........บางที่เรามองสังคมอย่างไม่เข้าใจเหตุผลง่ายๆ ตรรกะพื้นฐาน สามัญชนคนธรรมดาก็เข้าใจได้ เเต่ทำไมมีคนมีการศึกษา ที่อุตส่าไปร่ำเรียนกันมา ทำความเข้าใจกันไม่ได้ ก็อย่าได้เเปลกใจ พวกเค้าเหล่านั้นหาไม่เข้าใจ หากเเต่เพียงความต้องการ มันตรงกันข้ามกับหลักการ การเลือกที่จะไม่ยึดหลักการ จึงทำให้ เหตุการต่างๆ มันจึงดูไร้เหตุผลรองรับ เมื่อพยายามโยงสารพัดสิ่งเข้าไปประกอบ ยิ่งทำให้มันดูบิดเบี้ยว อย่างที่เราๆท่านๆเห็นกันเต็มสองตา
การอยู่ในสังคมเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องมองอย่างเข้าใจ เเละต้องอยู่กับมันให้ได้ หลักการเเละเหตุผล เป็นหลักที่ต้องยึดเหนี่ยว เเม้ใครจะพยายามลากไปทางไหน วันหนึ่งก็ต้องย้อนกลับมาที่เดิม ทำไมเราไม่ยึดมันไว้ตรงนี้ ปล่อยให้พวกเค้าพยายามลากกันไป ถึงเวลาหนึ่งเค้าก็ต้องวนกลับมา ความพยายาม ขององค์กรอิสระก็เช่นกัน หากไม่ยึดหลักการข้อกฎหมายข้อเท็จจริง วันหนึ่งความจริงเปิดเผย อย่างกรณีสมัคร สุทรเวช ทำกับข้าว ก็จะกลับมาหลอกหลอน คนตัดสินให้อับอาย
ยังมีกรณียุบพรรคตัดสิทธิ์ ที่ทุกวันนี้คนที่ไปรับเงินออกมายอมรับความจริงว่าฝ่ายตรงกันข้ามจ้างให้ ไปให้การไส่ร้าย ยังมีความไม่ชอบมาพากล อีกหลายอย่าง ที่รอวันเปิดเผย ออกมา เเม้จะมีความพยายามปกปิด เเต่วันหนึ่งสังคมจะเข้าใจ เเละเมื่อความจริงเปิดเผยออกมา มันคือตราบาปที่จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ของประเทศ ไปชั่วลูกหลาน
จะมีก็เเต่เพียงผู้ที่ยึดหลักการเเละข้อเท็จจริงเท่านั้น ที่จะได้รับการเเซ่ซ้องสรรเสริญ อย่างนายปรีดี ที่ต้องอดทนเเละจมอยู่กับความอยุติธรรม ถึงเเม้หลายคนอาจบอกว่า อยุติธรรมที่มาช้า คือความไม่ยุติธรรม นั้นก็ใช่ เเต่หากเราเลือกที่จะไม่รอ เท่ากับเราร่วมไปอยู่ตรงนั้นกับเหล่าคนพวกนี้ ดังนั้นการยืนอยู่เเละมองดูอย่างเข้าใจ รอวันเวลาที่สิ่งต่างๆจะปรากฎ อาจยาวนาน เเต่เราต้องยืนอย่างสง่าเเละอดทน
สังคมที่ยื้อเเย้ง พยายามฉุดลากอำนาจไปจากมือประชาชน การใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม เเละมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพยายามทำกัน ทำเรื่องต่างๆให้มันผิดเพี้ยน เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ในช่วงนี้ก็เปรียบเหมือนฝุ่นควัน ยังตลบอบอวล คละคลุ้ง ฟุ้งกระจาย สังคมคนทั่วไปยังจับต้นชนปลาย ไม่ได้ มันสับสนวุนวาย ปนเปกันไปหมด ด้วยตัวเรายืนอยู่ตรงนั้น อาจมองได้ไม่ชัดนัก
เเต่หากระยะเวลาผ่านพ้นไปช่วงหนึ่ง เมื่อผลมันออกมาเเล้ว ย่อมตอบเจตนาของเหตุการเหล่านี้ ได้อย่างชัดเจน นั่นคือสัจธรรม เเละเมื่อถึงวันนั้นคำตอบที่มีออกมา คือความจริง กลุ่มคนที่ร่วมกันก่อการ วางเเผน ทั้งหมดก็จะถูกสังคม ตีตราบันทึกไว้ ไปเเสนยาวนาน
หายใจลึกๆ เเละอยู่กับมัน อยุ่อย่างเข้าใจ มองอย่างเข้าใจ ยึดในหลักการ เเละเหตุผล ความเชื่อ ทุกอย่างต้องผ่านขบวรการคิดไตร่ตรอง เเละหาเหตุผลมาประกอบให้ได้ อย่าปล่อยให้ความเกลียดชัง มันบังตา จนไม่นำพาความคิด เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะเกลียด อย่างไร้เหตุผล เราก็จะไม่ต่างไปจากพวกเค้า
การอยู่ในสังคม เเบบนี้ ความเข้าใจเท่านั้นจึงจะนำพาเราไปได้ตลอดรอดฝั่ง
----------------------------อยู่อย่างเข้าใจ----------------------------(บทความ)
การอยู่ในสังคมเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องมองอย่างเข้าใจ เเละต้องอยู่กับมันให้ได้ หลักการเเละเหตุผล เป็นหลักที่ต้องยึดเหนี่ยว เเม้ใครจะพยายามลากไปทางไหน วันหนึ่งก็ต้องย้อนกลับมาที่เดิม ทำไมเราไม่ยึดมันไว้ตรงนี้ ปล่อยให้พวกเค้าพยายามลากกันไป ถึงเวลาหนึ่งเค้าก็ต้องวนกลับมา ความพยายาม ขององค์กรอิสระก็เช่นกัน หากไม่ยึดหลักการข้อกฎหมายข้อเท็จจริง วันหนึ่งความจริงเปิดเผย อย่างกรณีสมัคร สุทรเวช ทำกับข้าว ก็จะกลับมาหลอกหลอน คนตัดสินให้อับอาย
ยังมีกรณียุบพรรคตัดสิทธิ์ ที่ทุกวันนี้คนที่ไปรับเงินออกมายอมรับความจริงว่าฝ่ายตรงกันข้ามจ้างให้ ไปให้การไส่ร้าย ยังมีความไม่ชอบมาพากล อีกหลายอย่าง ที่รอวันเปิดเผย ออกมา เเม้จะมีความพยายามปกปิด เเต่วันหนึ่งสังคมจะเข้าใจ เเละเมื่อความจริงเปิดเผยออกมา มันคือตราบาปที่จะถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ของประเทศ ไปชั่วลูกหลาน
จะมีก็เเต่เพียงผู้ที่ยึดหลักการเเละข้อเท็จจริงเท่านั้น ที่จะได้รับการเเซ่ซ้องสรรเสริญ อย่างนายปรีดี ที่ต้องอดทนเเละจมอยู่กับความอยุติธรรม ถึงเเม้หลายคนอาจบอกว่า อยุติธรรมที่มาช้า คือความไม่ยุติธรรม นั้นก็ใช่ เเต่หากเราเลือกที่จะไม่รอ เท่ากับเราร่วมไปอยู่ตรงนั้นกับเหล่าคนพวกนี้ ดังนั้นการยืนอยู่เเละมองดูอย่างเข้าใจ รอวันเวลาที่สิ่งต่างๆจะปรากฎ อาจยาวนาน เเต่เราต้องยืนอย่างสง่าเเละอดทน
สังคมที่ยื้อเเย้ง พยายามฉุดลากอำนาจไปจากมือประชาชน การใช้อำนาจอย่างไม่ชอบธรรม เเละมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งพยายามทำกัน ทำเรื่องต่างๆให้มันผิดเพี้ยน เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ในช่วงนี้ก็เปรียบเหมือนฝุ่นควัน ยังตลบอบอวล คละคลุ้ง ฟุ้งกระจาย สังคมคนทั่วไปยังจับต้นชนปลาย ไม่ได้ มันสับสนวุนวาย ปนเปกันไปหมด ด้วยตัวเรายืนอยู่ตรงนั้น อาจมองได้ไม่ชัดนัก
เเต่หากระยะเวลาผ่านพ้นไปช่วงหนึ่ง เมื่อผลมันออกมาเเล้ว ย่อมตอบเจตนาของเหตุการเหล่านี้ ได้อย่างชัดเจน นั่นคือสัจธรรม เเละเมื่อถึงวันนั้นคำตอบที่มีออกมา คือความจริง กลุ่มคนที่ร่วมกันก่อการ วางเเผน ทั้งหมดก็จะถูกสังคม ตีตราบันทึกไว้ ไปเเสนยาวนาน
หายใจลึกๆ เเละอยู่กับมัน อยุ่อย่างเข้าใจ มองอย่างเข้าใจ ยึดในหลักการ เเละเหตุผล ความเชื่อ ทุกอย่างต้องผ่านขบวรการคิดไตร่ตรอง เเละหาเหตุผลมาประกอบให้ได้ อย่าปล่อยให้ความเกลียดชัง มันบังตา จนไม่นำพาความคิด เลือกที่จะเชื่อ เลือกที่จะเกลียด อย่างไร้เหตุผล เราก็จะไม่ต่างไปจากพวกเค้า
การอยู่ในสังคม เเบบนี้ ความเข้าใจเท่านั้นจึงจะนำพาเราไปได้ตลอดรอดฝั่ง