มีผู้ชายขับรถไม่เป็นมาจีบ?? ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นเรื่องนี้ เราควรทำยังไงดีคะ

ขอลบเนื้อหานะคะ เพิ่งเห็นว่ามีการแชร์กันเยอะ เรากลัวเค้ารู้ ไม่อยากให้เค้าเสียความรู้สึกกับเรา  เพราะจากเนื้อหามันเดาได้อยู่แล้ว เพราะพึ่งคุยกัน แล้วหลังจากอ่านความเห็นทั้งหมด เราตัดสินใจแล้ว ว่าจะลองเสี่ยงชีวิต ขึ้นรถเมล์กับเค้าดูบ้าง 55 อาจจะนานๆที แล้วต้องเป็นวันที่อากาศไม่ร้อน  ถ้าอยากไปเที่ยวไหนไกลๆ เราก็จะให้เค้าขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์แล้วเราแวะรับเหมือนเดิม ซึ่งในอนาคต หลังจากที่บอกเรื่องนี้ เค้าก็ดูอยากหัดขับรถนะ แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ เพราะเป็นช่วงสอบ ไม่มีเวลาหัด

แล้วมันเป็นเรื่องของอนาคต เราคงต้องคุยกันเรื่อยๆ อาจจะมีเรื่องอื่นๆที่เราต้องเจออีก แค่หัดขับรถ วันหนึ่งเค้าก็ต้องหัดอยู่แล้ว เราเองก็ผิดที่เอาแต่ใจ อยากได้แบบนั้น แบบนี้ แล้วต้องได้เดี่ยวนั้น มันก็ไม่ได้ไง ต้องใช้เวลา แต่อย่างน้อยๆ เค้าก็ดีกับเรา พูดตรงๆ กันดีกว่า

ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ ที่ทำให้เรารู้ และไม่ตัดสินใจง่ายๆตามอารมณ์ แล้วก็ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะตัดโอกาสผู้ชายคนนึง เพียงเพราะเค้าไม่ทำตามใจเรา  ในอนาคตเค้าก็หัดเพื่อเราได้อยู่แล้ว แค่ตอนนี้เค้าอาจจะยังกลัว ในอนาคตยังไงก็ต้องหัดแหละเนอะ เพราะรถเค้าก็มีอยู่แล้ว  แล้วเค้าก็เป็นผู้ชายที่นิสัยดี ไม่ขี้งก 555 เราชอบตรงนี้มากๆ  เพราะมันทำให้เราไม่คิดมากเวลาจะทำอะไร เพราะเค้าไม่งกเลย  แล้วก็อีกอย่าง เค้าไม่เจ้าชู้ หน้าตาก็ดี มันทำให้เราชอบเค้า แต่คงยังไม่ตัดสินใจคบ คงต้องใช้เวลา เพราะเค้าอาจจะสร้างภาพให้ตัวเองดี ก็ได้ 55 เพราะลึกๆเราก็เชื่อไม่สนิทใจ ว่าเค้าจะดีกับเราจริงๆหรอ เพราะเค้าก็หน้าตาดี เรียนเก่ง น่าจะมีสาวๆเยอะ ตอนนี้อาจจะสร้างภาพกับเราอยู่ก้ได้ 55


จบแล้วนะคะ อย่าเครียดกันนะ ไม่ใช่เรื่องฐานะ แต่เป็นเรื่องการใช้ชีวิตที่ต่างกัน กับคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าอยากทำเพื่อเราไหม มากกว่า
เลยอยากให้เค้าขับรถเป็น เพราะเราอยากรู้สึกเป็นคนพิเศษ มีคนดูแล แต่ยังไงก็ต้องใช้เวลา เพราะเค้าบอกจะหัดเร็วๆนี้แล้ว เพราะเราบอกว่า เราอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆดูบ้าง อยากเปิดตัวเค้านะ  ถ้าเค้าขับเป็น แล้วขับให้เรากับเพื่อนๆนั่ง มันจะดูดีกว่า ทำให้เค้าเริ่มเออ ออ ไปกับเราแล้ว ><

แล้วอีกอย่างพ่อแม่เค้าก็ไม่ว่าอะไรเลย หากจะเอารถไปขับ ที่จริงจะซื้อให้เค้าอีกคันด้วยซ้ำ ถ้าเค้าขับเป็น แต่เค้ายังไม่อยากได้ คนที่เข้าใจผิดคิดว่าเค้าอยากประหยัด  บ้านเราทั้งคู่ ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น  เค้าแค่กลัวการขับรถ แล้วก็ใจร้อน  เลยอ้างไปแบบนั้น เพราะไม่ชอบรถติด แต่เราก็ดีใจ ที่เค้าอยากจะหัดรถ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องในอนาคต แต่เราคิดว่า วันนั้นเค้าคงขับมารับเราได้แล้ว


ผู้หญิงทุกคน อยากเป็นคนพิเศษ อะไรที่ทำให้คนที่คุณรัก รุ้สึกดี แล้วมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก มันก็ควรทำไม่ใช่หรอคะ แล้วเราก็ได้บอกไปแล้ว ไม่ใช่ไม่บอกอะไร แล้วพาลไม่คุยด้วย  ดีว่าพอบอก แล้ว  เค้ายอมทำตาม หากเค้าตอบว่าไม่หัด ชาตินี้ยังไงก็ไม่หัดขับรถ ยังไงเราต้องนั่งรถเมล์กับเค้า หรือให้เราขับรถตลอดไป  เราก็คงไม่สานต่อ เพราะความคิดเค้าไม่พัฒนา เราไม่ชอบผู้ชายแบบนี้


สรุป เรื่องจบลงด้วยดีนะคะ เราสานต่อแล้ว  ยอมขับรถไปเอง เวลาเที่ยว แม้ถ้าเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง แล้วเพื่อนจะเบ๋ะปากใส่  เพราะแฟนเพื่อนๆจะแนวผู้ใหญ่กัน แบบรับ ส่ง ตลอดนะ ถ้าเพื่อนรุ้ เพื่อนก็คงแนวๆ เราเหมือนมีเด็กเลย ต้องดูแลหน่อย
เรายอมลำบากเพื่อเค้า โดยการไปส่ง แต่คงไม่ไปรับนะคะ มาเอง แต่ขากลับ ถ้าดึกเราก็ขับส่งได้ ไม่เป็นไรค่ะ อนาคตเราเชื่อว่าเค้าต้องขับเป็น และเค้าเป็นคนดีนะ ถ้าบางคน คงถอดใจไปแล้ว เพราะช่วงที่รุ้ ว่าเค้าขับรถไม่เปน และไม่อยากหัดเลย  เราปฎิเสธทุกครั้งที่ชวนเที่ยว 555 แต่เค้าก็ยังอยู่ ก็โอเค คงต้องดูใจกันไปก่อนเนอะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 54
อ่านมาหลาย comment แล้ว หลาย login โลกสวยๆ มากๆ

ประเด็น ไม่ใช่ เรื่องมีรถ หรือ ไม่มีรถ  แต่มันคือเรือง Lifestyle

เจ้าของกระทู้ มีรถใช้รถ มาตั้งแต่เกินยันโต ไม่มานั่งรถเมล์ ก็ไม่แปลก หรอกนะครับ คนมันเคย
ส่วนอีกคนมีรถ แต่ไม่คิดจะใช้ นั่งรถเมล์ นั่งรถตู้ ทั้งๆที่ บ้านเองมีรถ และไม่ขวนขวายหัดขับด้วย (ขอตำหนิ)

โทษฝ่ายหญิง ไม่ได้ครับ ถ้าคุณไปว่าเขารักสบาย ผมว่าไม่ถูก เพราะว่า ทุกคนเองรักสบาย ครับ รถเมล์ รถสาธารณะ มันคือ การอำวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เพราะ การเดินทางที่ simple ที่สุดคือ การเดิน ครับ

ไอ้คนที่บอกคนอื่น รักสบาย อย่างนั้น อย่างนี้ อย่าขึ้นนะครับ รถเมล์ เดินสิ

และอย่าบอกผมขวางโลกด้วย ผมวิเคราะห์ตามคำพูด คำว่า สบายของแต่ละคนคืออะไร  สบายของวัยเรียน  สบายของวัยทำงาน สบายของยกจก สบายของเศรษฐี

คุณว่าเหมือนกันไหม

ตัวอย่างที่ผมชอบยกคือ เรื่องการกิน พื้นๆเลย เชื่อว่าทุกคนรู้จัก ไก่ทอดชื่อดัง ผมเคยเจอคนงานก่อสร้างเขาว่า ผม ใช้เงินสุรุ่ย สุร่าย กิน ไก่ทอดชื่อดัง ร้อยกว่าบาท เขาบอกว่า เงินนี่ซื้อกบมากินได้หลายตัว !!!  และไอ้ไก่ทอดชื่อดัง ผมมีลูกค้าท่านหนึ่งบอกว่า ไม่กินเลย junk food ดีๆ หลอกขายวัยรุ่น แล้วก็แนะนำผมไปกิน ไก่ทอดในโรงแรมแถวๆ สาธร ว่าอร่อยมากๆ ผมก็ไปกินมา จ่ายไปเกือบ 1400 กับไก่ทอด 5 ชิ้น kettle chip  และ house wine 1 แก้ว

สบายของคนงานก่อสร้าง คือ กบ
สบายของวัยรุ่นวัยทำงาน คือ  ไก่ทอดชื่อดัง
สบายของเจ้าของกิจการ  คือ   รับประทานอาหาร ในโรงแรม โดยกุ๊ก มีประสบการณ์

คนงานก่อสร้าง ไม่เข้าใจ ทำไม วัยทำงาน       ไม่กิน  กบ             แทน  ไก่ทอดชื่อดัง
วัยทำงาน        ไม่เข้าใจ ทำไม เจ้าของกิจการ ไม่กิน ไก่ทอดชื่อดัง แทน  กินข้าวในโรงแรม
เจ้าของกิจการ  ไม่เข้าใจ ทำไม วัยทำงาน        ไม่กิน ข้าวในแรงแรม แทน ไก่ทอดชื่อดัง

คนอยู่ตรงไหน?  ถ้าคุณเป็น คนงานก่อสร้าง คุณจะมองวัยทำงาน และ เจ้าของกิจการ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมาก ทั้งที่จริงๆ มันเป็นเรื่องธรรมดาของ วัยทำงาน และเจ้าของกิจการ

แต่ถ้าคุณเป็น วัยทำงาน คุณจะไม่กินกบเหมือน คนงานก่อสร้าง เพราะ level เขามาไกลเกินที่จะกินกบแล้ว แต่เขาเองก็ ไม่สามารถเข้าไปกินข้างในโรงแรมเหมือนเจ้าของกิจการได้ แม้เขาจะต้องการมากแค่ไหน เพราะเงินไม่ถึง

ส่วน THE TOP ไม่ต้องพูด เขากินได้หมดแหละ กบ ไก่ทอดชื่อดัง ข้าวในโรงแรม แต่เขาจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตนเอง

ที่ยกตัวอย่างมากนี่เพื่อ เตื่อนสติ เพื่อนๆ pantip โลกสวย อย่าไปตัดสินคน จาก ความติดสบาย ทุกคนติดสบายหมด คุณลองขึ้นรถเมล์เบียดจนจะเสียตัวให้กัน รอรถเป็นชาติ อิสระไม่มี ความเป็นส่วนตัวไม่มี มาลองมีรถ ดูนะ สบาย สะดวก อิสระ ถ้าคุณมีปัญญาจ่าย เชื่อผมไหม คำถามนี้ ถ้าผู้ชายขับรถมาตลอด ให้ไปนั่งรถเมล์กับผู้หญิงตลอด ผมว่า ผู้ชายก็ไม่เอาเหมือนกัน

---------------------------

สำหรับคำถามเจ้าของกระทู้ผมขอตอบว่า "ห่างกัน" จะดีกว่าครับ ผมเชื่อว่า Life style ต่างกัน ต่อให้รวยเป็น ร้อยร้าน เนรมิต อะไรก็ได้ ก็ไปไม่รอดครับ ตัวอย่างมีให้เห็นดาษดื่น

และคำถามแบบนี้ ไม่ควรเอามาถามใน pantip โลกสวย ครับ บางท่านที่ว่าๆไป ยังไม่มีรถเป็นของตนเอง แต่ตอบเป็นตุเป็นตะ case เพื่อนบ้างหละ case คนนั้น คนนี้บ้างหละ ยังไม่เคยเจอกับตัว

เจอสวนหงายเงิบมาหลายรายแล้วครับ คำถามนี่  ควรถามเพื่อนที่ level เดียวกับเรา ครับ เชื่อผมสิ

หมูหมูหมูหมู
ความคิดเห็นที่ 12
แรกๆ แฟนขับรถไม่เป็นค่ะ
เรารับ-ส่ง ตลอด (รถเรา)
เป็นผู้หญิงดูแลตัวเองได้ บางทีแค่ขี้เกียจขับรถเฉยๆ
ก็ค่อยๆ ให้เขาฝึกขับค่ะ
ทะเลาะกันตอนฝึกขับรถให้เขาบ่อยมาก
ปัจจุบันขับรถแข็งละ เจอหน้าก็โยนกุญแจรถให้เลย

บางทีเขาก็เอารถที่บ้านเขามารับ

เวลา4ปีกว่า เราเป็นคนขับตลอด 2ปีหลังเขาขับ
ไม่เห็นต้องเอามาคิดเล็กคิดน้อยเลย เราอยากสบาย
เราไม่อยากขึ้นรถสาธารณะอ่ะ เราก็ใช้รถเรา
เราขี้เกียจไปรับเขา เขาก็มาหาเราแทน
ขี้เกียจไปส่ง เขาก็กลับเองได้
แต่เราอยากส่งเขาเอง จะได้ถึงบ้านปลอดภัย

จะคบกันมันต้องห่วงกันป้ะ เราว่าบางอย่างทำเองได้ก็ทำ
ไม่ต้องรอให้เขาทำให้ เรายืนด้วยขาเราเองดีกว่า
ปล ขออนุญาตคิดต่าง
ความคิดเห็นที่ 75
หลงประเด็นกันหลายๆ คน ต้องลองอ่านที่เจ้าของกระทู้ เขียนมา สองถึงสามรอบ แล้วท่านลองจับ main หลักสิ point มันมี 2 ประเด็นเอง

1.ทัศนคติของผู้ชาย ผมไม่ได้ พูดถึง "คุณสมบัติ" นะครับ
2.การขวนขวายของฝ่ายชาย

ทำไมผมถึงสรุปมาได้ สองข้อนี้ครับ ถ้าอ่านภาษาไทยออกจะเห็นว่า ผู้หญิง มีรถขับนะครับ ไม่ได้ไปเกาะคนที่มีรถ "ย้ำว่า ฝ่ายหญิง มีรถยนต์" และบ้านเขา มีฐานะ

ดังนั้น ตัดเรื่องติดเบาะอะไรบ้าบอทิ้งไปเลย ที่ฝ่ายหญิงเขา นอยย์ คือ ทัศนะคติฝ่ายชาย
A) เป็นคนขี้กลัว ไม่กล้า > จากข้อความนี้
...เค้าก็บอกว่า ไม่ชอบขับรถในกทม รถเยอะ รถติด ขับยาก ขี่มอไซคดีกว่า ?? สะดวกดี .. และ  ... เค้ามีแนวคิดที่กลัวการขับรถในกทม ...

B) เป็นคนไม่ทะเยอทะยาน ชอบแต่จะฉุดรั้งคนที่อยู่สูงกว่า มาอยู่ในระดับเดียวกันกับตน> จากข้อความนี้
...บอกแล้วก็ไม่หัดขับ เหน็บเราอีก ว่าไม่ชอบผู้หญิงหัวสูง ขึ้นรถเมล์ไม่เป็น

สองข้อนี้นะครับ ผมบอกได้เลยว่า ถ้าผู้ชาย ขี้กลัว + ไม่มีความทะเยอทะยาน นะครับ อย่าเอาทำพันธุ์ แม้ว่าเขาจะเรียนเก่ง ไม่เอาเปรียบผู้หญิง เทคแคร์ผู้หญิง ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนั้น

เพราะสองข้อนี่แหละคือ จุ๊บๆจุ๊บๆพื้นฐานของความรักที่มั่นคง รักที่ปราศจาก สองข้อนี้ คือ ความรักแบบโง่ๆ จุ๊บๆจุ๊บๆ

สองข้อนี่ไม่ต้องรอเรียนจบทำงานแต่งงานหรอกครับ เพราะความคิดแบบ ที่น้องผู้ชายคิดมันจะสะท้อนออกมาในเรื่องที่ต้องใช้ความพยายาม เช่น การเรียนขับรถ  หรือ การพยายาม up ความสามารถตัวเองเพื้อ take care ผู้หญิงได้  ใน comment ก่อนหน้านั้นผม เขียนว่า ตำหนิ ฝ่ายชายที่ "มีรถจอดที่บ้าน" แต่ไม่เรียนรู้ เพราะคำว่า กลัว กลัว กลัว กลัว

ขออนุญาตหยาบคายเพื่อให้ได้ Feeling

ถึงฝ่ายชายน้องเขา

ขอโทษนะครับ มรึ้งงกลัว ก็อย่ามีแฟน ทีเรื่องนี่นะทำกล้าไปจีบผู้หญิง บอกตรงๆว่ะ สมเพส จริงๆ เฮ้ย มรึ้งงเป็นผู้ชาย กลัวการขับรถในกทม มรึ้งงอายน้องๆ ผู้หญิงไหม อายุไม่เยอะ ขับรถดี มีมารยาท ตัดสินใจเฉียบขาด จะบอกให้ เรื่องการขับรถเนี้ย มันอาศัย สัญชาติญาณผู้ชายล้วนๆเลยว่ะ และมันยังบ่งบอก อะไรลึกๆ อีกเพียบ

1.มรึ้งเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ
2.มรึ้งไม่มีความเป็นผู้นำ
3.มรึ้งไม่มีความเฉียบขาด
4.มรึ้งกลัวการเรียนรู้

4 ข้อนี่ ถ้าไปถามผู้หญิงนะ ไปถามเลย ว่า ถ้ามีไอ้ผู้ชายที่ไม่มี 4 ข้อนี้ ผู้หญิงที่ไหนจะเอา ไม่มีครับ ตุดชัดๆ

แล้วมาดูข้อที่ 2 ตัวเองขับไม่เป็น นั่งรถเมล์ มรึ้งงงงงง ยังไปดึงผู้หญิง ให้มานั่งรถเมล์กับมรึ้งงงงงง ไอ้บ้า จะฉุดเขามาทำไมเล่า ไปถามที่เสาวรีย์ดิว่า ถ้ามีรถให้ จะกลับบ้านด้วยอะไร โหนรถเมล์ หรือ ขับรถยนต์ ร้อยทั้งร้อย อยากมีรถเป็นของตัวเองทั้งงั้นแหละมรึ้งงง แต่ตอนนี้ไม่มีปัญญา เลยต้องนั่งรถเมล์ แถมไปด่าเขาว่า หัวสูงอีก

มรึ้งงงงงนะแหละ ไอ้ใฝ่ต่ำ คนอื่นเขาเจริญๆ กันแล้ว แทนที่เอ็งจะหัดขับรถ (รถมรึ้งงงก็มีอยู่แล้ว) ดั้นไปบอกเขาว่าให้มานั่งรถเมล์ นี่ขอโทษนะ ถ้าอีกหน่อย น้องผู้หญิง ได้งานดี เงินเดือนสูง  ไม่ริกันชวนให้ลาออกมา อยู่บ้านขายขนมครกเป็นเพื่อนมรังงงเลยหรอ?????FacepalmFacepalmFacepalmFacepalmFacepalm

ผมว่า ผู้ชายอิจฉาผู้หญิงลึกๆด้วยที่เก่งกว่า เลยจะดึงผู้หญิง ลงมาในระดับเดียวกัน

นี่แหละ ความในใจผมที่อยากจะบอกว่า ที่จริงแล้ว เนี้ย ไอเรื่องรถเนี้ย มันแค่ปากอุโมงค์ เวลามองปัญหา ผมถึงบอกในหลายๆกระทู้ว่า ให้มองลึกๆ  ผมจะบอกอะไรให้ ไอ้ผู้ชายเรียนเก่ง แต่เรื่องชีวิต ไม่เอาอ่าวนี้ ต่อให้เรียนเก่งก็ไม่เจริญครับ เพราะเวลาทำงาน

โตไม่โต อยู่ที่ทัศนะคติล้วนๆ คุณติดยังไงก็จะได้แบบนั้น


ปล. ขออภัยในคำพูดที่อาจจะออกหยาบคาย แต่ถ้าผมคุยกับน้องแบบ แมนๆ ผมก็ต้องพูดแบบนี้แหละครับ ให้น้องเขากลับไปคิด อะไรก็ดีหมด เสีย เรื่องพื้นฐาน

ปล.2 ถ้ายังอ่านแล้ว ยังทึกทักว่า น้องผู้หญิงติดสบาย ต้องขับรถมีรถ ก็ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า ไม่ใช่ประเด็นเรื่องรถ แต่เป็นทัศนคติ ขี้กลัว ไม่สู้ ไม่เรียนรู้ และ ดึงคนอื่นให้ลงมาอยู่ในระดับตนเอง โดยที่ตอนเอง ไม่คิดขวนขวาย

น้องเขาเลยมาตั้งกระทู้ในนี้ว่าจะคบดีหรือไม่ โดยใช้ case รถยนต์เป็นตัวสื่อ
ความคิดเห็นที่ 9
นกบินอยู่บนฟ้า ปลาว่ายอยู่ในน้ำ
นกกับปลารักกัน พวกมันจะอยู่กันที่ไหน

ถามเค้าว่า คุณมีค่าพอที่จะเค้าจะขับรถให้คุณนั่งสบายๆมั้ย  เค้าจะคิดถึงตัวเค้าก่อน หรือจะเห็นแก่คุณมากกว่า

หัดขับไม่ยาก - มีรถให้ขับยากกว่า
ความคิดเห็นที่ 22
ดูแล้วมีแววเลิกสูง อมยิ้ม20อมยิ้ม20
ทัศนคติก็ไม่ตรงกันแล้ว

มองไปในอนาคต ในวันที่จขกท.คบกับคนนั้นเป็นแฟนแล้ว
"ถ้าวันนึงผู้ชายเขาลำบาก ผมว่าจขกท.คงจะทิ้งผู้ชายคนนี้ชัวร์ๆ"
เพราะที่อ่านมา ยังไงจขกท.ก็ไม่ยอมลำบากเพื่อใครนะ

ส่วนเรื่องที่นัดไปเที่ยว จขกท.ก็ไม่เห็นต้องไปส่งเขาที่บ้านนิคับ บอกเขาไปตรงๆว่าเราไม่ไปส่งนะ
ผมว่าผู้ชายก็คงไม่ว่าอะไรนะ ขามายังมาเองได้ ขากลับจะกลับเองไม่ได้เลยหรอ อมยิ้ม20
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่