ความรู้สึกแบบนี้ มันคืออะไรกันแน่

คือ ขอรบกวน อยากรู้ว่าตัวเองคิดอะไร ยังไง ไม่กล้าปรึกษาเพื่อนหรือใคร
   เรื่องของเรื่อง...ตั้งแต่สมัย ป.3 หลังเลิกเรียนทุกวัน จะมีการเรียนพิเศษ เด็กผู้ชายคนนี้ก็จะมาเรียนด้วย
ซึ่งเค้าจะเป็นเด็กอีกโรงเรียนที่มาเรียนกับเรา กิจกรรมทุกวันๆ คือ เรียน เล่น เรียนด้วยกันตลอดช่วงเย็นจนกลับบ้าน
เราค่อยข้างสนิทกัน เวลากลับบ้านก็จะขี่จักรยานแข่งกัน บ้านเราสองคนอยู่คนละฝั่งคลองกั่น หน้าบ้านตรงกัน มองเห็นทางเข้าบ้านกัน แต่ตอนนั้นยังเด็กมากไม่ได้คิดอะไร จนถึง ป.6 เราก็ต้องย้ายไปเรียนมัธยม ซึ่งตอนมัธยมต้นเราเรียนคนละโรงเรียนและไม่ได้เรียนพิเศษกันต่อ ส่วนเค้าเรียนในเมือง แต่เราเรียนใกล้บ้าน แล้วตอนนั้นเพื่อนๆเราก็แซวว่าเรากับเค้าชอบกันอะไรทำนองนี้ เราเลยไม่ชอบ เอามากๆ แซวกันจนเราไม่กล้ามองหน้าเค้า จนวันนึง ด้วยความที่ถ้าย้อนกลับไปได้คงไม่ทำ เราเขียน .จดหมายน้อย.ให้เค้า บอกว่า เราไม่ได้ชอบเธอนะ เพื่อนแซวกันเอง ตั้งแต่นั้นมา เวลาเราเจอกันหรือทำอะไร ก็แทบจะไม่มองหน้ากันเลย จนมัธยมปลาย เราสอบเข้าเรียนโรงเรียนในตัวเมืองได้ ก็เลยได้ย้ายไปเรียนที่เดียวกัน แต่...ด้วยความที่ดันเรียนแผนเดียวกัน ห้องใกล้กัน ทำให้ต้องเจอหน้ากันบ่อยๆ แต่เราก็แค่ มองกันเฉยๆ ไม่ได้ยิ้ม แต่จะเป็นเราสะมากกว่าที่หลบสายตา รู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ทำไปตอน .จดหมายน้อย.และสิ่งที่บอกไป ก็เป็นแบบนี้ 3ปี ม.4-ม.6 จนไปเรียนต่อมหาลัย ก็ดันไปเรียนมหาลัยเดียวกัน ซึ่งก็ไม่เคยเจอกันเลยนะ แต่มารู้ทีหลังว่าเค้าเคยเห็นเรา ในมหาลัย ช่วงเวลาหลายๆปีที่ผ่านมา ก็มีบางครั้งที่เหมือนเพื่อนเค้าแซวเรา แต่มันไม่ได้ชัดเจน หลายๆครั้ง แต่ก็ไม่บ่อย เหมือนเค้าจะบอกว่าเป็นเพื่อนหรืออะไร ไม่ทราบ.. และเราก็ดันเรียนจบพร้อมกัน รับปริญญาปีเดียว เพราะเพื่อนบ้านเล่าให้ฟัง
         จนเมื่อไม่นานมานี้ พอดีบ้านเค้ามีงานบวช บวชเค้าเอง ซึ่งเราก็..อยู่ตรงข้ามบ้านกันอะนะ แล้วเราก็รุ่นเดียวกันในหมู่บ้าน คือใครๆก็ทราบ เพื่อนเราที่เค้าคุ้นๆกัน ก็คงต้องไป แต่เราเค้าไม่ได้มาบอก แต่การ์ดเชิญที่บ้านได้อยู่แล้ว เพราะแม่ไป แต่ก็คิดอยู่ว่า...จะไปดีหรือไม่ไปดี รู้สึกถ้าไม่ไปก็จะดูน่าเกลียดไปหน่อยไหม แล้วเราต้องดูร้านด้วย พอดีดันไปเห็นเบอร์เค้าที่ใช้เพื่อนคนนึงที่จะมางาน ในหน้าฟีด ก็เลย คิดว่า...ส่งข้อความไปบอก และแสดงความยินดีกับครอบครัวเค้าก็น่าจะดี แล้วเค้าก็ส่งข้อความกลับมาขอบคุณ และก็โทรมาหา ขอโทษที่ไม่ได้ไปบอก เพราะมารู้ทีหลังว่าเค้าก็ไม่กล้ามาบอก แล้วเค้าก็เชิญไปงานบวชช่วงเช้าของวันพรุ้งนี้ บอกมาให้ได้นะ ก็เลยคิดบอกไปว่า อาจจะไป เพราะหลายๆอย่าง กลัวไม่มีเพื่อน จนวันรุ่งขึ้นก็ตื่นเพื่อจะไปงาน เค้าก็โทรมาบอกว่า มีคุณครูตุ่มมา มีเพื่อนแล้วนะ ครูไปรอที่วัด เราก็เลย โอเค ไป..!! (ครูตุ่ม คือครูที่สอนพิเศษเราสองคน และเป็นครูที่ยังไปมาหากันบ้าง ถ้ามีเวลา เป็นเวลา สิบกว่าปี 15-16ได้แล้ว) พอไปงานบวช ก็ไปเดินอยู่ในขบวนงานเค้า จนเค้าเข้าโบสถ์ ก็กลับ แล้วเค้าก็อยูวัดจนสิบกว่าวัน พอษึกออกมา เค้าก็โทรมาหา แต่ไม่ได้รับสาย จนโทรกลับไป ว่ามีอะไรหรือป่าว เค้าสงสัยว่าเราได้เบอร์เค้ามาได้ยังไง อะไรแบบนั้น ..เค้ามาบอกทีหลังว่าไม่ค่อยมีใครรู้จักเบอร์เค้า.. แล้วเราก็เลยถามเบอร์ครูตุ่มกับเค้าเห็นเชิญมางาน นึกว่ามีเบอร์ แต่เค้าบอกไม่มี เลยบอกไปว่า ...คิดว่าจะไปหาครูอยู่ ไม่มีเพื่อน เพราะโทรไปครูไม่รับ กลัวไม่เจอ เลยถามไปว่า ไปไหม เค้าก็เลยอยากไป ขอขมาด้วยหลังจากษึกพอดี ก็เลยได้ไปด้วยกัน เค้าก็อาสามารับที่บ้านแล้วไปด้วยกัน ตลอดระยะทางนั้งรถไปด้วยกัน บอกตรง...ว่าแปลกๆ จากคนที่แทบไม่ได้คุยกัน แทบไม่มองหน้ากัน ต้องมานั้งรถคันเดียวกัน ตลอดทางก็พูดกันไปมาถึงเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องงานบวชที่ไม่ได้มาบอก เพราะไม่กล้า เรื่องที่เราไม่ได้คุยกันมานานมากแค่ไหน เรื่องทำงาน เรื่องเรียนว่าเคยเจอ เคยเห็นกัน เรื่องตอนเด็ก แต่ก็คั่นด้วย....เอ่ออ... เรื่องนั้นไม่ต้องพูดถึงหรอกนะ ฮ่าาาา แล้วก็ถามว่า ลืมดูแฟนเธอเลย เค้าก็บอกไม่มีหรอก ไม่ค่อยมีผู้หฺญิงรู้เบอร์หรอก เพื่อนยังไม่ค่อยมีเลย... แล้วก็เปลี่ยนเรื่อง จนถึงบ้านครูก็เข้าไปนั้งคุยกันนานนมมากๆ เพราะเค้ากับครูไม่ได้เจอกันนานกว่าเรา พอๆเรากับเค้าไม่ได้คุยกัน จนดึกมากก็กลับบ้าน แล้วเค้าก็อาสาพาไปเลี้ยงข้าวต้มรอบดึก ก็ไปกินกัน คุยกันถึงเพื่อนบ้าง แต่ระหว่างคุยเราคิดว่าเราปกตินะ อีกอย่างเราทั้งคู่ไม่ได้คุยกันนาน การจะเขินกันบ้าง ก็คงไม่แปลกใช้ไหม..? ดูจากสีหน้าท่าทาง ในหลายๆครั้งที่เค้าแอบมอง ก็ ทำให้เรารู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แต่ก็เฉยๆไว้ จนมาส่งถึงบ้านกลับบ้านกันเรียบร้อย
       แต่แล้วก็พบว่าตัวเองหลุดลอยแปลก คิดถึงเรื่องที่เราคุยกัน เวลาที่เราใช้ด้วยกัน แบบไม่เคยเป็นมาก่อน ขับรถไป ก็ดันเลยทางเลี้ยวเข้าไปยังเป้าหมาย 2 รอบ วนไปวนมาไกลเลย จะว่าไปเค้าก็เป็นรักแรกแบบเด็กๆของเราเลยนะ แต่ด้วยเหตุการณ์ต่างๆมากมาย ที่เราไม่ได้พูดคุยกันจน โตมาถึงตอนนี้ มันก็ อธิบายไม่ถูก .....ณ ตอนนี้ ทั้งเค้าและเรา ก็ไม่ได้มีแฟนนะ ส่วนเราเมีแฟนตอนเรียนมหาลัยปี 1 คบกันมา 8 ปีเต็ม จะขึ้นปีที่ 9 เลย เราเลยตัดสินใจเลิกด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง และเราเลือกกลับมาอยู๋บ้านกับแม่ เพราะพ่อเสีย มาอยู่เป็นเพื่อนแม่ มีคนเข้ามาบ้าง แต่น้อย เพราะเป็นคนไม่ค่อยเปิดใจเท่าไหร่ ก็ทำเป็นไม่สนใจ และปฎิเสธไป ส่วนเค้าเองเหมือนจะเคยได้ยินว่ามีแฟน แต่เค้าบอกว่า ตอนนี้ไม่มี ใครบอก ไม่มีสะหน่อย เคยนะ ต้องเคย มีกันทั้งนั้นแหละ อะไรประมาณนั้น... ส่วนนิสัยที่ได้พูดคุยกัน มีอะไรหลายๆอย่างที่มองคล้ายๆกัน บอกตรง...ชอบนิสัยหลายๆอย่างที่ไม่เคยเจอในผู้ชายหลายๆคนที่เคยเจอมาเลย หลายมุมที่เรามองเค้าผิดไป พอได้ใช้เวลาด้วยกันเลยทำให้เรามอง ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ส่วนความรู้สึกมันบอกไม่ถูก แต่ร็สึกดีที่ได้กับมาคุย ได้กับมาเจอกัน เค้าไม่ใช้ผู้ชายหน้าตาดีนะ บอกตรงที่ผ่าน เราก็เลือกเยอะ...แต่ชีวิตนึง...จะหาคู่ชีวิตที่ต้องอยู๋ด้วยกันไปตลอดจนใครคนนึงจากกันไป มันไม่ใช้เรื่องง่าย
       แต่ที่แน่...เราร็สึกว่า นี้ฉัน..!!~ แอบชอบเค้า หรอ...? หรือแค่เพราะว่าเราเพิ่งกับมาพูดคุยกันเลยยังคงแปลกๆอยู่...? บอกตรงนะ ประสบการณ์ความรักมันก็มาบ้าง แต่ในบ้างครั้งก็ไม่เข้าใจและแน่ใจ ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก แต่ร็สึกดีที่ได้กับมาคุย ได้กับมาเจอกัน ร็สึกสบายใจ แบบไม่เคยเจอในผู้ในผู้ชายหลายๆคน  
       ขอคำแนะนำ และขอถามว่าตกลงนี้เรารู้สึกอะไรแบบไหนกันแน่ ^^   อาจจะเขียนแบบงงๆ มึนๆ สับสนๆ หน่อยนะค่ะ ขออภัยด้วยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ^^

"คุณก็เหงา เค้าก็รอ"

อย่าซีเรียสกับความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ อิอิ
ขอให้เจอคำตอบที่แท้จริงในใจ ไวไว..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่