..... สัมภาษณ์ผ่านแล้วค่ะ ... ผ่านแบบ งงๆ
จากตอนแรก จะขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบมี สปอนเซอร์ แต่หลังจากขอความเห็นในเวปนี้
สุดท้ายตัดสินใจ ยื่นแบบ สปอนเซอร์ตัวเองค่ะ
.....
ดิฉัน อายุ ย่าง 27 ปี + โสด +เงินในบัญชีมีแค่ 3 หมื่นกว่าแต่เงินหมุนตลอด + ไม่มีบ้าน ไม่มีที่ดิน  มีแต่หนี้รถ
+ เป็นพยาบาลในคลินิกแพทย์ทางเลือกแห่งหนึ่งในรีสอร์ทฝรั่ง + เคยไปเมกาด้วยวีซ่า J1 / no over stay
+ ใช้เหตุผลว่า ขอวีซ่าไปตอนปลายปี เที่ยวแค่ 10 วันพอ เพราะต้องกลับมาทำงาน หยุดยาวไม่ได้ค่ะ
......
เอกสารที่เตรียมไป มีทั้ง สเตทเม้น + บุคแบ้ง + จม.แนะนำตัว
+ จม.รับรองจากที่ทำงาน + work contract +รุปถ่ายครอบครัวแสนสุขของเราเอง
ปรากฎว่า ไม่ได้ใช้ อะไรเลยค่ะ งงมากๆ
ก่อนหน้ามีคนโดนปฏิเสธวิซ่าไปหลายคนอยุ่ ทำดิฉันใจเสีย พอถึงคิวเข้าสัมภาษณ์ ช่อง 1 เจอ คุณลุงฝรั่งท่าทางใจดีรออยุ่ค่ะ
สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษค่ะ คนที่กรอก DS-160 เองเค้าให้มาสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษหมดเลยค่ะ เท่าที่สังเกตมา
....
กงสุล - สวัสดีครับ
ดิฉัน - สวัสดีค่ะ สบายดีมั้ยคะ (ถามพร้อมยิ้มหวานให้เผื่อจะยิ้มตอบบ้าง แหะๆ)
กงสุล - โอ้ สบายดีครับ ขอบคุณมาก คุณดูสบายดีจังนะครับ ( ยิ้มตอบกลับมาแล้วววว มีลุ้นๆ)
        -  คุณจะไปเที่ยวอเมริกา ปลายปีเหรอครับ  ไปกี่วัน
ดิฉัน - ไปกับเพื่อนค่ะ ไปปลายปี 10 วันพอ คือแพลนไว้เฉยๆค่ะแต่ยังไม่ได้ซื้อตั๋ว ถ้าวีซ่าผ่าน ก็จะรีบจองตั๋วเลยค่ะ
        ไปวันที่ 18 พย.57 เป็นวันอังคาร และกลับ 27 พย.57 เป็นวันพฤหัสบดี ตั๋วจะถูกกว่า weekend ค่ะ ยิ่งจองล่วงหน้านาน ตั๋วยิ่งถูกด้วย
         ก็เลยรีบมาขอวีซ่าก่อนน่ะค่ะ และจองโรงแรมกับตั๋วเครื่องบินทีหลัง ( ต้องย้ำบ่อยๆ อิอิ)
กงสุล - คุณเคยอยุ่อเมริกามานี่ครับ คุณรุ้จักใครที่นุ่นบ้างมั้ย จะไปเมืองอะไร (พูดไปพิมพ์คอมไป ตามองแต่คอม - - )
ดิฉัน - ใช่ค่ะ ตอนนั้นอยุ่ Tampa รอบนี้เลยกะจะไป Tampa , Orlando ,  Miami ไปตะลุยเที่ยวสวนสนุกค่ะ
         แล้วก็กลับไปเยี่ยมหาเพื่อนๆที่เคยทำงานด้วยที่สวนสนุกค่ะ (พูดพร้อมทำตาเป็นประกาย) แต่ไม่มีญาติที่นู่นเลยค่ะ
กงสุล - แล้วตอนนี้คุณทำงานอะไรอยู่ครับ ทำที่ไหนเอ่ย ทำงานมานานเท่าไรแล้วครับ (พิมพ์คอมรัวๆ)
ดิฉัน - เป็นพยาบาลของรีสอร์ทต่างชาติค่ะ ทำมาได้ 1 ปีครึ่งแล้วค่ะ
          แต่ก่อนหน้านี้ดิฉันทำงานที่ รพ.รัฐ 1 ปี กับ รพ.เอกชน 1 ปี หาประสบการ์ณค่ะ แต่ไม่ชอบ รพ. เลยขอมาทำงานรีสอร์ทดีกว่า
กงสุล - ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ ครับ
ดิฉัน -   ออกเองค่ะ เพราะดิฉันทำงานแล้ว โตแล้วค่ะ ไม่อยากรบกวนพ่อ รู้สึกผิดค่ะทำงานแล้วมาขอเงินพ่อแม่
กงสุล - (แอบอมยิ้มเบาๆ มีหวังแล้วสิเรา) แล้วคุณเคยไปประเทศอะไรบ้างครับ
ดิฉัน - เคยไปแค่มาเลเซีย ไปทุกเดือนๆเกือบ 10 ครั้งค่ะ เพราะเคยมีแฟนเป็นคนจีนมาเล 1ในเหตุผลที่เลิกกันคือ
         เขาขอให้ไปอยู่ด้วยที่นู่นค่ะ แต่ดิฉันไม่ไป ไม่อยากทิ้งครอบครัวที่นี่ค่ะ ดิฉันมีงานที่นี่ มีครอบครัวที่นี่ให้ต้องรับผิดชอบค่ะ
         ( เจอปล่อยไม้เด็ด แสดงความรักบ้านเกิดและครอบครัวค่ะ อิอิ)
กงสุล - (ทำตาโตแบบเปิดเผย) โอ้ววว โอเคครับ งั้น ผมตกลงให้วีซ่าคุณละกัน
ดิฉัน - เอ๋ ??? ห๊ะ ??? ยืน งง ทำหน้าเอ๋ออยู่
กงสุล - have a nice trip ..
ดิฉัน - OMG.. thx so much sir,thats very kind of u.... hv a nice and wonderful day... Gd bye ,sir !!!!!!!
.......
ปล*** ตอนสัมภาษณ์ เขาไม่ดูเอกสารอะไรเลยแม้แต่แผ่นเดียวเลยค่ะ บุคแบ้งก็ไม่ขอดู
          พอดิฉันจะยื่น จม.ลางานกับสัญญาที่ทำงานก็ไม่เอาซะงั้น
          เลยพูดมากๆเข้าไว้เลยค่ะ สรุปว่า ผ่าน แบบ งงๆ อิอิ
มาแชร์ ปสก.ค่ะ เพราะก่อนหน้า มีแต่คนมาบอกว่า ดิฉัน โสด สาว เงินมีน้อย ไม่ผ่าน ชัวร์ แต่ปรากฏว่าผ่านค่ะ
คิดว่า หน้าที่การงาน เป็นสิ่งสำคัญมาก ที่ทำให้ผ่าน อย่างน้อยก็ติดสัญญากับที่ทำงาน 3 ปี เค้าคงคิดว่าเราคงไม่หนีสัญญาหรอก ไรงี้
สรุป ได้มา 10 ปีค่ะ.......สัมภาษณ์ ครั้งเดียว ผ่านฉลุย ดีใจจัง ^^