Tuesday, March 11, 2014 -- [p900] SET:"จรัมพร"ไม่ลงสมัครผู้จัดการตลท.รอบใหม่ เหตุบริหารงานได้ตามเป้าแล้ว
กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--รอยเตอร์
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เผยว่า จะไม่ลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลท. ในรอบที่จะถึงนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่บรรลุตามเป้าหมายแล้ว
เขา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้แจ้งคณะกรรมการ ตลท. ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ว่า
จะไม่ลงสมัครในครั้งนี้ จึงทำให้มีกระบวนการสรรหาผู้จัดการตลท.คนใหม่ตั้งแต่เดือนก.ย.56
ก่อนหน้านี้ นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหาร ของ ตลท.
ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองสรรหากรรมการและผู้จัดการตลท. กล่าวว่าขณะนี้
ได้เปิดรับสมัครบุคคลที่จะมารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลท.แทนนายจรัมพร ที่กำลัง
จะครบวาระ ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยตลท.เริ่มเปิดรับใบสมัคร ตั้งแต่วันนี้-21 มี.ค.57
จากนั้นคาดว่า จะทราบผลการพิจารณา ไม่เกินเดือนเม.ย.นี้ และผู้จัดการคนใหม่
น่าจะเริ่มเข้ามาบริหารงานได้ ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
นายจรัมพร กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา
ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายสมบูรณ์แล้ว ทั้งการพัฒนาในเชิงคุณภาพและปริมาณ ดังนั้น
จึงถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ
"ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำหน้าที่ตามทีโออาร์ ที่สมบูรณ์แล้ว ถ้าดูในแง่ของ
performance ต่างๆก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน เช่น แง่ของ CG ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์
จึงอยู่ใน position ที่จะเดินต่อได้" นายจรัมพร กล่าวกับผู้สื่อข่าว
เขากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลท.มีผลการดำเนินงานในหลายๆ ด้านเทียบเคียบกับ
สิงคโปร์ และ บางด้านที่สูงกว่า เช่น มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน การนำหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียน
ในตลาด ซึ่งปีก่อน ตลาดหลักทรัพย์ทำได้สูงสุดในภูมิภาค มูลค่า 3.46 แสนล้านบาท
ขณะที่คาดว่า ในปีนี้ แม้มูลค่าการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาจะค่อนข้างชะลอตัว เมื่อเทียบ
กับปีก่อน แต่เชื่อมั่นว่า ตลาดทั้งปีจะยังคงสูงกว่าเมื่อเทียบกับสิงคโปร์
นายจรัมพร กล่าวว่า ปัจจัยบวกจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐและยุโรป
รวมถึงจีน ซึ่งจะสะท้อนผลดีมายังกลุ่มประเทศต่างๆ รวมถึง อาเซียน
ขณะเดียวกัน หากไทยมีความชัดเจนเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองก็จะยิ่งทำให้เติบโตได้ดี
ตามภูมิภาคด้วย
เขา กล่าวว่า การแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์ ในลำดับถัดไป เป้าหมายคือ การแข่งขัน
กับตลาดหุ้นไต้หวัน ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก
แต่ตลาดหุ้นไต้หวันได้เปรียบในแง่ของมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่าไทย
ดังนั้น ตลท.จึงต้องพยายามศึกษาถึงกลไกที่จะผลักดันให้สามารถมีศักยภาพแข่งขันกับตลาด
ไต้หวัน ได้ เช่น การพัฒนาตราสารทางการลงุทนให้ซับซ้อนขึ้นในสินค้าอนุพันธ์ เป็นต้น--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--ฉก--)
((wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;
โทร.0-2648-9756;ReutersMessaging:wirat.
buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@reuters.net))
[p900] SET:"จรัมพร"ไม่ลงสมัครผู้จัดการตลท.รอบใหม่ เหตุบริหารงานได้ตามเป้าแล้ว -- หุ้นขึ้นเพราะข่าวนี้!!!
กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--รอยเตอร์
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) เผยว่า จะไม่ลงสมัครเพื่อชิงตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการตลท. ในรอบที่จะถึงนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่บรรลุตามเป้าหมายแล้ว
เขา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้แจ้งคณะกรรมการ ตลท. ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ว่า
จะไม่ลงสมัครในครั้งนี้ จึงทำให้มีกระบวนการสรรหาผู้จัดการตลท.คนใหม่ตั้งแต่เดือนก.ย.56
ก่อนหน้านี้ นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหาร ของ ตลท.
ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองสรรหากรรมการและผู้จัดการตลท. กล่าวว่าขณะนี้
ได้เปิดรับสมัครบุคคลที่จะมารับตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลท.แทนนายจรัมพร ที่กำลัง
จะครบวาระ ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ โดยตลท.เริ่มเปิดรับใบสมัคร ตั้งแต่วันนี้-21 มี.ค.57
จากนั้นคาดว่า จะทราบผลการพิจารณา ไม่เกินเดือนเม.ย.นี้ และผู้จัดการคนใหม่
น่าจะเริ่มเข้ามาบริหารงานได้ ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
นายจรัมพร กล่าวถึงสาเหตุที่ไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนี้อีกครั้ง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา
ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายสมบูรณ์แล้ว ทั้งการพัฒนาในเชิงคุณภาพและปริมาณ ดังนั้น
จึงถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ
"ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำหน้าที่ตามทีโออาร์ ที่สมบูรณ์แล้ว ถ้าดูในแง่ของ
performance ต่างๆก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน เช่น แง่ของ CG ดังนั้นตลาดหลักทรัพย์
จึงอยู่ใน position ที่จะเดินต่อได้" นายจรัมพร กล่าวกับผู้สื่อข่าว
เขากล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลท.มีผลการดำเนินงานในหลายๆ ด้านเทียบเคียบกับ
สิงคโปร์ และ บางด้านที่สูงกว่า เช่น มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน การนำหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียน
ในตลาด ซึ่งปีก่อน ตลาดหลักทรัพย์ทำได้สูงสุดในภูมิภาค มูลค่า 3.46 แสนล้านบาท
ขณะที่คาดว่า ในปีนี้ แม้มูลค่าการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาจะค่อนข้างชะลอตัว เมื่อเทียบ
กับปีก่อน แต่เชื่อมั่นว่า ตลาดทั้งปีจะยังคงสูงกว่าเมื่อเทียบกับสิงคโปร์
นายจรัมพร กล่าวว่า ปัจจัยบวกจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐและยุโรป
รวมถึงจีน ซึ่งจะสะท้อนผลดีมายังกลุ่มประเทศต่างๆ รวมถึง อาเซียน
ขณะเดียวกัน หากไทยมีความชัดเจนเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองก็จะยิ่งทำให้เติบโตได้ดี
ตามภูมิภาคด้วย
เขา กล่าวว่า การแข่งขันของตลาดหลักทรัพย์ ในลำดับถัดไป เป้าหมายคือ การแข่งขัน
กับตลาดหุ้นไต้หวัน ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับตลาดหุ้นไทย เนื่องจากมีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก
แต่ตลาดหุ้นไต้หวันได้เปรียบในแง่ของมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่าไทย
ดังนั้น ตลท.จึงต้องพยายามศึกษาถึงกลไกที่จะผลักดันให้สามารถมีศักยภาพแข่งขันกับตลาด
ไต้หวัน ได้ เช่น การพัฒนาตราสารทางการลงุทนให้ซับซ้อนขึ้นในสินค้าอนุพันธ์ เป็นต้น--จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--ฉก--)
((wirat.buranakanokthanasan@thomsonreuters.com;
โทร.0-2648-9756;ReutersMessaging:wirat.
buranakanokthanasan.thomsonreuters.com@reuters.net))