กู้ร่วม บ้านเดี่ยว 2.6 ล้าน ต้องการปิดบูโรให้เร็วที่สุด

เปลี่ยนใจจากคอนโดหลังจากไปดูห้องตัวอย่างค่ะ เล็กเกินไปจริงๆเลยตกลงกับแฟนว่าจะซื้อบ้านแทน เลยไปดูบ้านพอดีมีบ้านฝากขายตอนนี้ไม่มีเงินเก็บเลยแต่อยากได้มากค่ะเลยจองกับ Sale ไป 5,000 จากนั้นยื่นเอกสารไปบางอย่าง เราเงินเดือน 21,000 เป็นผู้กู้หลัก ส่วนแฟนเงินเดือน 14,000 มีสวัสดิบริษัทกับ ธอส.ไม่มีภาระผ่อนอะไร ไม่มีรถ ไม่มีลูก เซลส์ให้เราเตรียมเอกสารก็โอเค แต่ที่เราอยากรู้คือ
1.เราติดบูโรกับอิออน เมื่อ 10 ปี ก่อนตอนนี้ค้างอยู่ 800 บาทจะรีบไปชำระและมีวิธีไหนที่จะเคลียร์บูโรได้เร็วที่สุด
2.เราจะกู้ผ่านรึเปล่า
3. เซลส์บอกว่าจะยื่นให้ Bank ประเมิน 2.7 ถ้ากู้ผ่านจะได้โปะน้อยเราไม่มีเงินเก็บเลย ถ้า Bank ให้ 2.6 เรายังต้องหาเงินมาโปะอีกรึเปล่า
4. 2.6 ล้าน 30 ปี ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ค่ะ
5. ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เราต้องจ่ายต่างหากเราต้องเตรียมเงินอีกประมาณเท่าไหร่

รบกวนด้วยค่ะ
พาพันไฟท์ติ้งพาพันขอบคุณ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
โดยเฉลี่ยประมาณล้านละ 8,000 ดังนั้นจะจ่ายประมาณเดือนละ 20,800 จะเหลือเงินใช้ทั้งครอบครัวเดือนละ 14,200 บ.

ข้อควรคิด
ไม่มีเงินเก็บเลย งานมั่นคงแค่ไหน อยู่ๆ เกิดประสบอุบัติเหตุ - ป่วยหนัก - ถูกเลิกจ้าง จะหาเงินจากไหนมาผ่อนบ้านต่อจนครบ 30 ปี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
อมยิ้ม04 ..พี่แนะนำอย่างจริงจังนะคะ .. ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาดีที่คุณจะรีบเป็นหนี้ก้อนใหญ่

เพราะคุณยังไม่มีความมั่นคงด้านหน้าที่การงานเลย ..[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
..แค่ประเด็นนี้ก็ต้องคิดให้หนักแล้วนะคะ เพราะหากคุณกู้บ้านสำเร็จแล้ว ( กรณีฟลุ๊คสุดๆ หรือเล่นแร่แปรธาตุ หลอกแบงค์สำเร็จ )
แล้วเกิดไม่อยากทำงานนี้แล้ว ..ต้องลาออกก่อนจะไปบีบคอเพื่อนร่วมงานบางคน
หรือเกิดคุณแฟน ได้งานใหม่ ที่เงินเดือนมากขึ้น แต่อยู่คนละมุมเมืองกับบ้าน .. พวกคุณจะกระอักกระอ่วนสุดๆ เลยล่ะค่ะ
เพราะหนี้ก้อนใหญ่นี้ มันกลายเป็นตัวแปรสำคัญขึ้นมาทันที !

แถมคุณทำงานมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่มีเงินเก็บ ..ฝากความหวังว่าจะกู้ให้ได้เกิน 100% เผื่อตกแต่งอีก
มันเป็นอะไรที่ไม่แนะนำเลย..อันตรายมากๆ ที่รักจ๋า..
..เพราะมันเสี่ยงต่อการที่หนี้สินจะท่วมตัวได้ง่ายๆ เลย หากมีอะไรผิดพลาดคลาดเคลื่อนขึ้นมา เพียงนิดเดียว..

..อย่างแรกที่พี่ขอกล่าวถึง คือ.. ค่าธรรมเนียมในวันโอน
เอาเฉพาะค่าโอนแบ่งกับผู้ขายคนละ 1% กับค่าจดจำนอง 1%
2 รายการนี้ก็ 52,000 แล้วนะจ๊ะ ไม่รวมค่าอากร ค่าเอกสารโน่นนิดนี่หน่อย
หากคุณไม่มีเงินเก็บเลย ...คำถาม คุณน้องจะเอาเงินส่วนไหนมาจ่ายค่าธรรมเนียมเหล่านี้ ?
ยืมแม่ , กดจากบัตรกดเงินสด , เปียแชร์ , ฯลฯ ..ซึ่งไม่ว่าทางไหน คุณก็ต้องจ่ายคืน พร้อมดอกเบี้ย
( ยกเว้น แม่ยกหนี้ให้ ) ..และจ่ายตอนไหน .. ก็จ่ายพร้อมๆ กับตอนผ่อนค่างวดบ้านนี่แหละค่ะ
คือต้องจ่ายหนี้พร้อมกัน 2 วง !!

..ต่อมาคือ เบี้ยประกันชีวิต ประกันอัคคีภัย ..ที่มักจะโดนพ่วง เมื่อกู้บ้าน ..
มองในแง่ดี ก็เป็นการคุ้มครอง เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ..ลูกๆ ยังมีบ้านอยู่
..แต่เบี้ยประกันมันก็มิใช่น้อยนะคะ ยอด 2.6 ล้านนี่ เบี้ยประกันทั้งผู้กู้หลัก ผู้กู้ร่วม ..เผลอๆ แสน++ บ.
ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีจ่ายแบงค์ เพราะเค้าจะบวกลงไปในยอดกู้ให้ท่านเลย
ดังนั้น ยอดกู้จะงอกขึ้นมาอีก ไม่ใช่เฉพาะค่าบ้าน

..เมื่อย้ายเข้าบ้านใหม่ ..ไอ่ที่จะแบกเสื่อผืนหมอนใบ กระติกน้ำร้อน 1 ใบ กระทะไฟฟ้า / หม้อหุงข้าวใบเล็กๆ
เหมือนสมัยอยู่อพาร์ตเมนท์นั้น ..ย่อมดูขัดหูขัดตา ..
..โดยเฉพาะถ้าเป็น "บ้านหลังแรก" ที่ซื้อเองเนี่ยนะคะ
พี่ว่าคนส่วนใหญ่ จะมีความรู้สึก "เห่อ" ..อยากซื้อของเข้าบ้าน มันมีความสุขที่ได้ไปเดินดูชุดห้องนอนแบบเป็นเซ็ต
ไปดูโซฟา ชั้นวางทีวี ..ไปดูโต๊ะอาหาร โคมไฟหัวเตียง ของแต่งบ้าน โน่นนี่นั่น..เรื่อยเปื่อยยันต้นไม้ประดับ ..
ซึ่ง "เงิน" ทั้งนั้นเลยนะจ๊ะ น้องจ๋า.. แต่เรามักไม่รู้สึกตัวเท่าไหร่ ..มันค่อยซึมๆ ออกไป..

ไม่รวมหากบ้านที่ซื้อ ไม่มีมุ้งลวด เหล็กดัด ผ้าม่าน แอร์ห้องนอนใหญ่ แถมให้ ..
ถ้าต้องทำเอง 4 รายการนี้ แบบเขียมสุดๆ ไม่ต่ำกว่า 6-7 หมื่นจ้า..

พอโน่นก็ต้องซื้อ นี่ก็ต้องซื้อ เงินสดก็ไม่พอ ต้องเอาไว้กินข้าว ก็รูดบัตรเครดิต ..
บางทีก็เคลิ้มๆ ไปกับโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% แบ่งจ่าย 3 เดือน 6 เดือน
..ช้อปเพลิดเพลินกันไป แต่พอใบแจ้งหนี้มา ก็แทบเอาขาขึ้นมาก่ายหน้าผาก !

..ก็เพราะค่างวดบ้าน ปาเข้าไปเดือนละประมาณ 18,000
เงินเดือน 2 คนรวมกัน 35,000 ..เกินครึ่งแล้วจ้า
เหลือ 17,000 หักค่าใช้จ่ายหลักๆ ..ค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ ค่ากิน ค่าเดินทาง ของ 2 คน
ตีให้แบบนุ่งเจียมห่มเจียม เขี่ยมเขียมสุดๆ พี่ว่า 2 คนมีไม่ต่ำกว่า 12,000
..แปลว่าทั้งเดือนคุณสามารถจ่ายค่าบัตรเครดิตได้สูงสุด 5,000 บ./เดือน แบบขูดทุกบาท ไม่เหลือติดบัญชีกันเลยทีเดียว
แล้วถ้าคุณกระหน่ำซื้อของเข้าบ้านอย่างเมามัน คุณว่า 5,000 นี้พอจ่ายขั้นต่ำของทุกบัตรรวมกันมั้ยล่ะเอ่ย ??
หรือถ้าเอา 17,000 มาจ่ายบัตรก่อน .. เดี๋ยวคุณก็ต้องไป "กดเงินสด" จากบัตรออกมากินอยู่ให้ถึงสิ้นเดือนอยู่ดี !

ไม่รวมที่ว่า ..เมื่อคุณมีบ้านมีช่องแล้ว อาจรู้สึกสบายอกสบายใจ ลืมไปว่าหนี้บัตร บานเบอะอยู่
เริ่มคิดถึงว่า อันตัวเราก็อายุอานามมากขึ้นทุกที .. อย่ากระนั้นเลย .. มีลูกดีกว่า ..^^
ทีนี้จะยิ่งสนุกสนานมากขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายของเด็กเล็ก นั้นเยอะมาก ..
โตหน่อย ก็ใช่ว่าจะเบาลง เพราะจะเข้าสู่ช่วงวางรากฐานอนาคตทางการศึกษาของลูก..
เรื่องยาวเลยค่ะทีนี้ ขอบอก...อมยิ้ม20

เรื่องหวังน้ำบ่อหน้ากับความช่วยเหลือของเหล่าญาติ ..ยิ่งไม่แนะนำ
ถ้าน้องชายมาขออาศัยอยู่ด้วยแป๊บๆ ..น้องเค้าช่วยอย่างเก่งแค่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ..คุณเป็นพี่ คุณจะกล้าเก็บค่าเช่าน้องเหรอ
ถ้าน้องมีแฟน น้องย้ายออก ..อ้าว งานเข้าอีก เพราะขาดรายได้ !

และประเด็นสำคัญนะจ๊ะ ชีวิตคู่ ที่เริ่มจากการก่อหนี้ใหญ่ๆ และแนวโน้มว่าจะเป็นหนี้ล้นพ้นตัวอย่างที่ว่าข้างต้น
เป็นชีวิตคู่ที่สุ่มเสี่ยงกับการทะเลาะเบาะแว้งกันมากๆ ค่ะ
คนเราพอ "หา" ไม่พอ "จ่าย" ..บ้านแตกทุกราย.. อารมณ์มันจะหงุดหงิด ขุ่นมัว
บ้านที่พวกคุณฝันว่า ..จะคือ วิมานของเรา .. มันจะกลายเป็น "ฝันร้าย" ค่ะ
..ก็เดือนๆ ชักหน้าไม่ถึงหลัง ..เงินเดือนออกปุ๊บ แทบไม่เหลือ

แถมมองใบเสร็จแบงค์ ก็น้ำตาจะไหล ..ค่างวด 18,000 ..หักเงินต้นจริงอาจแค่ไม่กี่พัน นอกนั้นดอกเบี้ยล้วนๆ
หยิบใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตอีกปึกขึ้นมามอง ..คราวนี้น้ำตาร่วงจริงๆ เลย เพราะจ่ายแต่ขั้นต่ำ
ดอกเบี้ยเอาไปกินหมด ..ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม ..ชวนสามีทะเลาะดีกว่า ..ว่าแกน่ะแหละ ที่อยากซื้อบ้านหลังนี้..

พี่แนะนำให้คุณอย่าตั้งแง่รังเกียจการเช่าบ้านอยู่ ตราบใดที่คุณยังไม่มีเงินเก็บ เป็นเงินรองรังสักก้อน
วิธีแนะนำคือ ตั้งกองทุนซื้อบ้านไว้เลยหนึ่งบัญชี ถ้าคุณคิดว่าคุณผ่อนเดือนละ 18,000 ไหว
..เงินเดือนออก หักไปฝากบัญชีนี้เลย แล้วบวกลบคูณหารดูซิว่า พวกคุณอยู่รอดได้มั้ย
ถ้าไม่ได้ ..ปรับลดขนาดวงเงินกู้ลงค่ะ ..อยู่ทาวน์เฮ้าส์ก็มีความสุขได้ค่ะ ถ้าคนในครอบครัวรักกัน เข้าใจกัน..

บ้านเดี่ยว เป็นอิสระ ข้างฝาไม่ติดกับใคร ..ใครๆ ก็ปรารถนาค่ะ
แต่เรามี "ความสามารถ" ผ่อนมันได้ตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ..นั่นคือประเด็นค่ะ

..คิดการใหญ่ ต้องใช้มากกว่าอารมณ์ หรือความอยากค่ะ
ต้องใช้ความรอบคอบ ..อย่าวู่วามด่วนตัดสินใจ อย่ามองโลกสวยจัด

พี่ไม่ถนัดเขียนสั้นๆ ..ต้องขออภัย ..แต่พี่ขอส่งความปรารถนาดีผ่านตัวหนังสือยาวๆ นี้
ให้คุณน้อง จขกท. และคุณแฟน กลับไปลองคิดทบทวนสิ่งที่พี่บอก
เพราะเรื่องราวทั้งหมดนี้ มันมีทั้งจากประสบการณ์ตรงในการเป็นลูกหนี้แบงค์มายาวนานของพี่เอง
และจากประสบการณ์ทางอ้อม ผ่านความผิดพลาด ล้มเหลว ของคนรอบตัวของพี่ค่ะ

ขอให้โชคดีค่ะ ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่