เคยคบคนๆนึงใช้เวลาปีกว่าก่อนจะเลิกกันและตอนนี้รักษาสถานะ"เพื่อน"เอาไว้ ตลอดเวลาที่คบกันก็ใช่ว่าจะมีความสุขซักเท่าไหร่ เค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก เห็นแก่ตัวแม้กระทั้งเรื่องเซ็กเรายอมและเปลี่ยนแปลงเพื่อเค้าทุกอย่างในขณะที่เค้าเองแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเราเลย(ตอนคบกับเราเค้ามีชีวิตที่ดีขึ้นเยอะจากคนที่ชอบเที่ยวกลางคืนแหล่งอโคจรมั่วสุมทางเพศและสิ่งมึนเมา เราเป็นคนๆเดียวที่พูดแล้วเค้าฟังถึงจะยากหน่อยก็เถอะ เรื่องบางเรื่องแม่เค้ายังบอกให้เราช่วยพูดให้ จนทุกวันนี้เค้าเอาการเอางานและก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนั้นอีก)แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่มีต่อเราแต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเค้าเอง สำหรับเรานั้นเค้ายังคงเห็นแก่ตัวและเอาเปรียบเราเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้เราเลิกรักเค้าไม่ได้ทั้งๆที่เลิกกันไปก็นานแล้ว เค้ายังโทรหาเราทุกวันคุยกันในสถานะเพื่อนแค่เพื่อนจริงๆแต่ในใจเราก็ยังรักเค้าอยู่เต็มอก หลายครั้งเค้าจะพูดถึงแฟนใหม่ของเค้าให้เราฟังว่าไปทำอะไรที่ไหนยังไงแล้วก็เอาเรื่องรักครั้งใหม่ของเค้ามาให้เราเป็นที่ปรึกษา เราก็ให้คำปรึกษาเค้าไปโดยที่ไม่เคยบิดเบือนความจริงเพื่อให้เค้าต้องเลิกกัน บอกเค้าว่าพยายามคิดในแง่บวกเข้าไว้หลายครั้งที่เราพยายามบล็อคสายบล็อคไลน์เค้า. แต่เค้าจะหาวิธิติดต่อเรามาจนได้แล้วพูดว่า ทำไมระหว่างเราสองคนรักษาสถานะเพื่อนไว้ไม่ได้เหรอความรักต้องได้ครอบครองเสมอไปเหรอ. ทุกคำที่เค้าพูดเราเอามาคิดและเราก็กลับไปคุยกับเค้าอย่างเก่า ในขณะที่เค้าเคยรับฟังเราบ้างรึเปล่าว่าการที่เรายังลืมเค้าไม่ได้แล้วต้องมานั่งรับฟังบอกว่าเค้ารักคนนั้นคนนี้มันทรมานแค่ไหนตอนเค้าคบกับเราเค้ายังไม่เห็นจะดูสนใจและเป็นกังวลมากขนาดนี้เลย จนตอนนี้เค้ามีแฟนสองคนแล้วหลังจากเรา เราดูโง่มากมั๊ยยที่ทุกวันนี้เราพยายามคิดว่าความรักที่แท้จริงคือการให้ไม่ใช่การครอบครอง ทุกครั้งที่เค้าโทรมาคุยเราก็พยายามนึกถึงคำพูดนี้ตลอด เราจะให้เท่าที่เราจะทำได้ หลายคนอาจสงสัยว่าเราทำไปเพื่ออะไรซึ่งเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันรู้แค่ว่ามันเลิกไม่ได้(ส่วนหนึ่งเราก็เชื่อในเรื่องของเวรกรรมตั่งแต่ชาติก่อน)และมันจะผิดไหมถ้าหากเราแอบหวังในใจลึกๆว่าถ้าเค้าเลิกกับแฟนเค้าคนปัจจุบนเค้าจะหันกลับมามองคนคนนี้ที่ยังอยู่เคียงข้างเค้าเสมอมาไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขเพียงใด
ใครไม่เป็นอย่างเราคงไม่เข้าใจ ว่ามันทรมานแค่ไหนน...