ไครเมียเดินหน้าทำประชามติ 16 มี.ค.นี้


ประธานคณะกรรมการจัดทำประชามติของไครเมียประกาศตำรวจท้องถิ่นจะทำหน้าที่รักษาบัตรประชามติอย่างดีที่สุดเพื่อให้การลงประชามติในวันที่ 16 นี้เป็นไปอย่างราบรื่น

คำประกาศดังกล่าวเป็นสิ่งชี้ชัดว่า ชาวไครเมียต้องการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างชัดเจน แม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐว่าอาจถูกคว่ำบาตร และยังเป็นการขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้วยก็ตาม นอกจากนั้นแม้สหรัฐกับสหภาพยุโรปจะวิงวอนให้รัสเซียเปิดการเจรจากับผู้นำคนใหม่ของยูเครน แต่รัสเซียปฏิเสธ โดยอ้างว่าการเปลี่ยนรัฐบาลยูเครนคือการทำรัฐประหาร พร้อมกันนั้นก็มีการเสริมกำลังอาวุธอย่างเต็มที่ในเขตปกครองตนเองไครเมียด้วย แม้รัฐบาลรัสเซียจะปฏิเสธส่งทหารเข้าไครเมีย แต่ฐานทัพและสนามบินทางทหารในไครเมียล้วนชักธงชาติรัสเซีย

ขณะเดียวกันก็พบว่า มียานยนต์ทหารที่ไม่ปรากฏสัญลักษณ์อย่างน้อย 100 คัน เคลื่อนขบวนจากเมืองเฟโอโดเซียไปยังเมืองซิมเฟอโรโปลอันเป็นเมืองเอกของไครเมีย โดยภายในรถเต็มไปด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก นายวลาดิสลาฟ เซเลซเนฟ โฆษกกองทัพยูเครนในไครเมีย ยืนยันว่าแม้ทหารทีมากับขบวนรถจะไม่ปรากฏเครื่องหมายสังกัด แต่เชื่อว่าเป็นทหารรัสเซียอย่างแน่นอน

ด้านนายกรัฐมนตรียูเครน นายอาร์เซนีฟ ยัตเซนยุค ประกาศจะไม่ยอมเสียดินแดนแม้เพียงเซนติเมตรเดียว เพราะบรรพบุรุษได้หลั่งเลือดรักษาเอาไว้ นายไวทาลี คลิตช์โก ผู้นำการชุมนุมประท้วง ได้นำคำพูดดังกล่าวไปแจ้งแก่ชาวยูเครน พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่า มหาอำนาจร่วมลงนามในบันทึกรับรองความมั่นคงของยูเครนที่กรุงบูดาเปสต์ เมื่อปี 2547 อันได้แก่ รัสเซีย สหรัฐ อังกฤษ จีน และฝรั่งเศส จะยึดมั่นในข้อตกลงดังกล่าวอย่างไม่มีข้อแม้ ขณะเดียวกัน ได้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้านรัสเซียในเมืองลูฮันส์ค ทางตะวันออกของยูเครน อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่