราว เล่าจากคนวัยใด เพศใด บุคลิกแบบใด ก็ได้
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น เจ้าของนามแฝงว่า Hui United ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น หรือ Hui United เป็นศิลปินหน้าใหม่ จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ (คณะเดียวกันกับผู้เขียน แต่พี่ฮุยเป็นรุ่นพี่ห่างกันอยู่หลายปีมาก จึงไม่เคยเจอกันมาก่อน) ทำงานด้านซอฟท์แวร์มา 16 ปี ก่อนจะตัดสินใจพักงานออกมาตามความฝันของตัวเอง คือการเล่นดนตรีและแต่งเพลง เจ้าตัวใช้เวลาในการเขียนเพลง ทำอัลบั้มอยู่สองปี โดยระหว่างทางก็มีรุ่นพี่ฝีมือดีมาช่วยให้คำแนะนำ ทั้ง บรรณ สุวรรณโณชิน (ที่ควบตำแหน่งโปรดิวซ์ในอัลบั้มนี้ 3 เพลง), และ บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งรายหลังมีส่วนช่วยทั้งคำแนะนำ ความคิดเห็นติชม แรงกระตุ้น และกำลังใจ กับฮุยเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากคำขอบคุณในปกอัลบั้ม จนในที่สุดอัลบั้มนี้ก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง โดยมีรูปแบบอย่างที่กล่าวไปในย่อหน้าแรก คือ ฮุยเขียนเองทุกเพลง โดยวิธีการเขียนเพลงได้แรงบันดาลใจจากยอดฝีมือยุค 80-90 ทั้งประภาส ชลศรานนท์, ศุ บุญเลี้ยง, บอย โกสิยพงษ์ ผสมกับประสบการณ์ชีวิตของตน รวมทั้งรับหน้าที่ Co-Producer แต่ไม่ได้ร้องเอง โดยให้นักร้องมาช่วยให้เสียงภาษาไทยหลายคน คนละ 1-3 เพลง มีโปรดิวเซอร์ 3 คนได้แก่ บรรณ สุวรรณโณชิน, โดม ดุษฎีเชษฐากุล (วง Cookie & Cream) และ มิตร-สามิตร ดิษฐสูงเนิน (วง Cairotera และเป็น Sound Engineer ของ LOVEiS) มาช่วยแบ่ง ๆ กันเรียบเรียงเพลงในอัลบั้ม ทำกันเอง โปรโมทเอง ไม่มีสังกัด
Will You Marry Me? เพลงแบบ Bossa แต่งจากความรู้สึก ความทรงจำในตอนที่พบ รัก และแต่งงานกับภรรยา ถ้าคิดว่าเพลง ลูกอม เกร่อไป ลองหยิบเพลงนี้ไปใช้ในงานแต่งงานของคุณก็ได้นะ ท่อนฮุคที่บรรยายฉากขอแต่งงานได้เรียบง่าย และชัดเจนมาก ทำให้นึกถึง พี่จิก ประภาส หรือรุ่นน้องอย่าง แสตมป์ อภิวัชร์ ที่มีวิธีการเขียนเนื้อเพลงบรรยายภาพเหตุการณ์ชัดเจนแบบนี้เช่นกัน ต่อด้วย ความสุขของฉัน ที่ยังฉลาดในการบรรยายภาพ การใช้เสียงนักร้องหญิง (จิ๋ว-วรรณิภา วงศ์จารุกร) มาร้อง ทำให้นึกภาพแม่บ้าน ที่ตื่นมาเตรียมอาหาร และข้าวของให้คุณพ่อบ้าน ที่กำลังจะตื่นไปทำงาน และช่วยนวดให้ เวลาคุณพ่อบ้านกลับมาบ้านด้วยอาการเมื่อยล้า ดนตรียังฟังสบายโรแมนติก ต่อเนื่องจากเพลงแรก และยังคงบรรยากาศนี้จนถึงเพลง Hua Hin on my mind ที่คงไว้ด้วยดนตรีแบบ Bossa พูดถึงหัวหิน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ฮุยไปบ่อย ๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก ถ้าตั้งใจฟังเอาเนื้อเพลง จะพบว่าบรรยายถึงหัวหินได้ทั้งบรรยากาศสถานที่ และความรู้สึก หรือถ้าฟังเอาทำนองเรื่อย ๆ ก็ติดหู เสียงร้องของ ธีรวีร์ ปุณณะภุม จากวง 32 October ก็เพราะ ฟังเพลินดี และน่าจะเป็นเพลงที่หลายคนอาจคุ้นหู โดยเฉพาะคนที่ฟัง Fat Radio เพราะเป็นหนึ่งในเพลงที่ได้เปิดทางคลื่นนี้ แก้วใจ เป็นเพลงที่ใช้เสียงผู้หญิงถ่ายทอดอีกเพลงในอัลบั้มนี้ โดยถ่ายทอดในมุมของคนเป็นแม่ บรรยายความรู้สึกที่มีต่อลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลก เสียงของ จิ๋ว วรรณิภา ที่ร้อง 2 เพลงในอัลบั้มนี้ไพเราะมาก จนไม่น่าเชื่อเช่นกัน ที่เธอไม่ค่อยมีผลงานเพลงมากเท่าไร มีไลน์กีตาร์เพราะ ๆ จาก วุฒิ วงศ์สรรเสริญ (The Begins) ดนตรีจะต่างจากเพลงก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังไม่ค่อยฉีกอารมณ์ออกมาจาก 3 เพลงแรกนัก ต่อด้วย Happy Song จังหวะแบบ Reggae เพลิน ๆ ขยับจังหวะขึ้นมาบ้าง พูดถึงความสุข ที่บางทีไม่ต้องไปหาไกล หรือใหญ่เกินตัว แค่เรื่องเล็ก ๆ ทำให้ยิ้มได้ก็พอ ร้องโดย ถิรวัฒน์ ศรีสุรางค์ หรือ อิฐ Cookie & Cream ที่หลายคนอาจคุ้นจากช่วง ดันดาราใน ตี 10
Loss เพลงแนว Blues มีโซโล่กีตาร์ Blues จัด ๆ เสียงคีย์บอร์ดแบบวินเทจเล็กน้อย คล้าย ๆ เสียงจาก Rhodes Piano เป็นเพลงอกหักเพลงเดียวในอัลบั้ม พูดถึงคนที่ไม่รักษาความรักตัวเองให้ดี แล้วมารู้สึกผิดเมื่อสายไป ร้องโดย ต๋อง The Begins ที่ปกติจะคุ้นชินกับเสียงร้องเพลงแนว Disco แบบ The Bee Gees บีบเสียงแหลมเล็ก พอมาร้องเพลงนี้ที่ร้องเต็มเสียง ก็เป็นอีกแบบที่ไพเราะไม่แพ้กัน หากเทียบกับ 5 เพลงแรก เพลงนี้ฉีกแนวออกมาอย่างหักดิบเล็กน้อย แต่ถ้ามองเฉพาะเพลง เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ยอดเยี่ยม ด้วยคำร้องทำนอง เสียงร้อง และดนตรีที่เรียบเรียงโดยมิตร Cairotera เป็นเพลงที่ชอบสุดเพลงหนึ่งในอัลบั้มนี้ มือถือของเธอ Pop Rock จังหวะสนุกสนาน ในยุคนี้เราคงเริ่มชินกับเพลงที่แต่งยั่วล้อคนที่ก้มหน้าก้มตากดมือถือ ทั้ง โอมจงเงย ของแสตมป์ หรือ ระบายเฉยๆ ของ Room39 เพลงนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น** เพลงเล่าถึงคนที่นั่งรถไฟฟ้า (ชัดเจนด้วยเสียงสถานี นานา ฮาๆ) เอาแต่ก้มหน้ากดมือถือ ว่าควรจะเงยหน้าขึ้นมาดูรอบตัวบ้าง เพราะอาจจะมีคนบนรถที่อยากทำความรู้จัก หรืออาจเจอเรื่องบังเอิญที่น่าสนใจเกิดขึ้นก็ได้ อาสา เพลงที่แต่งให้เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อหลายปีก่อน เพื่อขอบคุณ และเชิดชูอาสาสมัครทุกท่าน ที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่โดยรวมทั้งเพลงไม่ค่อยเด่นนัก กรุงเทพ เป็นเพลง Pop จังหวะกลาง พูดถึงคนที่ต้องจากกรุงเทพบ้านเกิด ไปทำงานต่างจังหวัด อย่างสายงานวิศวกรรมที่ฮุยเรียนจบมา ก็มีหลายคนที่ต้องจากกรุงเทพ ไปทำงานที่โรงงาน หรือนิคมต่างจังหวัด ไกลบ้าน เป็นอีกเพลงจากเสียงร้องของ อิฐ ตี 10 สุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดด้วย Natural Wonder อีกเพลงที่เด่นเรื่องบรรยายให้เห็นภาพชัดเจน ย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เราเคยเจอตอนเด็ก ๆ ทั้งไมยราพหุบใบ ต้อยติ่งที่ระเบิดเวลาโดนน้ำ ที่พอเราโตมา แม้จะพบว่ามันเป็นเรื่องที่อธิบายได้ แต่ความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอสิ่งนี้ตอนเยาว์วัย ก็ทำให้เรารู้สึกดี ทั้งเนื้อหาเพลงที่ฮุยแต่ง และดนตรีที่เรียบเรียงโดย บรรณ สุวรรณโณชิน ชวนนึกถึงเพลง นิทานหิ่งห้อย ของเฉลียง ที่แม้ Natural Wonder จะไม่คมคาย ไม่ติดหูเท่า นิทานหิ่งห้อยที่พี่จิก ประภาส เขียน แต่สองเพลงนี้ก็มีแง่งามคล้ายคลึงกัน แถมท้ายอัลบั้มด้วย Hua Hin on my mind ฉบับบรรเลง ที่มีเสียงคีย์บอร์ดมาแทนเสียงร้อง เรียบเรียงโดยบรรณ สุวรรณโณชิน
แนวเพลงในอัลบั้มนี้ มีผสมกันทั้งเพลงเบาสบายเพลิน ๆ โรแมนติก เป็น Easy Listening ทั้ง Bossanova, Reggae, Pop, Acoustic และแนวเพลงที่หนักขึ้นมาหน่อย มีจังหวะ มีเสียงกีตาร์ไฟฟ้าเข้ามาผสมทั้ง Blues, Pop Rock แม้จะโดดเด่น จนเพลงหลัง ๆ ในอัลบั้มกลายเป็นเนือยลงไปอย่างน่าใจหาย (ประกอบกับ 3 เพลงท้าย ก็ไม่เด่นหรือติดหูเองด้วย) แต่ก็ยังไม่หลุดจากความเป็น Easy Listening มากนัก เนื้อหาเพลงส่วนใหญ่ เป็นเรื่องรอบตัวของฮุยแทบทั้งสิ้น ทั้งคน เหตุการณ์ หรือ สถานที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ศิลปินและนักแต่งเพลงหน้าใหม่หลายคน มักจะหยิบมาเล่า เพราะเป็นสิ่งใกล้ตัว เห็นภาพง่าย เขียนบรรยายได้ง่าย แต่สิ่งที่ฮุยแตกต่างจากศิลปินหน้าใหม่คนอื่น ๆ คือวัยวุฒิ และแนวคิดในการเล่าเรื่อง เนื่องจากเริ่มทำอัลบั้มนี้ในวัยขึ้นเลข 4 ทำให้มุมมองต่อเรื่องราวพวกนี้ ดูเป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน สุขุมขึ้น ผสมกับวิธีการเขียนเพลงที่ได้แรงบันดาลใจจากทั้งประภาส ชลศรานนท์, ศุ บุญเลี้ยง, บอย โกสิยพงษ์ ซึ่งเป็นนักแต่งเพลงที่เจนจัดทั้งแนวคิด การเขียนเพลงให้เห็นภาพ คำที่ใช้ และสัมผัสในเพลง ซึ่งหายากเหลือเกิน ในนักแต่งเพลงบางส่วนของวงการเพลงช่วงนี้
ทำให้ได้งานเพลงที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาจากศิลปินหน้าใหม่ ที่เพิ่งมีผลงานเพลงจริงจังอัลบั้มแรก
อาจมีเนือยบ้าง ไม่ติดหูบ้าง แผ่วปลายบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นงานอัลบั้ม Easy Listening ที่น่าสนใจครับ
เพลงแนะนำ
Will You Marry Me?, Hua Hin on my mind, Loss, มือถือของเธอ
Hui United : Hui United (Album: 1)
Hui United คือ ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น
โปรดิวเซอร์
บรรณ สุวรรณโณชิน (เพลงที่ 2, 3, 10)
โดม ดุษฎีเชษฐากุล (เพลงที่ 1, 5, 7, 8, 9)
และ สามิตร ดิษฐสูงเนิน (เพลงที่ 4, 6)
เนื้อร้อง / ทำนอง / โปรดิวเซอร์ร่วม
ฮุย-อาภากร บุญคงชื่น
หมายเหตุ
- ขอบคุณพี่ฮุย ที่ให้เกียรติและเอื้อเฟื้อแผ่นอัลบั้มทั้งสองชุด รวมทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมในหลายจุดครับ
- ภาพประกอบทั้งหมดจาก facebook.com/Hui.United และ facebook.com/arpakornb ครับ
- ขอบคุณ คุณเซียวเล้ง ที่ช่วยนึกรายชื่อศิลปินในย่อหน้าแรกของบทความ
** แต่เพลง มือถือของเธอ ถูกแต่งและเผยแพร่ ก่อน ระบายเฉย ๆ และ โอมจงเงย ครึ่งปีและหนึ่งปี ตามลำดับครับ