อายุ 26 ไม่มีประสบการณ์การทำงาน และยังไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร จะหางานทำได้บ้างไหมครับ

ผมอายุ 26 เรียนจบมาแล้ว 2 ปี  ตลอดสองปีที่เรียนจบมาทำงานเป็นพนักงานในร้านขายของของญาติ ด้วยความสิ้นคิดและรักสบาย ไม่เคยคิดอยากจะทำงานอะไรเลย รู้สึกเฉย ๆ มาก ๆ เหมือนอยู่ไปแบบวันต่อวัน สนุกกับการเล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลงไป ไม่เคยคิดอะไรจริง ๆ จัง ๆ กับเขาสักที


จนเช้าวันหนึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ผมตื่นขึ้นตอนเช้า อาบน้ำแต่งตัว โบกวินมอเตอร์ไซด์เพื่อไปทำงาน แต่ออกมาได้ไม่เท่าไรปรากฏว่ามอร์เตอร์ไซรับจ้างชนกับรถตุ๊ก ๆ ส่วนตัวไม่ได้เป็นอะไรมาก มีรอยถลอกนิดหน่อย ฝ่าเท้าถูกที่เหยียบเท้าของผู้โดยสารแทง เย็บไปเจ็ดเข็มโดยหมอจบใหม่ที่ย้ำยาชาไปห้าเข็มแล้วยังเย็บไม่เสร็จ  แต่หลังจากวันนั้นผมเหมือนตื่นขึ้นมาจากฝันอะไรสักอย่าง จากที่เคยรู้สึกว่าเรื่องตายเป็นเรื่องห่างตัวมาก ๆ ก็เริ่มรู้สึกเหมือนมันอยู่ใกล้แค่อีกวินาทีถัดไป   เริ่มเห็นภาพตัวเองเป็นตัวเอกในหนังเรื่องไฟน่อลเดสติเนชั่น เพียงแต่มันเกิดขึ้นจริง ๆ !!! เริ่มถามตัวเองบ่อยขึ้นทุกที่ว่า ชีวิตนี้เราจะอยู่เพื่ออะไร? ทำอะไร? ตายไปแล้วจะมีคนจดจำผมแบบไหน? เริ่มคิดถึงอนาคตว่าถ้าอีกสิบปี ยี่สิบปี ผมจะอยู่อย่างไร? มีชีวิตแบบไหน?  ผมเป็นตุ๊ด ลูกและคู่สมรสดูเหมือนจะเป็นเซเว่นบนเขาชนไก่ คือเหมือนจะมีอยู่จริง หลายคนก็บอกว่ามี แต่มันก็ไม่มีและเป็นไปไม่ได้ กอปรกับเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม่ผมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลทำให้ผมเริ่มเห็นว่า แม่เราแก่แล้วจริง ๆ ว่ะ ถ้ายังทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพายแบบนี้ จะเป็นที่พึ่งให้ใครได้ที่ไหนวะ

ตอนนี้ผมเริ่มคิดจริงจังแล้วว่าอยากหางานทำ งานที่เป็นงานจริง ๆ งานที่เรารู้สึกว่าภูมิใจที่ได้ทำ งานที่เราอยากจะทำจริง ๆ เลยอยากจะขอคำปรึกษาทุก ๆ คนหน่อยครับ

ผมเรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฎแห่งหนึ่ง จันทรเกษม สาขาวิชาภาษาไทย ตอนนี้อายุ 26 ยังไม่ได้เกณฑ์ทหาร และค่าประสบการณ์ (EXP) เป็น 0 (ถ้าไม่นับการฝึกออกงานตอนเรียนปี 4 นะครับ) จบปวช.สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เคยเรียนเอกคอมกราฟิกในระดับมหาวิทยาลัยอยู่ 2 ปีแต่ลาออก คิดอะไรอยู่? จากนั้นก็เรียนภาษาไทยจนจบปริญญาตรี มีทักษะด้านภาษาไทยประเภทร้อยแก้วค่อนข้างดี เคยเขียนนวนิยายประกวดและได้รับรางวัลชมเชยมาเมื่อปี 2008

ส่วนตัวสนใจงานด้านข่าว หนังสือพิมพ์ เขียนบทความ นิตยาสาร วรสาร และสำนักพิมพ์ เพราะผมชอบอ่านและเขียน แต่ก็สนใจงานด้านภาพยนตร์มากพอสมควร ถ้ามีโอกาศก็อยากจะลองทำดู

ขอขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำล่วงหน้านะครับ  



ปล. ทำไมอ่าน ๆ ไปรู้สึกเหมือนกระทู้ของานทำ?

ปล. 2 ผมว่าต้องมีคนสงสัยแน่ ๆ ว่าทำไม่ถึงยังไม่เกณฑ์ทหาร ผมบอกเลยครับว่าเพราะตอนนั้นผมไม่เคยคิดจะทำงานบริษัทเลย พูดให้ชัด ๆ คิดสั้นนั่นแหละครับ ไม่คิดถึงอนาคตให้ดี ๆ แต่ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้วและชีวิตก็ต้องก้าวต่อไป ใช่ไหมครับ? แต่ผมไม่ได้หนีทหารนะครับ เพราะยังไม่เคยขึ้นทะเบียนทหาร หัวหมอนะเมิง

ปล. 3 ผมติดต่อสัสดีจังหวัดเรียบร้อยแล้วครับ ท่านว่า เกณฑ์ปีนี้น่าจะไม่ทัน ให้มาติดต่ออีกครั้งช่วงสิงหาคม

ปล. 4 เนื้อหาที่ผมเขียนอาจจะอ่านดูไม่ค่อยจริงจังเอาสักเท่าไร แต่เชื่อเถอะครับ ผมคิดเรื่องนี้มาสี่เดือนแล้ว มันจริงจังครับ แต่ผมคิดเสมอว่าถ้าโลกเรามีเรื่องตลกร้าย ๆ และบ้าบอเพิ่มขึ้นอีกเรื่อง มันจะน่าอยู่กว่าเดิมครับ


$$$$$$$$  อัพเดทททททท. $$$$$$$$$

หลังจากตั้งกระทู้นี้  ผมก็เริ่มเขียนประวัติส่วนตัวลงเวปหางาน JOB ต่างๆ และรองส่งประวัติส่วนตัวไปตามบริษัทที่เปิดรับสมัครอยู่ อีเมลบ้าง ผ่านเวปหางานบ้าง ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทประกันต่าง ๆ อะไรนะ!!!!  แค่ลงประวัติไปไม่กี่วัน มีโทรมาแล้วเกือบสิบคน ให้เป็น "เมเนเจอร์" บ้าง "หัวหน้า" บ้าง ตอนแรก ๆ รู้สึกภาคภูมิใจมากที่เราสามารถเขียนประวัติย่อได้เป็นที่ประทับใจและตื่นตะลึงแก่ผู้อ่านได้มากขนาดนี้ แต่ผ่านไปได้สักครึ่งวันก็เริ่มคิดว่า "เอ๊ เดี๋ยวนะ คนจบมาสองปี ไม่มีประสบการณ์ อย่าฉันเนี่ยนนะ จะเข้าไปเป็น หัวหน้า ผู้จัดการคนได้?". ถ้ามันง่ายขนาดนั้น เมเนเจอร์ไม่เต็มบริษัทหรือหว่า?  อย่ากระนั้นเลย โทรถามเพื่อนสนิทดูดีกว่า ปรากฎว่า เพื่อนก็เคยโดนแบบนี้เหมือนกัน บริษัทเหล่านี้จะเรียกไปทดลองงานและ....ขายประกันจ้าาาาาา วินาทีแรกที่รู้ความจริง คือ แบบนี้มันหากินกับความฝันของคนจบไหม่ชัด ๆ เอาตำแหน่ง เอางานมาล่อ สุดท้ายเนื้องานกับชื่อตำแหน่งมันไม่ได้เชื่อมโยงกันเลยสักนิด คนเรานี่มีหลายประเภทนะ บริษัทพวกนี้ก็ทำเพื่อความอยู่รอด เราก็ว่าอะไรเขาไม่ได้

เพื่อนบอกว่า วิธีง่ายๆ ที่จะรู้เท่าทันบริษัทเหล่านี้คือ

1. ชื่อบริษัท ถ้าลงท้ายด้วย "ประกันชีวิต" ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่า มันจะให้ไปขายประกันแน่นอน


2. ตำแหน่งฮะรู  ฮะรา เกินความเป็นไปได้ของเด็กจบใหม่ เช่น "เมเนเจอร์" "ผู้จัดการ" "หัวหน้า" "ผู้บริหาร" เป็นต้น


3. น้ำเสียงของอีกฝ่าย. เพื่อนบอกว่า "จะเสียงเหมือนคอลเซ็นเตอร์อะยิ้ม" คือฟังดูนบนอบ พินอบพิเทา เกินเหตุ ไม่เหมือนคนปรกติคุยกัน แบบนี้

ถ้าเข้าข่ายทั้งสามข้อข้างบน ก็คือ ใช่เลย ชัวๆ ขายประกันแน่นอน!!!

นี่หรือคือโลกแห่งมนุษย์ล่างาน เฮ้ยยย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่