เนื่องจากกระทู้ที่แล้วได้รับผลตอบรับค่อนข้างดีมาก (ใช่เร้อะ) คิดว่าจะไม่มีคนอ่าน สรุปว่ามีเห้ย!
และดีใจจริงๆที่สิ่งที่เราเขียนพอจะมีประโยขน์กับใครบ้าง //กระซิก แค่คนเดียวก็ยังดี
เพราะฉะนั้น แม้คนจะตอบกระทู้ล้นหลาม หรือ ตอบแค่ 1 คน หรือไม่มีใครตอบเลย ดิฉันจะยังหน้าด้านเขียนต่อไปนะคะ
แต่คราวนี้ขอเขียนทีละประเทศพอ เขียนหลายประเทศทีเดียว แลดูทดท้อเกิน
แพล่มเยอะอีกแล้ว มาดู โคลอมเบียกันเลยเค่อะ
[World Cup 2014] แนะนำทีมชาติต่างๆในฟุตบอลโลก #1 :: Group C ::
Colombia,Greece,Ivory Coast,Japan
http://ppantip.com/topic/31747408
.....
Colombia The Coffee Growers
เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษที่ยอดทีมชาวไร่ อย่าง "โคลัมเบีย" ห่างหายไปจากฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นระยะเวลาเกือบ 16 ปีจากการได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มครั้งสุดท้ายคือในปี 1998 ที่ฝรั่งเศส ปีนั้นการแพ้ โรมาเนีย และ อังกฤษ ทำให้พวกเขาไม่ได้ไปต่อ แม้จะจำได้เพียงเลือนลาง แต่นั่นก็เป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย ของตำนานทีมชาติโคลัมเบีย อย่าง "คาลอส วันเดอรามาร์"
ภายหลังจาก ฉายา "ยอดทีมชาวไร่กาแฟ" แปรเปลี่ยนไปเป็น "ยอดทีมโคเคน" ในระยะหลังอันเนื่องมาจาก ปัญหาเรื่องยาเสพย์ติดอันขึ้นชื่อลือชาในแวดวงฟุตบอลโคลัมเบีย ชื่อเสีย เริ่มมีมากกว่าชื่อเสียง ด้วยปัจจัยหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม ทำให้วงการฟุตบอลโคลัมเบียเริ่มอ่อนแอลง และเงียบเหงาลงในที่สุด พวกเขาหายไปจากสารบบฟุตบอลระดับโลกและระดับทวีปไปยาวนานเลยทีเดียว
ปี 2011 เป็นอีกปีที่ดูเหมือนว่าอนาคตของฟุตบอลทีมชาติโคลัมเบียจะสว่างสไวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อในฟุตบอลโคปา อเมริกา ที่อาเจนติน่าเป็นเจ้าภาพ โคลัมเบียมาพร้อมกับนักเตะทีมชาติที่ดูดีมีอนาคต จากเด็กดาวรุ่งเริ่มเติบโตเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง ปีนั้น "ราดาเมล ฟัลเกา" สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมกับ "เอฟซี ปอร์โต้" ยังมี "อูโก โรดาเยกา" จาก "วีแกน แอธแลนติก" ที่กำลังทำประตูเป็นกอบเป็นกำกับทีม หรือแม้แต่ "แจ็คสัน มาติเนซ" ที่กำลังรุ่งกับ "ชิเอพัส" ทีมจากลีกแม็กซิโก
ขณะที่แนวรับก็มีนักเตะอย่าง "มาริโอ เยเปส" หรือ "คริสเตียน ซาปาตา" พอขู่ให้แนวรุกทีมตรงข้ามได้หวาดกลัวอยู่บ้าง ... นั่นคือ จุดเริ่มต้นของแสงสว่างในทีมชาติโคลัมเบีย
ฟุตบอลโลกปี 2014 เป็นครั้งแรกในรอบ เกือบ 2 ทศวรรษที่ โคลัมเบีย สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่า ปี 2011 เริ่มเห็นแสงสว่าง แต่พอมาถึงปี 2013-14 นั้นต้องเรียกว่า เดินอยู่กลางแดด เลยทีเดียว "โคลัมเบีย เดอะ นิว เอจ" ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว พวกเขาพร้อมสรรพในทุกตำแหน่ง ทั้งแนวรุกถล่มประตู และกองกลางปั้นเกม รวมถึงแนวรับแข็งปั้ก
จากการเล่นให้สโมสรชื่อดังอย่าง "แอธเลติโก มาดริด" ทำให้ชื่อชั้นของ "ราดาเมล ฟัลเกา" กลายเป็นนักเตะแถวหน้าของโลกไปแล้วในที่สุด ขณะที่ "แจ็คสัน มาติเนซ" ก็กำลังไปได้ีดีกับ "เอฟซี ปอร์โต้" ดาวรุ่งเบอร์ล่าอย่าง "ลุยส์ มูเรียล" ของอูดิเนเซ่ ก็กำลังน่าจับตามอง แม้จะมีประสบการณ์ในเกมทีมชาติไม่มากก็ตาม และ "คาลอส แบคค้า" น้องใหม่จาก "เซบีญ่า" ที่ไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชาตินัก ก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี ทั้งกับทีมต้นสังกัดและเกมทีมชาติ
ขณะที่กองกลาง ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ อย่าง "เจมส์ โรดิเกซ" ผู้ที่ "ตำนานเบอร์ 10 แห่งโคลัมเบีย" อย่าง "วัลเดอลามาร์" เองก็ตั้งความหวังว่า ไอ้หนูเจมส์นี่แหละ ที่จะเป็นอนาคตของทีมชาติโคลัมเบีย รวมทั้งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการสืบตำนานเบอร์ 10 ต่อจากเขา ด้วยการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ "เอฟซี ปอร์โต้" ด้วยการย้ายทีมไป "เอเอส โมนาโก" ที่ราคา 45 ล้านยูโร แม้จะทำผลงานกับ โมนาโก ได้ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่หวังไว้ แต่กับเกมทีมชาติแ้ล้ว เจมส์ ยังคงโดดเด่นในการปั้นเกมริมเส้น และ หาจังหวะซัพพอร์ตและแอสซิทเพื่อนร่วมทีมได้อยู่บ่อยครั้ง ขณะที่นักเตะแบบ "กิลเยอร์โม กัวดราโด้" แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่โด่งดังมากมาย แต่ก็ทำผลงานได้ดักับทีมปัจจุบันอย่าง "ฟิออเรนติน่า" เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมลีกอย่าง "เฟรดี้ กัวร์ริน" ที่โชว์ฟอร์มได้เป็นที่น่าพอใจกับ "อินเตอร์ มิลาน"
แนวรับยังคงเป็นหน้าเก่า จอมเก๋าอย่าง "มาริโอ เยเปส" จาก "อตาลันต้า" และ "คริสเตียน ซาปาต้า" จาก "เอซี มิลาน" และ "ลุยซ์ เปเรียร์" จาก "ครูซ เอซูล" ลีกแม็กซิโก เองก็น่าจะเป็นแนวรับหลักๆ
แม้จะไม่ได้รวบรวมนักเตะระดับพระกาฬไว้ แต่ก็ไม่สามารถประมาท โคลัมเบียได้เลย ในรอบคัดเลือกโซน CONMEBAL พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มด้วยคะแนนเป็นรอง อันดับ 1 อย่าง "อาร์เจนติน่า" เพียง 2 แต้ม ด้วยผลสกอร์ 16 นัดถลุงไป 27 ประตู ผลประตูรวมเป็นรอง "อาร์เจนติน่า" 8 ประตู ผลต่างรวม 6 ประตูเท่านั้น บิ๊กแมต เห็นจะเป็นการยำ "อุรุกกวัย" 4-0 และ "โบลิเวีย" 5-0 นั่นเอง
ที่เคยบอกว่าโคลัมเบียเป็น "ยักษ์หลับ" ตอนนี้ "ยักษ์ตื่น" แล้วนะจ๊ะ
Confederation : CONMEBOL (South America)
Head Coach : José Pékerman
Captain : Mario Yepes
Most caps : Carlos Valderrama (111)
Top scorer : Arnoldo Iguarán (25)
FIFA ranking : 5
แล้วก็...
เราเขียนด้วยความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกอันน้อยนิด(จริงๆ)
หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้า เชิญเพิ่มเติมรายละเอียดได้ตามอัธยาศัย
ขอบคุณนะจ๊ะ ลูเยิฟ เลิฟยูว..
https://www.facebook.com/poprockonfilm
[World Cup 2014] แนะนำทีมชาติต่างๆในฟุตบอลโลก #2 :: Colombia
และดีใจจริงๆที่สิ่งที่เราเขียนพอจะมีประโยขน์กับใครบ้าง //กระซิก แค่คนเดียวก็ยังดี
เพราะฉะนั้น แม้คนจะตอบกระทู้ล้นหลาม หรือ ตอบแค่ 1 คน หรือไม่มีใครตอบเลย ดิฉันจะยังหน้าด้านเขียนต่อไปนะคะ
แต่คราวนี้ขอเขียนทีละประเทศพอ เขียนหลายประเทศทีเดียว แลดูทดท้อเกิน
แพล่มเยอะอีกแล้ว มาดู โคลอมเบียกันเลยเค่อะ
[World Cup 2014] แนะนำทีมชาติต่างๆในฟุตบอลโลก #1 :: Group C ::
Colombia,Greece,Ivory Coast,Japanhttp://ppantip.com/topic/31747408
Colombia The Coffee Growers
เป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษที่ยอดทีมชาวไร่ อย่าง "โคลัมเบีย" ห่างหายไปจากฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นระยะเวลาเกือบ 16 ปีจากการได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มครั้งสุดท้ายคือในปี 1998 ที่ฝรั่งเศส ปีนั้นการแพ้ โรมาเนีย และ อังกฤษ ทำให้พวกเขาไม่ได้ไปต่อ แม้จะจำได้เพียงเลือนลาง แต่นั่นก็เป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย ของตำนานทีมชาติโคลัมเบีย อย่าง "คาลอส วันเดอรามาร์"
ภายหลังจาก ฉายา "ยอดทีมชาวไร่กาแฟ" แปรเปลี่ยนไปเป็น "ยอดทีมโคเคน" ในระยะหลังอันเนื่องมาจาก ปัญหาเรื่องยาเสพย์ติดอันขึ้นชื่อลือชาในแวดวงฟุตบอลโคลัมเบีย ชื่อเสีย เริ่มมีมากกว่าชื่อเสียง ด้วยปัจจัยหลายด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม ทำให้วงการฟุตบอลโคลัมเบียเริ่มอ่อนแอลง และเงียบเหงาลงในที่สุด พวกเขาหายไปจากสารบบฟุตบอลระดับโลกและระดับทวีปไปยาวนานเลยทีเดียว
ปี 2011 เป็นอีกปีที่ดูเหมือนว่าอนาคตของฟุตบอลทีมชาติโคลัมเบียจะสว่างสไวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อในฟุตบอลโคปา อเมริกา ที่อาเจนติน่าเป็นเจ้าภาพ โคลัมเบียมาพร้อมกับนักเตะทีมชาติที่ดูดีมีอนาคต จากเด็กดาวรุ่งเริ่มเติบโตเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง ปีนั้น "ราดาเมล ฟัลเกา" สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมกับ "เอฟซี ปอร์โต้" ยังมี "อูโก โรดาเยกา" จาก "วีแกน แอธแลนติก" ที่กำลังทำประตูเป็นกอบเป็นกำกับทีม หรือแม้แต่ "แจ็คสัน มาติเนซ" ที่กำลังรุ่งกับ "ชิเอพัส" ทีมจากลีกแม็กซิโก
ขณะที่แนวรับก็มีนักเตะอย่าง "มาริโอ เยเปส" หรือ "คริสเตียน ซาปาตา" พอขู่ให้แนวรุกทีมตรงข้ามได้หวาดกลัวอยู่บ้าง ... นั่นคือ จุดเริ่มต้นของแสงสว่างในทีมชาติโคลัมเบีย
ฟุตบอลโลกปี 2014 เป็นครั้งแรกในรอบ เกือบ 2 ทศวรรษที่ โคลัมเบีย สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่า ปี 2011 เริ่มเห็นแสงสว่าง แต่พอมาถึงปี 2013-14 นั้นต้องเรียกว่า เดินอยู่กลางแดด เลยทีเดียว "โคลัมเบีย เดอะ นิว เอจ" ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว พวกเขาพร้อมสรรพในทุกตำแหน่ง ทั้งแนวรุกถล่มประตู และกองกลางปั้นเกม รวมถึงแนวรับแข็งปั้ก
จากการเล่นให้สโมสรชื่อดังอย่าง "แอธเลติโก มาดริด" ทำให้ชื่อชั้นของ "ราดาเมล ฟัลเกา" กลายเป็นนักเตะแถวหน้าของโลกไปแล้วในที่สุด ขณะที่ "แจ็คสัน มาติเนซ" ก็กำลังไปได้ีดีกับ "เอฟซี ปอร์โต้" ดาวรุ่งเบอร์ล่าอย่าง "ลุยส์ มูเรียล" ของอูดิเนเซ่ ก็กำลังน่าจับตามอง แม้จะมีประสบการณ์ในเกมทีมชาติไม่มากก็ตาม และ "คาลอส แบคค้า" น้องใหม่จาก "เซบีญ่า" ที่ไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชาตินัก ก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี ทั้งกับทีมต้นสังกัดและเกมทีมชาติ
ขณะที่กองกลาง ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ อย่าง "เจมส์ โรดิเกซ" ผู้ที่ "ตำนานเบอร์ 10 แห่งโคลัมเบีย" อย่าง "วัลเดอลามาร์" เองก็ตั้งความหวังว่า ไอ้หนูเจมส์นี่แหละ ที่จะเป็นอนาคตของทีมชาติโคลัมเบีย รวมทั้งเหมาะสมอย่างยิ่งกับการสืบตำนานเบอร์ 10 ต่อจากเขา ด้วยการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของ "เอฟซี ปอร์โต้" ด้วยการย้ายทีมไป "เอเอส โมนาโก" ที่ราคา 45 ล้านยูโร แม้จะทำผลงานกับ โมนาโก ได้ไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่หวังไว้ แต่กับเกมทีมชาติแ้ล้ว เจมส์ ยังคงโดดเด่นในการปั้นเกมริมเส้น และ หาจังหวะซัพพอร์ตและแอสซิทเพื่อนร่วมทีมได้อยู่บ่อยครั้ง ขณะที่นักเตะแบบ "กิลเยอร์โม กัวดราโด้" แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่โด่งดังมากมาย แต่ก็ทำผลงานได้ดักับทีมปัจจุบันอย่าง "ฟิออเรนติน่า" เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมลีกอย่าง "เฟรดี้ กัวร์ริน" ที่โชว์ฟอร์มได้เป็นที่น่าพอใจกับ "อินเตอร์ มิลาน"
แนวรับยังคงเป็นหน้าเก่า จอมเก๋าอย่าง "มาริโอ เยเปส" จาก "อตาลันต้า" และ "คริสเตียน ซาปาต้า" จาก "เอซี มิลาน" และ "ลุยซ์ เปเรียร์" จาก "ครูซ เอซูล" ลีกแม็กซิโก เองก็น่าจะเป็นแนวรับหลักๆ
แม้จะไม่ได้รวบรวมนักเตะระดับพระกาฬไว้ แต่ก็ไม่สามารถประมาท โคลัมเบียได้เลย ในรอบคัดเลือกโซน CONMEBAL พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มด้วยคะแนนเป็นรอง อันดับ 1 อย่าง "อาร์เจนติน่า" เพียง 2 แต้ม ด้วยผลสกอร์ 16 นัดถลุงไป 27 ประตู ผลประตูรวมเป็นรอง "อาร์เจนติน่า" 8 ประตู ผลต่างรวม 6 ประตูเท่านั้น บิ๊กแมต เห็นจะเป็นการยำ "อุรุกกวัย" 4-0 และ "โบลิเวีย" 5-0 นั่นเอง
ที่เคยบอกว่าโคลัมเบียเป็น "ยักษ์หลับ" ตอนนี้ "ยักษ์ตื่น" แล้วนะจ๊ะ
Confederation : CONMEBOL (South America)
Head Coach : José Pékerman
Captain : Mario Yepes
Most caps : Carlos Valderrama (111)
Top scorer : Arnoldo Iguarán (25)
FIFA ranking : 5
แล้วก็...
เราเขียนด้วยความรู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลกอันน้อยนิด(จริงๆ)
หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้า เชิญเพิ่มเติมรายละเอียดได้ตามอัธยาศัย
ขอบคุณนะจ๊ะ ลูเยิฟ เลิฟยูว..
https://www.facebook.com/poprockonfilm